ยธ.ย้ำ-พักโทษ
แต่เป็น‘สื่อ’ได้

ไม่ห้าม ‘สรยุทธ’ ทำงานสื่อมวลชน แต่เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับการเมืองไม่ได้ อธิบดีคุมประพฤติย้ำกติกาพักโทษนักเล่าข่าวคนดัง ชี้สามารถทำหน้าที่ของสื่อภายใต้จรรยาบรรณของวิชาชีพได้ตามปกติเป็นไปตามหลักการและการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ได้รับการพักการลงโทษรายอื่น

วันที่ 16 มี.ค. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ชี้แจงถึงมาตรฐานการดูแลผู้ได้รับการพักการลงโทษของกรมคุมประพฤติว่า เป็นการดูแลผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสให้มาใช้ชีวิตในชุมชน โดยเป็นการดูแลผู้กระทำผิดปฏิบัติตามเงื่อนไขการพักการลงโทษ ประกอบด้วยรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ พักอาศัยอยู่กับผู้อุปการะตามสถานที่ที่แจ้ง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นให้ยื่นคำร้องต่อพนักงานคุมประพฤติโดยต้องได้รับการอนุญาตก่อน ปฏิบัติตามคำแนะนำและคำตักเตือนของพนักงานคุมประพฤติ และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการแก้ไขฟื้นฟูตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมคุมประพฤติกำหนด

รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ หากมีการฝ่าฝืนและถูกลงโทษ โดยเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ ไม่ว่าจะเป็นโทษสถานใด นักโทษเด็ดขาดหรือผู้มีอุปการะต้องแจ้งให้พนักงานคุมประพฤติทราบทุกครั้ง ประกอบอาชีพสุจริต และเงื่อนไขอื่นตามที่คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษกำหนด

สำหรับการติดอุปกรณ์อีเอ็ม กรณีได้รับการพักการลงโทษ กรมคุมประพฤติจะติดอุปกรณ์เป็นระยะเวลาครึ่งหนึ่งของโทษที่เหลืออยู่ โดยหลักการของอุปกรณ์อีเอ็มจะเป็นการติดตาม ตรวจสอบ การเคลื่อนไหวของผู้กระทำผิด

กรณีการปล่อยตัวนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดังซึ่งคงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จึงมีระยะเวลาในการติดอุปกรณ์อีเอ็ม 14 เดือน เป็นไปตามหลักการและการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ได้รับการพักการลงโทษรายอื่น ตลอดจนมีเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ห้ามเข้าใกล้เรือนจำ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตก่อน ไม่ให้ประกอบอาชีพทำธุรกิจหรือธุรกรรมกับบุคคลที่มีคดีความ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ให้เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับการเมือง แต่สามารถทำหน้าที่ของสื่อภายใต้จรรยาบรรณของวิชาชีพได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปัจจุบันยอดการติดอุปกรณ์อีเอ็มกับผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสกลับมาใช้ชีวิตในสังคมแล้ว 33,000 ราย ทุกรายได้รับการดูแลเป็นไปตามมาตรฐานการคุมความประพฤติ

รายงานข่าวแจ้งว่า จากคำอธิบายของนายวิตถวัลย์ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การที่ห้ามไม่ให้พิธีกรชื่อดังทำหน้าที่พิธีกร เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับการเมือง นั้นหมาย ความว่าไม่ให้เล่าข่าวการเมืองด้วยหรือไม่ เมื่อติดต่อไปทางสอบถามนายสรยุทธถึงข้อห้ามดังกล่าว เจ้าตัวกล่าวผ่านเลขาส่วนตัวว่า ช่วงนี้ยังไม่สะดวก แต่เรื่องดังกล่าวชี้แจงไปตั้งแต่วันที่แถลงข่าวแล้วยังเป็นตามนั้น

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในวันที่ 14 มี.ค. วันแรกที่นายสรยุทธถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำหลังพ้นโทษ พิธีกรชื่อดังเปิดใจถึงเรื่องที่ไม่ให้เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับการเมือง ว่า ตามที่เข้าใจ ที่มีเงื่อนไขแบบนี้เพราะว่ามีกรณีของคนที่ออกไปก่อนหน้านี้ เป็นคดีที่ถูกพิพากษาจำคุกด้วยเหตุผลแสดงความคิดเห็นทางการเมือง หรือเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนการจัดรายการอยู่ภายใต้กรอบจรรยาบรรณของการนำเสนอข่าว ตามปกติคือการประกอบอาชีพสุจริต มันตรงกันข้าม ถ้าอยู่ดีๆ ไม่พูดถึงการเมืองเลย มันคงไม่ใช่อาชีพปกติ แต่ไปขึ้นเวทีคงเป็นไปไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน