ตร.ตรึงเข้ม-ทบ.จัดเวร24ชม.
เสื้อแดง-หลายองค์กรแห่ร่วม
ย้ำบิ๊กเซอร์ไพรส์-จี้ตู่ออกทันที

นักศึกษา-ประชาชนเรือนแสน ทะลักสนามหลวงร่วมชุมนุมใหญ่ ‘ทวงอำนาจคืนราษฎร’ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ นำมวลชนเข้ามธ.สำเร็จ ก่อนเคลื่อนขบวนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ท้องสนามหลวง เดินเท้าไปทำเนียบเช้านี้ ลั่นมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ลาออก ต่างจังหวัดขึ้นรถ-ลงเรือ ร่วมไล่เผด็จการ เสื้อแดงเข้ากรุงร่วมสมทบ ตร.บุกค้น-คุมตัวทีมงานจัดชุมนุม ยึดอุปกรณ์-สมุดแดง 4.5 หมื่นเล่ม ระดม 1 หมื่นนายรับมือ โต้แผนชุมนุม 63 ใช้จัดการม็อบ ยันยึดหลักรัฐศาสตร์ควบคู่นิติศาสตร์ ทำเนียบตรึงเข้ม ตร.ติดกล้องที่หน้าอกใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี ทบ.จัดเวรตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมพร้อมรถดับเพลิง-รถตัดสัญญาณระเบิด

★ ผู้ชุมนุมบุกมธ.-เสื้อแดงร่วม

วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ภายใต้ชื่อว่า “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” ซึ่งนัดหมายกันที่ประตูฝั่งคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ มีกลุ่มนิสิต นักศึกษาและประชาชน รวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนทยอยเดินทางมารวมตัวกันเพื่อชุมนุมตั้งแต่ช่วงสาย เวลา 10.00 น. มวลชนเริ่มหนาแน่นขึ้น โดยต้องผ่านเครื่องสแกนอาวุธที่ติดตั้งไว้ตั้งแต่ค่ำวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นกลุ่มอีสานปลดแอก มหาสารคาม นำรถขยายเสียงจอดหน้า มธ. ฝั่งสนามหลวง ก่อนปราศรัยวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล

เวลา 11.50 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิ จิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำ และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย พยายามเจรจาขอเข้าไปในมธ. โดยน.ส.ปนัสยา ปราศรัย มีการสกัดรถขนอุปกรณ์และสมาชิกของเราที่เดินทางมาจากมธ.ศูนย์รังสิต และมีการตรวจยึดรถขนเครื่องเสียงที่ปิ่นเกล้า จึงขอกำลังมวลชนให้ไปทวงคืนเครื่องเสียงเราด้วย

นายภาณุพงศ์เจรจาโดยยกระดับว่าหาก เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดประตูภายใน 5 นาที จะพังประตูเข้าไป กระทั่งเจ้าหน้าที่เปิดประตู เล็ก ฝั่งศาลพระภูมิ ข้างหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ จากนั้นนายภาณุพงศ์ นำกลุ่ม ผู้ชุมนุมส่วนแรกทยอยเข้ามายังบริเวณสนามบอล มธ. ได้สำเร็จในเวลา 12.00 น. หลังเปิดเวทีในมธ. ได้แล้ว ผู้ชุมนุมได้ไปเปิดประตูฝั่งท่าพระจันทร์เพื่อให้มวลชนที่ทยอยมาสมทบเข้ามาประตูนี้ได้ด้วย โดยมีตำรวจหญิงมาตั้งจุดตรวจวัดไข้และสแกนวัตถุ

★ ไมค์ลั่นรับผิดชอบเอง

เวลา 12.20 น. น.ส.ปนัสยา นำรถขยายเสียงเข้ามาจอดบริเวณสนามฟุตบอล ใช้เป็นเวทีปราศรัย โดยกลุ่มนักศึกษาคล้องแขนล้อม รถขยายเสียง ขณะที่บรรยากาศในมธ. มี เจ้าหน้าที่ประจำตามตึกประปราย และไม่ได้มีการขัดขวางการเข้ามาชุมนุม มวลชนทยอยเข้ามาภายในมธ.อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้บุกเข้าไปในอาคาร

