เมื่อวันที่ 10 พ.ย. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีงบประมาณ 2567 ในวันนี้ว่า เนื่องจาก ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการเน้นปฏิบัติเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 1 ปี เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า ปัญหายาเสพติดได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

ถกปราบยา – พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ กทม. เมื่อวันที่ 10 พ.ย.

โดยแนวทางที่ได้จากการสัมมนาในวันนี้ จะแปลงไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมใน 100 วันแรก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย 3 นโยบายคือ การสกัดกั้นยาเสพติดเข้าประเทศไทย ซึ่งได้กำหนดพื้นที่ควบคุมพิเศษใน 3 จังหวัด 15 อำเภอ ต้องขอกำลังสนับสนุนจากทั้งตำรวจ ทหาร ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมสอดส่องดูแล รวมถึงขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ในการดูแลยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน และต้องดำเนินการให้มีความเข้มข้น มีความเป็นเอกภาพมากยิ่งขึ้น เรื่องที่ 2 คือ นำกลุ่มผู้เสพที่มีอาการทางจิต รุนแรง และอาจเป็นอันตรายต่อชุมชน ที่มีอยู่ประมาณ 30,000 คน เข้าบำบัดรักษา และ 3. ด้านการบริหารจัดการ คือ ใช้ข้อมูลของ ป.ป.ส.เพื่อตรวจสอบ การบริหารจัดการยาเสพติด ซึ่งหากพบว่ามีข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องต้องออกมาตรการ เพื่อดำเนินคดีอย่าง เด็ดขาด รวมถึงบังคับใช้มาตรการยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีแนวทางในการนำพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ที่ถูกตีตกไป เมื่อปี 2565 ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เนื่องจากต่างประเทศยังคงมองว่า กัญชาเป็นยาเสพติด อีกทั้งการตรากฎหมาย ควรเป็นไปเพื่อป้องกันสังคม ไม่ใช่ให้ยาเสพติดทำลายสังคม อย่างไรก็ตามการพิจารณาแก้ไขกฎหมายต้องหารือกับรมว.สาธารณสุขด้วย ซึ่งนโยบายต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นแนวทางที่ดี เป็นแสงสว่างในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน