2อำเภอระอุ
ครบรอบ61ปี
‘บีอาร์เอ็น’ ออกแถลงการณ์ครบรอบ 61 ปีวันสถาปนาขบวนการ ระบุความขัดแย้งปาตานีกับสยามยุคใหม่ดำเนินมา 17 ปีแล้ว ยืนยันต้องต่อสู้ต่อไป ชี้รัฐไทยพยายามผุดโครงการต่างๆ หวังเบี่ยงเบนความใฝ่ฝัน แต่เป็นการหลอกเอาเปรียบ ฉวยโอกาส ส่วนที่ยะลา คนร้ายก่อเหตุป่วนหลายจุดที่ธารโต และ อ.เมือง ทั้งเผายางรถ กล้องวงจรปิด พ่นสีสเปรย์ วางวัตถุต้องสงสัย เชื่อเป็นการก่อเหตุแสดงศักยภาพในวันบีอาร์เอ็น
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 06.25 น. ชคต.ธารโต จ.ยะลา นำโดย มอ.อาหะมะ แมเราะ หน.ชุดที่ 1 พร้อมกำลังพล อส.ชคต.ธารโต ชุดบริการ 6 นาย ไปตรวจสอบ จุดเกิดเหตุสถานที่คนร้ายเผายางรถมอเตอร์ไซค์ ห่างจากชคต.ธารโต ประมาณ 500 เมตร ที่บ้านหน้าเกษตร หมู่ที่ 2 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา
เบื้องต้นมีการเผายาง 2 จุด พร้อมพ่นสีสเปรย์ 1 จุด กล้องวงจรปิด หาย 5 ตัว 4G จำนวน 3 ตัว ไวไฟ 2 ตัว ส่วนในพื้นที่อ.เมือง จ.ยะลา คนร้ายเผายางรถยนต์และวางวัตถุต้องสงสัย ก่อนถึงปั๊มน้ำ ปตท.418 ทางออกยะลา-หาดใหญ่ และในพื้นที่ต.พร่อน เมือง จ.ยะลา คนร้ายก่อเหตุเผายาง บนถนนสายทางลัด ลำใหม่-ท่าสาป
การก่อเหตุครั้งนี้เป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์สร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ในวันครบรอบวันสถาปนาขบวนการแนวร่วม ปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี หรือบีอาร์เอ็น ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2503
ส่วนกรณีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง ชื่ออส.มูฮำมัดคอยาฟี วาเด็ง อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่อส.ชุดคุ้มครองตำบลบางเก่า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสาย 42 หน้าปั๊ม BP ม.10 บ้านลูโบ๊ะซูหลง ต.เตราะบอล อ.สายบุรี เมื่อวันที่ 12 มี.ค.นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่เปิดเผยภาพวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าของปั๊ม BP ซึ่งสามารถจับภาพคนร้ายในขณะก่อเหตุได้ พบว่า ขณะที่ อส.มูฮำมัดคอยาฟีขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ โดยลักษณะแต่งกายแบบมิดชิด เพื่อปิดปังใบหน้า จากนั้นคนร้ายที่ซ้อนท้ายจะใช้ปืน ไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เข้ากลางหลัง ของอส.มูฮำมัดคอยาฟี จนบาดเจ็บ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเสียหลักเข้าข้างทาง คนร้ายที่ซ้อนท้ายรีบลงจากรถเพื่อตรงไปยัง ผู้ตาย ก่อนใช้ปืนกระหน่ำยิงซ้ำที่ศีรษะอีกหลายนัด จนเสียชีวิต คาดว่าคนร้ายยังค้นตัว ผู้ตายเพื่อหาอาวุธปืน แต่ไม่พบ จึงรีบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนรออยู่หลบหนีไป
ด้านพล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เปิดเผยว่า การก่อเหตุครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมก่อความ ไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งดูจากพฤติกรรมของคนร้าย แล้ว เป็นรูปแบบเดิมที่คอยติดตามดูพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ และฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุ เพื่อสร้างสถานการณ์ ขณะนี้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน ทั้งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปัตตานี และชุดสืบสวนของสภ.สายบุรี เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเร่งติดตามคนร้ายจากภาพวงจรปิด เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงมุ่งทำร้ายเจ้าหน้าที่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันเดียวกัน ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติ แห่งชาติมลายูปาตานี หรือบีอาร์เอ็น ปล่อยคลิป ผ่านยูทูบ ความยาว 4.22 นาที และมีหนังสืออย่างเป็นทางการ ออกแถลงการณ์ในวันครบรอบการก่อตั้งขบวนการ 61 ปี โดยเนื้อหา ยังยืนยันว่าต้องต่อสู้กับรัฐไทยต่อไป
ก่อนหน้านี้มีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ยิงเจ้าหน้าที่อส.นราธิวาส ปัตตานี ล่าสุดวางแผนคาร์บอมบ์ที่สภ.อำเภอรามัน จ.ยะลา และเมื่อคืนนี้มีการเผายางรถยนต์ ที่ถนนหลวงสาย 418 เป็นการยืนยันตัวตนว่ากลุ่มขบวนการยังคงต่อสู้ต่อไป อ้างการเป็นเจ้าของดินแดน เรียกร้องประชาชน มวลชนเข้ามาร่วม และมีการพูดถึงในการพัฒนาในพื้นที่ที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทหาร ไม่มีความจริงใจ และสุดท้ายลงท้ายด้วยคำว่า เอกราช 3 ครั้ง
มีนายอับดุลการิม คาลิด เป็นผู้ประกาศ และฮารา ชินทาโร่ นักวิชาการถอดแปลเนื้อหา แถลงการณ์ดังกล่าว
โดยเนื้อหาระบุ “พี่น้องชาวปาตานีทั้งหลาย บีอาร์เอ็นก่อตั้งขึ้นมาตามอามานะห์ (หน้าที่ ที่ได้รับมอบ) ที่เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชนและความรักต่อสันติภาพ เป็นการต่อยอดการต่อสู้ของผู้คนในอดีตที่ต้องสู้เพื่อสิทธิความเป็นเจ้าของต่อดินแดน และอธิปไตย ของปาตานี ตั้งแต่การก่อตั้งบีอาร์เอ็นได้จัดตั้งสมาชิกและมวลชนสำหรับการต่อสู้เพื่อปกป้อง สิทธิของปาตานีจากระบบปกครองแบบอาณา นิคม ความขัดแย้งปาตานี-สยามยุคใหม่ดำเนินมาเป็นเวลา 17 ปีแล้ว และบีอาร์เอ็นอยู่ในแนวหน้าของการเคลื่อนไหวอันแข็งแกร่ง โดยมีวิสัยทัศน์ทางการเมืองที่ชัดเจนและ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง การยึดมั่นในจุดยืนและหลักการอย่างแน่นแฟ้น เป็นที่มาของการจัดตั้ง ที่เข้มแข็ง พวกเราต้องเข้มแข็ง และประชาชนปาตานีก็ต้องเข้มแข็งเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของเรา ปกป้องศักดิ์ศรีของชาติและคุณค่าเชิงมนุษยธรรมทั้งหลายให้ดีขึ้น
นอกจากความขัดแย้งทางอาวุธที่กำลังดำเนินอยู่ที่ปาตานี ยังมีความพยายามต่างๆ สำหรับการพัฒนาทางด้านสังคมเศรษฐกิจเพื่อปลอบใจประชาชนปาตานี โครงการพัฒนาเศรษฐกิจหลายโครงการเกิดขึ้นที่แผนดิน ปาตานีเพื่อเบี่ยงเบนความใฝ่ฝันของประชาชน แต่โครงการเหล่านี้เกือบทั้งหมดมีส่วนที่เป็น การหลอก การเอาเปรียบและการฉวยโอกาสจากประชาชน เนื่องจากว่าแก่นแท้ของโครงการ เหล่านี้คือความไม่จริงใจ โครงการใดที่จริงจังและไม่ได้ทำมาเพื่อซื้อใจประชาชนนั้น ต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนที่นำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่แค่เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของพวกนายทุนหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในกองทัพอย่างเดียว
ด้วยเหตุนี้พี่น้องทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้นำทางสังคม ผู้มีส่วนได้เสีย และประชาชนทั้งปวง ต้องตระหนักว่าอัตลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเรา คืออัตลักษณ์มลายูปาตานีที่มีหลากหลาย เชื้อชาติ พวกเราไม่ใช่เชื้อชาติสยามดังเช่นพวกเขาต้องการให้เรายอมรับผ่านนโยบายผสมกลมกลืน ความขัดแย้งที่ปาตานีไม่ใช่พื้นที่ เพื่อฉวยโอกาส และไม่ใช่สนามสำหรับธุรกิจความมั่นคงของใคร อย่าปล่อยให้ชาติของเรากลายเป็นเดิมพัน เพราะเงินทองไม่สามารถซับน้ำตาเลือดหรือทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้น พวกเราต้องรวมใจกับปกป้องมรดกที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ทรัพยากรธรราชาติ ในแผ่นดินของเราให้มีอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์สำหรับประชาชน
ประชาชนปาตานีมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับชาติ อื่นๆ และในความขัดแย้งที่ปาตานี ประชาชนปาตานีนั่นเองที่ต้องมีบทบาทหลักในการแก้ไขปัญหา โดยอาศัยเอกภาพและความสามัคคี ความรักซึ่งกันและกัน พวกเรา ก็ต้องปรึกษาหารือกันเพื่อบรรลุความชัยชนะ ความหวังและความใฝ่ฝัน เอกราช, เอกราช, เอกราช ขอให้ความสันติจงมีแด่ทุกท่าน”