นายภาณุพงศ์ให้สัมภาษณ์หลังเข้ามาใน มธ.ได้ว่า ที่นี่เปรียบเหมือนอนุสรณ์การต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2475 อย่าให้เผด็จการต้องลบล้างประวัติศาสตร์ของไทย เราประกาศไว้แล้วว่าจะใช้พื้นที่อย่างสงบ เหตุใดมหาวิทยาลัยจึงไม่อนุญาตให้ใช้ ท่านมีอำนาจใดจะห้ามนักศึกษาเข้าใช้ และทำไมเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกลับเข้ามาใช้พื้นที่ได้ วันนี้พวกเรามาไล่เผด็จการ การกระทำในครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเกิดคดีความหรือไม่ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ตนยอมเสียสละและติดคุกเสียอิสรภาพเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา การต่อสู้ครั้งนี้ต้องไม่สูญเปล่า

★ บ.ก.ลายจุดเข้าร่วมด้วย

ส่วนบริเวณ ถ.ราชดำเนิน มุ่งสู่ท้องสนามหลวงและโดยรอบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนกระจายกำลังอยู่ทั้งสองฝั่งถนน ส่วน ผู้ชุมนุมนำเต็นท์โรงครัวอาหารและน้ำดื่ม เต็นท์ปฐมพยาบาล เป็นจุดๆ หน้าศาลฎีกายาวไปจนถึงหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม ด้านหลังเป็นรถน้ำและรถห้องน้ำ

รวมทั้งเต็นท์ของดาราประชาธิปไตยนำโดย น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือ ทราย เจริญปุระ นำโรงครัวมาเปิดบริการผู้ชุมนุม เป็นอาหารทั้ง 3 มื้อจนถึงเช้าวันที่ 20 ก.ย. เจ้าตัวระบุมาร่วมสนับสนุนครั้งนี้เป็นความร่วมมือของเพื่อนดาราและคนในวงการ นอกจากสวัสดิการทางด้านอาหารยังมีการสนับสนุนรถห้องน้ำ เครื่องปั่นไฟด้วย

เวลา 13.30 น. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด พร้อมมวลชน เข้าเจรจากับตำรวจควบคุมฝูงชนบริเวณหน้าศาลฎีกา ถ.ราชดำเนินใน ให้ตำรวจถอยไปแนวรั้วศาล เพื่อขอให้มวลชนมายืนอยู่บริเวณทางเท้าโดยใช้เวลาเจรจาอยู่ 10 นาที ตำรวจจึงได้ยอมไปอยู่หลังรั้วศาลฎีกา เพื่อลดการปะทะ โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนไม่ลงไปพื้นผิวการจราจร

★ เพนกวินแจม-เจอป่วน

บรรยากาศภายในมธ. ช่วงบ่าย ยังคงมีประชาชนและผู้สนับสนุนทยอยเดินทางมา ร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องท่ามกลายสายฝนโปรยปราย ต่างจับจองพื้นที่สนามบอลปูเสื่อกางร่มเพื่อรับฟังการปราศรัยที่แกนนำสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีรถขยายเสียงอย่างต่อเนื่อง ช่วงหนึ่งมีพระสงฆ์ 6 รูปขึ้นขึ้นสวดมนต์ให้พรแก่ผู้ชุมนุมและอุทิศส่วนกุศลให้วีรชนที่เสียชีวิตจากการชุมนุม 14 ต.ค. 16, 6 ต.ค.2519, การชุมนุมพ.ค.2553 พร้อมเดินประพรมน้ำมนต์ให้ผู้ร่วมชุมนุมทั่วพื้นที่ ทั้งนี้ มีรถพยาบาลจากกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตยมาจอดคอยดูแลผู้ชุมนุมหลายคันด้วย

เวลา 13.25 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มาถึงโดยมีมวลชนปรบมือโห่ร้องต้อนรับ นายพริษฐ์ ทักทายประชาชนที่มาร่วมชุมนุมโดยมีการ์ดอารักขาอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน เกิดความวุ่นวายบริเวณประตูฝั่งคณะนิติศาสตร์ มีชายใส่เสื้อแดงพยายามบุกประชิดตัวนายพริษฐ์ แต่การ์ดได้กันตัวออกมา จากนั้นมวลชนกรูเข้าไปที่ชายคนดังกล่าวพร้อมระบุมาทำร้ายลูกหลานทำไม และ ฉุดกระชากให้ถอดเสื้อแดงออก โดยระบุเป็นผู้ไม่หวังดีปลอมตัวมา

★ ทำเนียบตรึงเข้มรับม็อบบุก

ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย รองรับสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาล มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบทุกจุดโดยรอบ ตั้งแต่สะพานมัฆวานมีตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ประจำเวรยามวางกำลังไว้ทุกจุด ปิดประตูเข้า-ออก ทุกประตูโดยรอบทำเนียบ ยกเว้นประตูด้านสะพานอรทัย และประตู 8 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม เปิดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้า-ออกเท่านั้น ทุกคนต้องติดบัตรประจำตัวที่ออกโดยทำเนียบถึงจะได้รับอนุญาต รวมทั้งสื่อมวลชน

เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเตรียมความพร้อมเป็นการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สังกัด กก.4 บก.ส.3 และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) เข้ามาเตรียมความพร้อม โดยเวลา 09.00 น. มีการเรียกรวมพลบริเวณลานที่จอดรถหน้าอาคาร 20 ติดกับกองร้อยสันติบาล 3

★ บิ๊กตู่กำชับจนท.เลี่ยงปะทะ

พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานงานทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ในส่วนของทำเนียบมีกำลัง เจ้าหน้าที่ 1 กองร้อย รวมทั้งมีกำลังตำรวจประจำทำเนียบอยู่แล้ว การดูแลผู้ชุมนุมนายกฯ มีนโยบายชัดเจนว่าห้ามความรุนแรงและพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ ให้ใช้การเจรจาพูดคุยเป็นหลัก ส่วนต้องเสริมกำลังหรือไม่ต้องประเมินสถานการณ์หน้างาน แต่มีการการประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) อย่างใกล้ชิดอยู่แล้วถึงแผนต่างๆ จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนเป็นเหมือนลูกๆ หลานๆ ที่ใช้สิทธิ แต่สิ่งที่ห่วงทั้งในเรื่องโควิด อากาศซึ่งมีฝนตกด้วย จึงต้องระวังสุขภาพและเตรียมป้องกันกันด้วย เชื่อว่าจะไม่รุนแรง แต่ก็ต้องดูหลายอย่างประกอบกัน

เมื่อถามว่าจากการข่าวนอกจากกลุ่มนักศึกษาจะมีกลุ่มอื่นหรือมีมือที่ 3 หรือไม่ พล.ต.ท.สุรพลกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ด้านการข่าวรู้อยู่แล้ว รู้ตัวอะไรอยู่บ้าง

★ เจ้าหน้าที่ติดกล้องที่หน้าอก

ทั้งนี้ ระหว่างรวมพลผู้บังคับหน่วยมอบนโยบายกำลังพลว่า การปฏิบัติหน้าที่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาที่ย้ำเสมอว่าจะไม่ทำร้ายประชาชน ภารกิจมีเพียงหน้าที่ในการรักษาความสงบภายในพื้นที่ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปปะทะกับประชาชน ดังนั้นหากถูกยั่วยุอย่าตอบสนอง ซึ่งกล้องที่หน้าอกบันทึกไว้ทั้งหมดสิ่งเหล่านี้ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการในภายหลัง และเป็นหลักฐานในการติดตาม เราจะไม่ทำร้ายประชาชน ขอให้พวกเราทุกคนอดทน อดกลั้นในการปฏิบัติ ทุกภารกิจไม่ว่าผู้บังคับบัญชาจะมอบหมายภารกิจใดก็ตาม ต้องไม่ทำร้ายประชาชนและดำเนินการด้วยความสุภาพ ย้ำว่าหากถูกยั่วยุเราต้องไม่ตอบสนอง เราจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของใครทั้งสิ้น ขอย้ำไม่ใช้วาจาจาบจ้วงไม่ว่าจะโดนยั่วยุ ไม่ใช้การกระทำที่รุนแรง หากมีการใช้ความรุนแรงจะไม่ใช่มือ ไม่ใช่หมัด แต่จะเป็นกล้องที่บันทึกภาพอยู่บนหน้าอก

★ ทบ.ตรึงเข้ม 24 ชั่วโมง

ที่บก.ทบ. มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารและพลทหารที่เข้าเวรทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั้งวันทั้งคืน มีการปิดประตูด้านหน้าไม่ให้เข้า-ออก เปิดให้เจ้าหน้าที่เข้า-ออกทางประตูด้านหลังฝั่งถ.นครราชสีมาแทน ด้านเดียว ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารและพลทหารที่อยู่เวรทำหน้าที่ตรวจสอบบุคคลและรถที่เข้ามาในบก.ทบ.ทุกคัน

เจ้าหน้าที่ทหารยังนำสแลนตาข่ายสีดำมาปิดป้ายกองทัพบกและป้ายสัญลักษณ์กองทัพบกทั้งสองฝั่งด้านหน้าประตูทางเข้า พร้อมติดป้าย “กำลังซ่อมบำรุงงานรั้วและทาสี” เป็นที่น่าสังเกตว่าการนำสแลนตาข่ายที่สีดำมาปิดป้าย เพื่อป้องกันการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ของผู้ชุมนุมมากกว่า เนื่องจากทบ.เพิ่งทาสีรั้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ภายในบก.ทบ.มีการเตรียมรถน้ำ รถดับเพลิงของกรมการขนส่งทหารบก รถประชา สัมพันธ์ปฏิบัติการด้านจิตวิทยามวลชนติด โทรโข่ง รถยนต์และรถตู้ตัดสัญญาณระเบิดของเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) กรมสรรพาวุธทหารบกไว้เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ด้วย อีกทั้งยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการจิตวิทยาสแตนด์บายเตรียมพร้อมตั้งแต่ช่วงค่ำ 18 ก.ย. เป็นต้นมาด้วย รวมถึงเตรียมพร้อมระบบกล้องวงจรปิดรอบบก.ทบ.และในบก.ทบ. เพราะที่ผ่านมามีกลุ่มต่างๆ มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์มากมาย

★ ป้อมสั่งแจ้งเตือนก่อนใช้กม.

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม ในฐานะโฆษกประจำรองนายกฯ เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แสดงความห่วงใยถึงผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกคนในสภาพอากาศที่แปรปรวน ขอให้ดูแลสุขภาพและช่วยกันรักษามาตรการการควบคุมโรคควบคู่กันไป พร้อมทั้งเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังและช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยกันและกัน

พร้อมกำชับการทำงานของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะตำรวจให้ทำงานด้วยความเข้าใจ ไม่ไปคุกคามในสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกที่สามารถทำได้ ให้รับฟังดูแลผู้ชุมนุมเสมือนลูกหลานและคนไทยด้วยกัน โดยย้ำต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมเด็ดขาด และให้เฝ้าระวังการแทรกแซงจากบุคคลที่สามและการฉวยโอกาสทางการเมือง การปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้มีการแจ้งเตือนและทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ หากมีการละเมิดกฎหมายและจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย

★ นครบาลเตรียมกำลัง 57 กองร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ถึงการวางกำลังรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตลอดการชุมนุม 19-20 ก.ย. โดยวางกำลังไว้ 14 จุด 57 กองร้อย ประกอบด้วยหน่วยควบคุมฝูงชน (คฝ.) พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำกาย หน่วยงานที่สนับสนุนบช.น. ประกอบด้วย ตชด. 9 กองร้อย, ภ.1 จำนวน 10 กองร้อย, ภ.2 จำนวน 7 กองร้อย, ภ.3 จำนวน 6 กองร้อย, ภ.4 จำนวน 6 กองร้อย, ภ.5 จำนวน 1 กองร้อย, ภ.6 จำนวน 8 กองร้อย, ภ.7 จำนวน 8 กองร้อย, และ ภ.8 จำนวน 2 กองร้อย รวม 57 กองร้อย ชุดหาข่าว-ชุดเคลื่อนที่เร็ว ประมาณ 10,000 นาย กระจายกำลังดูแลพื้นที่การชุมนุมโดยรอบมธ. รวมถึงการตั้งด่าน- มีชุดเคลื่อนที่เร็ว ตามเส้นทางที่จะมายังมธ. โดยจะมีการประสานงานแกนนำถึงทิศทางการปราศรัยไม่ให้ก้าวล่วงเกินไป โดยรายงานข้อมูลให้ ท.ก ส่วนหน้าที่โรงละครแห่งชาติ ซึ่งเกาะติดสถานการณ์ และศูนย์สั่งการหรือวอร์รูม (ศูนย์ใหญ่) ที่บช.น.

★ ตร.แจงใช้แผนชุมนุม 63

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงมาตรการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดย พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งให้รักษาความสงบโดยยึดหลักกฎหมาย ใช้ความอดทน อดกลั้น ซึ่งได้นโยบายโดยตรงจากนายกฯ เน้นให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างละมุนละม่อม ปลอดภัยมากที่สุด จะไม่มีการใช้กำลังแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผบ.ตร.มอบหมาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาความปลอดภัยในปัจจุบันได้ใช้แผนชุมนุม 63 ซึ่งเดิมใช้แผน กรกฎ 52 หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตเรื่องเป็นแผนที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ดำเนินการกับการชุมนุมครั้งนี้หรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่

ยืนยันไม่ใช่แผนจัดการกลุ่มชุมนุม แผนชุมนุมปี 63 เป็นการนำข้อผิดพลาดและบทเรียนเก่าๆ รวมถึงข้อกฎหมายพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 และมติครม.ว่าด้วยเรื่องการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาถอดบทเรียน ความแตกต่างของแผนการชุมนุมกรกฎ 52 กับการชุมนุมปี 63 มีวิวัฒนาการเรื่องการชุมนุม กฎหมายเกี่ยวข้องที่เปลี่ยนไป แผนกรกฎเดิมอาจมุ่งเรื่องการใช้กำลัง เรื่องการใช้กำลังก็ยังมีอยู่แต่จะเป็นการใช้กำลังตามความจำเป็น ตามสถานการณ์ ไม่ใช่เรื่องเป็นกฎการใช้กำลังอย่างเดียว แผนของปี 63 มีความสมบูรณ์ รัดกุมมากขึ้น ได้มาตรฐานสากลมากขึ้น กฎเป็นไปตามกฎหมายที่มีการเปลี่ยนไป

★ ใช้ตร. 1 หมื่นนายดูแล

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า บช.น.แบ่งพื้นที่ 3 โซน คือ 1.มธ. และพื้นที่โดยรอบสนามหลวง ถ.ราชดำเนินใน แยกสะพานผ่านพิภพ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 รับผิดชอบ 2.ถ.ราชดำเนินกลาง ตั้งแต่สะพานผ่านพิภพ ถึงแยก จปร. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1 รับผิดชอบ 3.ถ.ราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกจปร. สะพานมัฆวานรังสรรค์ จนถึงถ.ราชดำเนินนอก พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.อคฝ. ผู้รับผิดชอบ มีการตั้งจุดคัดกรองโควิด 4 จุด คือ จุดที่ 1-2 บริเวณประตูทางเข้า ม.ธรรมศาสตร์ จุดที่ 3 ประตูถ.ท่าพระจันทร์ จุดที่ 4 ถ.พระอาทิตย์

จะใช้หลักรัฐศาสตร์ควบคู่หลักนิติศาสตร์ ไม่ใช้กำลัง โดยตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่มีประมาณ 1 หมื่นนาย เป็นตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และปฏิบัติหน้าที่ด้านการสืบสวน นายกฯ ให้นโยบายผ่านมายังผบ.ตร. จะให้การชุมนุมครั้งนี้ปลอดภัยที่สุด ไม่มีการแทรกแซงจากมือที่สาม

★ จนท.ยึดอุปกรณ์ม็อบ-สมุดแดง

เวลา 11.00 น. ที่หน้าหมู่บ้านนวลตอง ก่อนเข้ามธ. รังสิต ระหว่างที่ทีมงานแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ กำลังขนอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยรถ 6 ล้อ2 คัน เพื่อเข้าร่วมการชุมนุมที่ มธ. ท่าพระจันทร์ มีตำรวจพร้อมฝ่ายปกครอง 50 นาย ร่วมสกัด แจ้งขอตรวจสอบเนื่องจากอาจมีเอกสารที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย โดยไม่ให้นักศึกษาที่อยู่ใกล้เคียงเข้าติดตามสถานการณ์

ต่อมา 12.00 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ประธานกมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พร้อมนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ.การกฎหมายฯ ได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

★ นำตัวผู้ชุมนุมไปสถานีตำรวจ

นายรังสิมันต์ โรม ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจได้ยึดสมุดเล่มแดง ซึ่งเป็นแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ เมื่อ 10 ส.ค. จำนวน 45,000 เล่ม ซึ่งจะนำมาแจกให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมวันนี้ ตำรวจอ้างนำไปเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคดีในอดีต ส่วนกลุ่มนักศึกษาคิดว่าตำรวจดำเนินการโดยพละการ เนื่องจากไม่มีหมายค้น ตนบังเอิญผ่านไปแถวนั้นพอดีเลยมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และทีมงานผู้ชุมนุม ทางผู้กำกับที่เป็นหัวหน้าชุดให้เหตุผลจับยึดว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นช่วง 10 ส.ค.ที่ผ่านมา และน้องทีทมงาน 1 คนที่เดินทางไปสอบถามถึงเหตุผลก็โดนจับกุมข้อหาที่มีรายชื่อเข้าชุมนุม 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งแจ้งข้อกล่าวหาและปล่อยตัว ไม่ได้จับกุมไว้

★ ตจว.ร่วมไล่เผด็จการ

การชุมนุมยังมีมวลชนจากต่างจังหวัดเข้าร่วมด้วย อาทิ กลุ่มเยาวชนปลดแอกโคราช นำโดย นายวรัญญู คงสถิตย์ธรรม หรือนุ๊ค ที่ทยอยเดินทางมาที่มธ. ตั้งแต่คืนวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งแกนนำคาดว่าเยาวชนจากโคราชเข้าร่วมชุมนุมนับพันคน โดยใช้การเหมารถตู้

ส่วนที่จ.นนทบุรี กลุ่มทุเรียนนนท์ท้าชนเผด็จการ นัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี ลงเรือเช่าเหมาลำ นำโดย นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง นำผู้ชุมนุมกว่า 200 คน ขึ้นเรือ 4 ลำ ที่ท่าน้ำนนท์

เวลา 16.00 น. บริเวณลานอเนกประสงค์ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มเยาวชนปลดแอกและกลุ่ม Free Act Chiangmai ศิลปินปลดแอกเชียงใหม่ จัดกิจกรรมคู่ขนานกับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ในชื่อ “รัฐปลาเผา : the tragedy” และมีการแสดงศิลปะปลดแอกจากศิลปินมากมาย ที่สะท้อนการกีดกั้นระหว่างประชาชนกับผู้มีอำนาจ ความไม่เท่าเทียม โดยมีมวลชนที่เคยเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมร่วมกันในนามคนเสื้อแดงเชียงใหม่เข้าร่วมด้วยหลายสิบคน

ที่สถานีวิทยุ FM 96.25 เรสกิว ซอย 69 (ซอยเสื้อแดง) ลำลูกกาคลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กลุ่มเสื้อแดงกว่า 50 คน จัดกิจกรรม ทำบุญเลี้ยงพระเพล อุทิศส่วนกุศลให้วีรชนที่เสียชีวิตจากการเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อปี 2552 แกนนำปราศรัยปลุกเร้าขับไล่เผด็จการพร้อมทำหุ่นฟางติดรูปหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พร้อมเรือดำน้ำ และตะโกนโห่ร้องขับไล่เผด็จการ และนิมนต์พระ 4 รูปทำพิธีสวดฌาปนกิจพร้อมวางดอกไม้จันทน์ แล้วร่วมกันจุดไฟเผาหุ่นฟางทั้งหมด ก่อนเดินทางร่วมชุมนุมที่มธ.

★ ตร.สั่งยุติชุมนุมใน 1 ชม.

เวลา 15.00 น. ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยออกจากมธ. มีรถบรรทุกอุปกรณ์จัดตั้งเวที พร้อมเครื่องขยายเสียง เข้ามากลางลานสนามหลวง พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.3 บก.ปส.4 พร้อม พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.ชนะสงคราม อ่านประกาศพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และขอให้ยกเลิกการชุมนุมภายใน 1 ช.ม. โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยืนประจันหน้าตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมชู 3 นิ้ว ตำรวจประกาศว่าการชุมุมนอกมหาวิทยาลัยเป็นการใช้พื้นที่สาธารณะ ผู้ชุมนุมต้องแจ้งล่วงหน้า 24 ช.ม. แต่ระหว่างตำรวจประกาศผู้ชุมนุมลากสายไมโครโฟนออกไป เจ้าหน้าที่จึงต้องเปิดรั้วปล่อยผู้ชุมนุมเข้ามากลางสนามหลวง เพื่อเปิดเวที และแม้จะมีสายฝนโปรยปรายผู้ชุมนุมก็ไม่ย่อท้อ เวลา 16.35 น. รถบรรทุกน้ำประมาณ 10 คัน เข้าพื้นที่สนามหลวง ผู้ชุมนุมโห่ร้อง

พรึบ – นักเรียนนักศึกษาและประชาชนจำนวนเรือนแสน ร่วมชุมนุม ‘19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร’ เนืองแน่นบริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำของวันที่ 19 ก.ย.

★ เปิดเวทีใหญ่สนามหลวง

เวลา 17.30 น. ที่สนามหลวง เวทีใหญ่การ ชุมนุมฝั่งมธ. เริ่มด้วยการแสดงชุด “มนุษย์ต่างดาวสะบัดชัย” จากนั้นสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยประเด็นรัฐสวัสดิการ สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญและหมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว เป็นต้น ระหว่างปราศรัยมีการนำเรือดำน้ำจำลองขึ้นมาแสดงบนเวที เสียดสีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาลซึ่งไม่มีความจำเป็นในช่วงที่ประชาชนกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤตโควิด

น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า มาร่วมชุมนุมในฐานะประชาชน มาเติมเต็มพลังมวลชน ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรง รู้สึกดีเป็นพิเศษเนื่องจากว่ามีคนร่วมชุมนุมทุกกลุ่มทุกวัย 16 ส.ค. ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เป็นวัยรุ่น แต่ครั้งนี้มีครอบครัวพาลูกมา มีอดีตข้าราชการเกษียณ เช่น ผู้พิพากษา อัยการ มีเด็กมัธยมและนักศึกษามาร่วม เป็นความสวยงามในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย

มีเจ้าหน้าที่รัฐพยายามสกัดกั้นการชุมนุมไม่ว่าจะเป็นทางเรือที่มีผู้ชุมนุมมาจากท่าน้ำนนท์ หรือประชาชนที่เดินทางมาจากภาคเหนือ แต่สุดท้ายก็เดินทางมาได้

ให้กำลังใจ – พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย ฝ่ายค้าน เดินทางไปให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุม ‘19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร’ ที่บริเวณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 ก.ย.

★ ฝ่ายค้านร่วมสังเกตการณ์

เวลา 17.00 น. ที่หน้าเวทีกลุ่มไอลอว์ มีการตั้งจุดล่ารายชื่อเพื่อยื่นร่างแก้ไขและธรรมนูญ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ตัวแทนกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ขึ้นปราศรัยเชิญชวนประชาชนให้มาร่วมลงชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกับกลุ่มไอลอว์

ส่วนที่เต็นท์คณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน กมธ.การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ช่วงบ่ายเริ่มคึกคัก ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านทยอยกันมาร่วมสังเกตการณ์ และบางคนแต่งตัวเป็นสีสันเข้ากับการชุมนุมกับกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา เช่น นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ใส่กางเกงสีกากี พร้อมเข็มขัดลูกเสื้อกับเสื้อเชิ้ตสีขาว ร้องเพลงเมาคลีล่าสัตว์ โดยระบุว่าหน้าที่แรกที่ได้รับมอบหมายคือ “เก็บขยะแผ่นดิน” ส่วนนายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เข้าร่วมสังเกตการณ์เช่นกัน โดยมีแฟนคลับกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาขอถ่ายรูป จับมือทักทายต้อนรับอย่างอบอุ่น

รอบนอกสนามหลวงตรงข้ามโรงแรมรัตนโกสินทร์ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์ เดินทักทายประชาชน มวลชนกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาขอถ่ายรูป จับมือทักทายต้อนรับอย่างอบอุ่น

ทั้งนี้ ในส่วนส.ส.พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

สู้สู้ – กลุ่มผู้ชุมนุมสวมใส่เสื้อกันฝน กางร่ม ปักหลักร่วมชุมนุมที่สนามหลวง ท่ามกลางฝนตกลงมาเป็นระยะๆ ตลอดคืน ก่อนที่ตอนเช้าจะเคลื่อนขบวนเดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาล

★ ผู้ชุมนุมทะลักสนามหลวง

เวลา 17.30 น. นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย ประธานกมธ.การปกครอง พร้อมส.ส.เพื่อไทย แถลงถึงการติดตามสถานการณ์การชุมนุมว่า ผู้ร่วมชุมนุมทยอยมาเป็นจำนวนมากและรวดเร็วดีคาดการณ์ในเวลานี้มีกว่า 80,000 คน และเชื่อว่าในเวลา 20.00 น. จำนวนผู้ชุมนุมจะเพิ่มเป็น 100,000 คน แต่ตอนนี้ปัญหาที่พบจะเป็นเรื่องของห้องน้ำที่มีไม่เพียงพอ สัญญาณโทรศัพท์ที่ช้าทางเราจะประสานกับพรรคอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายมีประชาชนทยอยเดินทางมาสมทบต่อเนื่องไม่ขาดสาย จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ผู้เข้าร่วมชุมนุมเข้ามาจนเต็มพื้นที่สนามหลวง โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีคนเข้าร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 3.5 หมื่นคน ขณะที่บนเวทีแกนนำปราศรัยระบุ ที่สนามราษฎรแห่งนี้ มีประชาชนมาเป็นแสนคน

★ ‘จ่านิว-แอมมี่-ไผ่’ขึ้นเวที

นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว กล่าวก่อนขึ้นปราศรัยว่า ตอนนี้ฝ่ายประชาธิปไตยกลายเป็นกระแสหลักของสังคม วันนี้ออกมากันเยอะทำให้พวกเขาเห็นพลังของพวกเรา ที่ผ่านมามาเสียงอาจไม่ดังตอนนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องออกมาให้เสียงของพวกเราดัง สำหรับตนตอนนี้สภาพร่างกายดีขึ้น แต่ตาข้างซ้ายยังคงมองไม่ชัด จากการถูกตีมา 2 รอบ

เวลา 18.55 น. พิธีกรบนเวทีประกาศเชิญชวนประชาชนและผู้ชุมนุม เดินขบวนไปที่ทำเนียบนวันที่ 20 ก.ย.นี้ เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีผู้ชุมนุมร่วมกำมือพร้อมร่วมตะโกนขับไล่ “เผด็จการออกไป”

เวลา 19.10 น. ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ พร้อมนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แสดงดนตรีร่วมกัน เริ่มจากการเล่นเพลงชาติพร้อมยืนชูสามนิ้ว ต่อด้วยเพลงเพื่อมวลชน โดยที่ ผู้ชุมนุมเปิดไฟฉายในมือถือโบกไปมา สว่างไสวทั่วท้องสนามหลวง

แอมมี่ กล่าวบนเวทีว่า ตนถูกยกเลิกงานและสินค้าทั้งหมดจนถึงต้นปีหน้า ขอฝากไปยัง ผู้มีอำนาจว่าหากจะใช้วิธียกเลิกงานและสินค้าของตนทั้งหมด ตนจะใช้ศิลปะทางดนตรีต่อสู้กับพวกคุณอย่างเต็มรูปแบบ

★ ไปทำเนียบมีบิ๊กเซอร์ไพรส์

เวลา 19.50 นายพริษฐ์ กล่าวถึงกำหนดการชุมนุมวันที่ 20 ก.ย. ว่า จะนัดมวลชนให้ตื่นในเวลา 06.00 น. เพื่อเดินเท้าในเวลา 08.00 น. ถึงตอนนี้ยืนยันเป้าหมายคือทำเนียบ ไม่ได้เป็นการยื่นหนังสือเรียกร้อง แต่จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์แน่นอน และฝากถึงรัฐบาลว่าอย่าส่งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรมต.สำนัก นายกฯ มาฟังเสียงประชาชน เพราะคนคนนี้เป็นคนทรยศประชาชนตนไม่ให้ราคา เรามาด้วยสันติอหิงสาและมาด้วยมือเปล่า จึงเชื่อว่าการปะทะจะไม่เกิดขึ้น แต่หากเกิดขึ้นคง ไม่ได้มาจากผู้ชุมนุมแต่มาจากฝ่ายรัฐบาล

การชุมนุมวันพรุ่งนี้จะยุติเมื่อใดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวการชุมนุมครั้งนี้มี 3 ประเด็นคือ 1.คือการไล่ประยุทธ์ และพรรคพวก รวมถึงองค์กรอิสระต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญ หรือกกต. ต้องลาออกทันที 2.การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ต้องแก้ไขได้ทุกมาตรา และ 3.การปฏิรูปสถาบัน ข้อเสนอทุกเรื่องทำได้ทันที แต่ต้องไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ออกไปก่อน และส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลนี้อยู่ได้ไม่เกินเดือนนี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ กำลังโดดเดี่ยวทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องยุบสภาแต่ลาออกได้ทันที แต่หากไม่ยอมลาออก คิดว่าประชาชนจะขับไล่มากกว่าเดิม

เวลา 21.00 น. น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ภาพรวมวันนี้ผู้ชุมนุมคาดว่ามากกว่า 2 แสนคน สะท้อนให้เห็นว่าผู้มาชุมนุมเห็นด้วยกับสิ่งที่เราเสนอไป ที่ผ่านมาได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อกมธ.การเมืองฯ สภาผู้แทนฯ มาแล้ว เป็นการเรียกร้องผ่านกระบวนการในสภา การเคลื่อนไหวจากนี้จะเข้มข้นขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การยื่นข้อเรียกร้องวันที่ 20 ก.ย. เราต้องการให้ผู้มีตำแหน่งสูงมารับข้อเรียกร้อง ถ้าไม่มาก็คือไม่ใส่ใจ ไม่แคร์ ก็จะยกระดับการขับไล่รัฐบาลต่อไป ยืนยันจะเดินทางไปแค่ที่ทำเนียบเท่านั้น

เวลา 21.40 น. นายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า การเคลื่อนขบวนไปทำเนียบจะออกเดินทางเวลา 08.00 น. เรามีบิ๊กเซอร์ไพรส์เวลา 06.00 น. และบิ๊กเซอร์ไพรส์ใหญ่ในเวลา 08.00 น. แน่นอน เซอร์ไพรส์ของเราได้แรงบันดาลใจจากคณะราษฎร และยืนยันไม่มีนโยบายไปลานพระราชวังดุสิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน