คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
เป็นภาวะหนักหน่วงอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม
ที่ต้องเผชิญแรงกดดันรอบทิศทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรีที่อุตส่าห์ไปทาบทามนายปรีดีดาวฉายมาดำรงตำแหน่งรมว.คลัง แทนทีมของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ถูกกดดันจนต้องวางมือ
แต่แล้วนายปรีดีทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องไขก๊อกลาออกให้เหตุผลเรื่องสภาพสังขารไม่ไหวกับการป่วยไข้ที่ต้องตรากตรำงานหนัก
จะเป็นข้ออ้างหรือข้อเท็จจริงเชื่อว่าสังคมพิจารณาได้ไม่ต้องว่ากล่าวกันให้มากความ
แต่ที่แน่ๆตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาพที่ไม่มีรมว.คลัง มาปฏิบัติหน้าที่ และแม้นายกฯ จะยังยืนยิ้มได้บอกทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล เนื่องจากยังทำงานต่อเนื่อง
ทั้งกลไกข้าราชการรัฐมนตรีช่วยและมีตัวนายกฯเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคอยบัญชาการ
เรียกว่าหากฟังนายกฯ ให้สัมภาษณ์พูดเป็นฉากๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าตำแหน่งรมว.คลังนี่แทบจะไม่มีความสำคัญ
ไม่ต้องมีมันก็คงจะได้!??
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นการสะกดจิตตัวเองหรือเชื่ออย่างนั้นจริงๆแต่ที่แน่ๆ เสียงตอบรับจากภาคธุรกิจและการลงทุนล้วนสวนทางกับความเชื่อมั่นของนายกฯ
ที่สำคัญหากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาการเมืองภายในรัฐบาล ที่มักจะมีคนชอบล้วงลูก ตั้งข้าราชการโน่นนั่นนี่
ต่อให้หาคนมาเป็นรมว.คลังได้ เหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดขึ้นซ้ำอีก
เป็นไปได้อีกทางก็คือทำตามที่พรรคเล็กเสนอนั่นก็คือนั่งควบรมว.คลังด้วยตัวเอง
แสดงให้โลกรู้ไปเลยว่านอกจากเรื่องการทหารเรื่องการปฏิวัติเรื่องการใช้ม.44
ยังมีเรื่องเศรษฐกิจที่มีความสามารถอย่างเอกอุ
หรือหากกลัวขับเคลื่อนไม่ได้ดังใจจะลองยึดกระทรวงเศรษฐกิจจากพรรคร่วมรัฐบาลมาบริหารเองให้หนำใจก็คงจะดีไม่หยอก
เอาให้เต็มที่กันสักทีเผื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างโทษนั่นโทษนี่เวลาเศรษฐกิจพังพินาศ
ทำเองรับผิดชอบเองให้สมเป็นลูกผู้ชายชาติทหาร
ก็คงดูดีอยู่เหมือนกัน
โดย…รุก กลางกระดาน