ผ่าเบื้องหลังคดีฆ่าฝังดิน ตร.สงขลาตามแกะรอย จากคนหายสู่ฆาตกรรม : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

นับเป็นเวลาเกือบเดือนที่ครอบครัวออกติดตามหาตัว นายวรัญชิต หนูสันทัด หรือ ฟิล์ม อายุ 23 ปี มีข่าวพบศพที่ไหนใกล้ไกลทั้งแม่และเมียของนายวรัญชิตต้องดั้นด้นไปดูด้วย ความหวั่นใจ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค. พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.วิวัฒนชัย ธรรมวิทยาภูมิ ผกก.สภ.นาหม่อม, เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9, ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาหม่อม, ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 เข้าตรวจสอบเหตุพบศพถูกฆ่าฝังดินในสวนมะพร้าว บ้านนาต้นปีก หมู่ 6 ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม จ.สงขลา

สดจากสนามข่าว

ตร.เก็บหลักฐาน

ขณะที่มี นางอังศุวีร์ ขุนหมุด อายุ 43 ปี และ น.ส.ศุภรัศมิ์ พวงมาลา มาดูศพ ซึ่งพอน.ส.ศุภรัศมิ์เห็นชุดที่ใส่ก็ยืนยันว่าเป็นศพของนายวรัญชิต หนูสันทัด หรือฟิล์ม อายุ 23 ปี สามีของตนที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่กลางคืนของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นาหม่อม

เบื้องหลังคดีสยองครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. นางอังศุวีร์ ขุนหมุด อายุ 43 ปี มารดา และน.ส.ศุภรัศมิ์ พวงมาลา เมีย เข้าแจ้งความที่ สภ. นาหม่อม ว่านายวรัญชิตหายออก จากบ้าน

น.ส.ศุภรัศมิ์ให้การว่า สามีขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 สีม่วง ออกไปก่อนแช็ตไลน์มาหาตอนเที่ยงคืนว่า “รักเหมียวนะ รักเหมียวคนเดียว ฟิล์มขอโทษและรักลูกทั้งสองคนนะ” หลังจากนั้นตอนตีสอง ตนก็ได้ตอบไลน์กลับไปหาแต่ก็ไม่เปิดอ่านและโทรศัพท์ ก็ติดต่อไม่ได้ทั้งสองเครื่อง

คดีนี้มีแนวโน้มว่าอาจไม่ใช่คดี คนหาย เพราะเมื่อตำรวจไปตรวจ ที่ขนำซึ่งนายวรัญชิตมักไปนั่งมั่วสุมกับเพื่อนๆ เป็นประจำ ก็พบสร้อยข้อมือสแตนเลสและชิ้นส่วนมือถือถูกเผาตกอยู่ ซึ่งทางแม่และเมียยืนยันว่าเป็นสร้อยของนายวรัญชิต

สดจากสนามข่าว

จ่อยิงซ้ำ

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 9 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.จ.สงขลา และพ.ต.อ.วิวัฒนชัย ธรรมวิทยาภูมิ ผกก.สภ.นาหม่อม เร่งสืบสวนขยายผล เพราะเชื่อว่านายวรัญชิตน่าจะถูกฆ่าตายแล้ว

ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลและเบาะแส นำตัวเพื่อนร่วมก๊วนของนายวรัญชิตมาสอบสวน พยายามแกะรอยทั้งคืน จนได้ข้อมูลสำคัญว่ามีจุดต้องสงสัยอยู่จุดหนึ่ง คือที่ริมถนนสายเอเชีย ลึกเข้าไปประมาณ 30 เมตร หมู่ 6 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม ซึ่งอยู่ห่างจากขนำจุดแรกออกไปประมาณ 6 ก.ม. ในคืนเกิดเหตุมีการเข้าออกผิดปกติ

ไปตรวจดูก็พบหลุมต้องสงสัยยาวประมาณเมตรครึ่งหรือเท่าตัวคน ลึก 40 เซนติเมตร ขุดลงไปพบถุงดำฝังอยู่ในหลุม แกะถุงออกพบชิ้นส่วนกระดูกร่างกายของมนุษย์ สวมเสื้อและกางเกงฟุตบอล พบหัวกระสุนปืนที่กะโหลก 1 หัว บริเวณท้ายทอยมีรอยถูกทุบด้วยของแข็ง และที่ถุงมีร่องรอยคล้ายกระสุนปืน 3 รู เมื่อนางอังศุวีร์มาดูก็ยืนยันชัดเจนว่าเป็นศพของลูกชายที่หายไป ซึ่งสวมใส่ชุดฟุตบอลเหมือนกัน

