“สมิงสามผลัด”

แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะพูดชัดเจนว่าไม่ให้เจ้าหน้าที่ไปทำอะไรกลุ่มนิสิตจุฬาฯ ที่ชูป้าย “ชาวจุฬารักลุงตู่ (เผด็จการ)” เมื่อวันก่อนที่บริเวณสยาม สแควร์วัน

แต่ในความเป็นจริงมิได้เป็นเช่น นั้นเลย

เพราะน.ศ.กลุ่มดังกล่าวกลับโดนคุกคาม โดนเจ้าหน้าที่ตามไปถึงบ้านพัก ไปไล่ถามข้อมูลถามประวัติที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “วันนี้มีตำรวจ 2 คนไปคุยกับแม่ที่บ้าน”

จนกลุ่มน.ศ.ที่ถูกเจ้าหน้าที่คอยติดตามสอดส่องหาข้อมูลส่วนตัว ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR) เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ พยายามปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น และคุกคามนิสิตนักศึกษาอย่างร้ายแรง

ขณะที่นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษา ฮิวแมนไรต์ วอตช์ ประจำประเทศไทย ชี้ชัดว่าการคุกคามกลุ่มน.ศ.สะท้อนถึงบรรยากาศภายใต้รัฐบาลคสช.ที่ปฏิบัติต่อคนเห็นต่าง

คล้ายกับกรณี นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ที่ใส่เสื้อสกรีนข้อความไม่เอารัฐประหาร ชู 3 นิ้วต่อต้านเจาะจงต่อหน้าพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีจนถึงวันนี้

นายสุนัยฟันธงว่าการกระทำของ เจ้าหน้าที่ต่อกลุ่มน.ศ. ขัดแย้งกับการที่พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติอย่างชัดเจน

แต่ที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือการที่พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาชี้แจงว่าไม่ได้คุกคามกลุ่มน.ศ.

“เจ้าหน้าที่เพียงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติธรรมดา ไม่ได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์หรือรถถังเข้าไป และหากนักศึกษาทำผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย” เสธ.ไก่อูกล่าว

ชี้แจงแบบน้ำขุ่นๆ แบบนี้แหละที่จะพังกันทั้งแถบ

การคุกคามไม่ใช่แค่เอาปืนไปจ่อ หรือเอารถถังออกมาวิ่งบนถนนเท่านั้น

วิธีบุกไปถึงบ้าน บุกไปที่คณะ ส่งคนไปสะกดรอยตาม เท่ากับสร้างความหวาดกลัว

ถือเป็นการคุกคาม เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน