ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
หมดจากช่วงหยุดยาวฉลองสงกรานต์ ที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้ใช้โอกาสนี้พักผ่อน
ทั้งกลับภูมิลำเนา พบปะญาติมิตร หรือสังสรรค์กับเพื่อนฝูงให้สนุกสุดเหวี่ยง คนในกทม.ไม่ได้ไปไหน ก็ได้พบกับสภาวะรถโล่งให้ชุ่มชื่นหัวใจ
เมื่อหมดเทศกาลก็กลับมาสู่โลกของความเป็นจริงกันสักที
โลกที่ต้องทำมาหากิน หาเงินเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว ภายในเศรษฐกิจที่อัตคัดฝืดเคือง
ความหวังเดียวคือทำมาหากินให้ลืมตาอ้าปาก ให้ครอบครัวได้อยู่สบาย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ ก็คือการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม
จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีคนจำนวนไม่น้อย ที่เรียกร้อง และทวงคำสัญญาจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ในเรื่องของการเลือกตั้ง
ยิ่งสถานการณ์น่าเป็นห่วง มีการยื่นตีความกฎหมายที่เขียนกันเอง จนไม่รู้จะถูกยื้อไปอีกนานเท่าใด
ก็ย่อมรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนที่เวลาถูกทอดนานออกไป เพราะเท่ากับเวลาแห่งของโอกาสของเขาก็ลดหายไปด้วยเช่นกัน
แต่ทุกอย่างก็ส่งสัญญาณดีขึ้น และชี้ให้เห็นว่าคสช.เองก็มุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้ง
เมื่อสั่งการให้ใช้อำนาจผู้ว่าฯกทม. แต่งตั้งนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ และแกนนำกปปส. เข้าเป็นรองผู้ว่าฯ
แถมเกิดขึ้นหลังจากที่เข้าพบสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล
รวมทั้งอดีตหัวหน้าพรรคอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยืนยันว่าคสช. เป็นคนทาบทามนายสกลธีเอง
จึงมีโอกาสอย่างสูงที่จะมุ่งสู่การเลือกตั้ง
ยิ่งคสช.มีแบ๊กยิ่งใหญ่ระดับกปปส. ที่เคยแสดงอิทธิฤทธิ์ชัตดาวน์กรุงเทพฯ เป็นฐาน
รวมถึงผลจากม็อบกปปส. 4 ปีที่ผ่านมา ว่าดีเยี่ยมประเสริฐกันถึงขั้นไหนด้วย
ยิ่งทำให้อนาคตของพรรคการเมืองที่หนุนให้คสช. รวมทั้งพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ย่อมสดใสกาววาวเป็นอย่างยิ่ง
ต่อจากนี้ก็แค่รอดูท่าทีของคนกทม. ว่ายังคงแนบแน่นกับกปปส. ยอมให้ถูกชี้นำไปในทิศทางต่างๆ เหมือนเดิมหรือไม่
ปูเสื่อนอนรอดูกันเลย ว่าผลจะเป็นอย่างไร?