สดจากสนามข่าว

ลากศพไปฝัง

น.ส.ศุภรัศมิ์ให้ข้อมูลว่า สามีมักจะมานั่งกับกลุ่มเพื่อนที่รู้จักกัน 6-7 คนที่ขนำ และใส่สร้อยข้อมือเป็นประจำ แต่หลังจากที่หายตัวไปเพื่อนกลุ่มนี้ก็ไม่เคยมีใครมาหาสามี หรือมาถามว่าสามีไปไหน ตนได้ติดต่อไปถามก็ไม่มีใครบอกว่าสามีไปไหน และช่วงหลังๆ ทราบว่าสามีเริ่มมีปัญหากับเพื่อนในกลุ่ม และพยายามแยกตัวออกมา ในคืนเกิดเหตุก็คาดว่าน่าจะมาที่กระท่อมนี้

วันรุ่งขึ้น ที่ สภ.นาหม่อม พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 แถลงจับกุม นายนัฐศาสตร์ หรือ นิว แก้วทองกุล อายุ 24 ปี, นายวรากร หรือ กร ปานเมือง อายุ 30 ปี, นายอภิรักษ์ หรือ มิน สะอาด อายุ 26 ปี, นายพงศธร หรือ โอม พืชน์ไพฑูรย์ อายุ 23 ปี และ นายกิตติพัฒน์ หรือ ต้น แก้วสกูล อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่านายวรัญชิต

พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีสาเหตุมาจากนายวรัญชิตมีเรื่องกับนายนัฐศาสตร์ เพราะนายนัฐศาสตร์เข้าใจว่านายวรัญชิตเป็นสายให้ตำรวจไปแจ้งจับแม่ของตนในคดียาเสพติด

คืนวันที่ 10 พ.ค. เวลา 03.00 น. นายวรัญชิตได้ส่งข้อความไปหานายนัฐศาสตร์ ซึ่งกำลังนั่งมั่วสุมเสพยาเสพติดกับพวกทั้ง 5 คน อยู่ที่ขนำ ในสวนมะพร้าว หมู่ 6 ต.ทุ่งขมิ้น ว่าจะเข้าไปเอายาเสพติด และจังหวะนั้นนายพงศธรได้นำโทรศัพท์มือถือของนายนัฐศาสตร์ส่งข้อความกลับไปต่อว่านายวรัญชิตเป็นสายให้ตำรวจ

สดจากสนามข่าว

รถจยย.ผู้ตาย

ทันทีที่นายวรัญชิตมาถึงขนำก็ได้เดินไปต่อยหน้านายพงศธร จากนั้นทั้งหมดจึงรุมทำร้ายนายวรัญชิต ทั้งเตะ และใช้จอบตีเข้าที่ศีรษะ รุมซ้อม และตีด้วยไม้จนฟุบกับพื้น และเชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตคาที่

จากนั้นนายวรากรได้ขี่รถจยย.กลับไปเอาอาวุธปืนมาจากบ้าน และร่วมกับนายนัฐศาสตร์ช่วยกันนำร่างพับขายัดใส่กระสอบและนำถุงพลาสติกสีดำสวมที่บริเวณศีรษะ นำร่างพาดกับรถจยย.ของผู้ตายเอาศพไปทิ้งริมถนนสายเอเชีย ตรงข้ามโรงงานแอสฟัลโชคบัญชา หมู่ 2 ต.พิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา

โดยนายนัฐศาสตร์ยังได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่บริเวณศีรษะซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่าตายจริง แล้วจึงขี่รถ จยย.ของผู้ตายไปทิ้งที่บริเวณสระน้ำ บ้านทุ่งโตนด หมู่ 1 ต.นาหม่อม หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ให้เพื่อนมารับกลับไปยังขนำที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีในช่วงรุ่งเช้า สุดท้ายตำรวจก็สืบสวน เริ่มจากแค่คนหายธรรมดา จนกลายมาเป็นเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญอีกคดี

อีกหนึ่งคดีสยองที่ต้นสายปลายเหตุ ไม่พ้นมีเรื่องของยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง

อนงค์ วงศ์ช่วย เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน