‘น้ำ-พัชรพร’ คว้ามงกุฎ ‘มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020’ ชนะใจกรรมการ ตอบคำถามได้ สุดเฉียบขาด‘อยากบอกรัฐบาลว่าเราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง’ ขณะที่ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ ผู้จัดการประกวด ชี้การเมืองเป็นเรื่องของ ทุกคน ทุกคนเลี่ยงการเมืองไม่ได้ มีสิทธิ พูดได้ เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ภายหลังการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 รอบตัดสิน “น้ำ” พัชรพร จันทรประดิษฐ มิส แกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 พิชิตมงกุฎเพชร มูลค่า 1,200,000 บาท สายสะพายเกียรติยศ คอนโดมิเนียมหรู รถยนต์ 1 คัน และรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 6,000,000 บาท

ซิวมงกุฎ – ‘น้องน้ำ’ พัชรพร จันทรประดิษฐ มิสแกรนด์ จ.ระนอง คว้ามงกุฎมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 จากการประกวดที่ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ไบเทค บางนา โดยตอบคำถามเกี่ยวกับการเมืองโดนใจกรรมการ เมื่อ 20 ก.ย.

 

น้ำ-พัชรพร เปิดเผยความรู้สึกหลังคว้ามงกุฎว่าภูมิใจมาก สู้เพื่ออนาคต ไม่ใช่แค่มงกุฎ มงกุฎซื้อก็ได้ แต่ตรงนี้จะมีอนาคตที่ดี มาตรงนี้เพื่อมาเอาอนาคตที่ดี มั่นใจในความเป็นตัวเอง ไม่เฟก ออกมาจากใจ และจะอยู่ตรงนี้ไปอีกนาน เป็นคนจริงใจ บอกกับเพื่อนว่าถ้าไม่ติดท็อป 5 จงดีใจในสิ่งที่คุณได้ 5 คนนี้คือเพื่อนของตน และภูมิใจ

สำหรับการเตรียมตัวไปประกวดมิส แกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 น้ำกล่าวว่า คงเป็นที่สเต็ปการเดินและอีกหลายอย่างที่ต้องพร้อมกว่านี้ เพื่อนำเสนอประเทศไทย ส่วนจะประกวดที่ประเทศใดคงต้องรอสถานการณ์โควิดก่อน

“ไม่มีคำพูดไหนจะบรรยายได้ มีคนรักหนู เขาให้คำแนะนำทุกอย่าง ทุกครั้งที่หนูเดิน อยู่ในกองประกวด หนูทำเต็มที่ทุกวัน เดินแบบไหน ตอบคำถามอย่างไร ทุกอย่างมีผลกับ หนูมาก จะไม่ลืมบุญคุณที่ทุกคนให้ รัก ทุกคนค่ะ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้าย ซึ่งทุกคนได้คำถามเดียวกันจากคณะกรรมการว่าจากการชุมนุมในขณะนี้ที่ส่อเค้าความรุนแรง หากได้พูด อยากพูดกับฝ่ายชุมนุม หรือฝ่ายรัฐบาล และอยากพูดว่าอะไรเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น








Advertisement

น้ำ พัชรพร ตอบว่า “อยากบอกกับรัฐบาลว่า If you are calling this country as the thailand, we need the real democracy, and moreover, we need you to get out of the country.” โดยหมายความว่า “ถ้าคุณเรียกประเทศนี้ว่าไทยแลนด์ เราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง และมากกว่านั้น เราต้องการให้คุณออกไปจากประเทศ” ปรากฏว่าเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วฮอลล์

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวทีการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ กล่าวถึงคำถามของคณะกรรมการว่า เวทีมิสแกรนด์ชัดเจนเรื่องความทันสมัย ไม่ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เราสามารถนำมาเป็นคำถามได้

การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน ทุกคนเลี่ยงการเมืองไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เวทีของเราไม่ใช่ปัญหา ไม่ว่าตอบอะไร เรารับฟังได้หมด เป็นเวทีสะท้อนความรู้สึกนางงาม พร้อมรับทุกความคิดเห็นและคำตอบของน้อง สิ่งที่ตัดสินใจเลือกนางงาม ไม่ได้ดูว่าตอบคำถามว่าอะไร แต่ดูความฉะฉาน ความมั่นใจ และการใช้ภาษาอังกฤษ

เจ้าของเวทีการประกวดกล่าวต่อว่า ส่วนคำตอบของมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ คนล่าสุด เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้รุนแรงจนเกินพิกัด การพูดว่าให้ฟังถ้าเราอยู่กันแบบประชาธิปไตย ไม่งั้นให้ออกไป เป็นเรื่องที่เขาพูดได้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และสิทธิในการพูดในที่สาธารณะโดยอยู่ในขอบเขต

ถ้าต่อไปน้องๆ นางงามจะเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน พูดเรื่องการเมืองก็ไม่เป็นปัญหา เรื่องการเมืองตนไม่เคยบังคับใคร ไม่เคยคิดว่ามันไม่เหมาะกับใคร คิดว่ามันเหมาะกับทุกๆ คน ถ้าน้องๆ จะซัพพอร์ตประชาธิปไตย เขาอาจจะสงสัยเรื่องการคอร์รัปชั่น เรื่องการใช้มาตรฐานกับคนที่ไม่เท่ากัน เขาก็มีสิทธิที่จะทำได้ แนวทางคำตอบวันนี้น่าจะเอาไปสร้างประโยชน์ให้ประเทศได้

 

สำหรับการประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 รอบตัดสิน จัดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 19 ก.ย. ที่ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ไบเทค บางนา

กองประกวดเปิดเวทีด้วยโอเพ่นนิ่งโชว์พิเศษจากมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 และรองทั้ง 4 พร้อมด้วย ผู้เข้าประกวด 77 จังหวัด วาดลีลาแดนซ์ การเดิน การโพสต์ กล่าวแนะนำตัวในสไตล์ตัวเองท่ามกลางกองเชียร์ล้นหลาม

จากนั้นเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้าย ตัวแทนจากแต่ละภาค ได้แก่ “ออยล์” จุฑามาศ เมฆเสรี มิสแกรนด์ เชียงราย, “แจง” ปภัสรา อังค์ยศ มิสแกรนด์ นครราชสีมา, “อินดี้” อินดี จอห์นสัน มิสแกรนด์ ปทุมธานี, “โบนัส” ณัฐณิชา ศรีทองสุก มิสแกรนด์ มุกดาหาร, “พัดชา” พัดชาพลอย เรือน ดาหลวง มิสแกรนด์ นครศรีธรรมราช และ “น้ำ” พัชรพร จันทรประดิษฐ มิสแกรนด์ ระนอง ก่อนเข้าสู่รอบการตอบคำถามจากคณะกรรมการ

 

สัมภาษณ์การเมือง-ไฮไลต์การประกวด

ทั้งนี้ ไฮไลต์การประกวดอยู่ที่ช่วงตอบคำถามการเมืองดังกล่าว นอกจากน้ำ พัชรพรแล้ว รองนางงามอีก 4 คน ต่างก็ตอบคำถามเรียกเสียงฮือฮา

เช่น โบว์ ณัฐณิชา ศรีทองสุก รองอันดับ 4 มิสแกรนด์ มุกดาหาร กล่าวว่า จะพูดกับฝ่ายผู้ชุมนุม ในฐานะที่เป็นประชาชนเหมือนกัน เห็นด้วยที่ให้ทุกคนออกมาแสดงสิทธิ์แสดงเสียงของตัวเอง และแสดงจุดยืน เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน แต่จะไม่เห็นด้วยเลยถ้าเกิดความรุนแรง เพราะถ้าขึ้นด้วยความรุนแรงมันจะจบไม่ดีเสมอ อยากให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้ามาคุยกันด้วยสันติวิธี เพื่อผลดีกับทั้งสองฝ่าย

ออย จุฑามาศ เมฆศรี รองอันดับ 3 มิสแกรนด์ เชียงราย กล่าวว่า ตนจะเป็นตัวแทนนักเรียนทุกคนไปพูดกับฝ่ายรัฐบาล อยากบอกเขาว่าวันนี้บ้านเมือง เศรษฐกิจแย่มาก อยากให้เขาหันมามอง ประชาชนยังแย่อยู่เลย ประชาชนไม่มีกิน ถามหน่อยค่ะว่าเงินมูลค่าสองหมื่นล้านบาทจะเอาไปซื้ออะไรให้ใคร อยากให้รัฐบาลหันมามองประชาชนตาดำๆ เราไม่มีกินแล้ว

ด้าน พัดชา-พัดชาพลอย เรือนดาหลวง รองอันดับ 2 มิสแกรนด์ นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เลือกไปพูดกับฝ่ายรัฐบาล ว่าวันนี้เราประชาชนมาทวงประชาธิปไตย ถ้าท่านเล็งเห็นถึงความคิดของประชาชนสักนิดเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น

และ อินดี้- อินดี จอนห์นสัน รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ ปทุมธานี กล่าวว่า เลือกจะพูดกับผู้ชุมนุม ว่าวันนี้ถ้าไม่มีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ตนเองจะเป็นหนึ่งคนที่อยู่ที่การชุมนุมแน่นอน ที่สำคัญอยากจะบอกว่า การที่เด็กรุ่นใหม่จะออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะอนาคตพวกเราคือคนที่ต้องอยู่ต่อ

ระหว่างรอลุ้นระทึกว่ามงกุฎมิสแกรนด์ฯ จะเป็นของใคร พิธีกรประกาศรางวัลแนะนำตัวยอดเยี่ยม ได้แก่ “อากี้” เกษร นันทะทอง มิสแกรนด์ หนองคาย, รางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน ได้แก่ “น้ำ” พัชรพร จันทรประดิษฐ มิสแกรนด์ ระนอง และรางวัลมิสแกรนด์ ไรซิ่ง สตาร์ 2020 เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่องวัน ได้แก่ “พัดชา” พัดชาพลอย เรือนดาหลวง มิสแกรนด์ นครศรี ธรรมราช

ต่อมา น้ำ-พัชรพร จันทรประดิษฐ มิส แกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการตอบคำถามบนเวทีว่า มองว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ถึงจะเป็นนางงามแต่ก็อยากให้ประเทศไทยไปในทางที่ดี เพื่อให้สามารถพัฒนาต่อไปได้ นั่นคิดความรู้สึกที่ตอบไปแบบนั้น

เพราะมันมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง เช่นว่า ล่าสุดก็ยังมีเงินคนชราที่ไม่ออก ไปขัดแย้งว่าทำไมเราจะเอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำก่อนหน้านี้ มันคือภาษีของเรา ที่เราต้องการกระจ่างแค่นั้น ถ้าจะเป็นกระบอกเสียงต้องเป็นกระบอกเสียงที่มีความชัดเจน

“ในฐานะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง หนูคิดว่าหนูสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ถามว่ากลัว ผลกระทบไหม ถ้าเป็นนางงามแล้วเราแสดงความคิดเห็นเราไม่ได้เลย เราก็อย่าเป็นดีกว่าไหมคะ กระบอกเสียงคือต้องสามารถเป็น กระบอกเสียงได้จริง ไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ ต่อไปถ้าในอนาคตประเทศมันดีขึ้นเราก็จะช่วยกันสนับสนุน ถ้าไม่ดีขึ้นหนูก็จะตั้งคำถามอีกว่าทำไมไม่ดีขึ้น” มิสแกรนด์ไทยแลนด์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน