‘โทนี่’เย้ยสูตรไหนก็ได้เชื่อสส.ฝั่งปชต.เกิน300 เคาะซักฟอก19-22กค.นัดโหวตชี้ชะตา23กค. ฝ่ายค้านพอใจได้45ชม.

‘วิษณุ’ย้ำใครสงสัยสูตรคำนวณหาส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้รีบยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ มั่นใจไม่มีเดดล็อกเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยลั่นสูตรไหนก็พร้อมสู้ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ กลัวแลนด์สไลด์ จนต้องยอมพลิกลิ้น ‘หมอชลน่าน’ จวกเผด็จการครอบงำสภา ‘โทนี่’ ฟันธง ถึงจะใช้สูตร 500 พรรคฝั่งประชาธิปไตยก็ได้ส.ส.เกิน 300 เสียงอยู่ดี สรุปรัฐสภาโหวตสูตรหาร 500 ฉลุย ขณะที่ 3 วิปเคาะกรอบเวลาซักฟอก 4 วัน 19-22 ก.ค. โหวตลงมติ 23 ก.ค. ฝ่ายค้านพอใจได้ถล่ม 45 ชั่วโมง สอท.ดีเดย์เปิดตัว ‘สมคิด’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ หลังเสร็จศึก

‘บิ๊กป้อม’กั๊กพปชร.ฟรีโหวตสูตรส.ส.
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนจะใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ(ปาร์ตี้ลิสต์)ด้วยการหาร 100 หรือ 500 ว่า ให้รอฟังเขาโหวต เมื่อถามว่าจะปล่อยฟรีโหวตหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปิดห้องคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 ก.ค. ให้สนับสนุนสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 500 ว่า ไม่ทราบ ไม่ได้อยู่ในช่วงที่เขาคุยกันใน วงเล็ก เพราะไม่ได้พูดในห้องประชุมครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากใช้หาร 500 จะมีช่องทางที่ไม่ทำให้ผิดรัฐธรรมนูญได้บ้าง นายวิษณุกล่าวว่า อาจจะไม่ผิดไม่รู้ แต่ต้องมีคนสงสัยอยู่ดี อย่าไปบอกว่าผิดแล้วทำอย่างไรจึงจะไม่ผิด เพราะอาจจะไม่ผิดก็ได้ ต่อข้อถามว่าส.ส.ห่วงว่าหากโหวตสนับสนุนหาร 500 อาจมีความผิด นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น แต่คิดว่าคงมีคนสงสัยและส่งศาลรัฐธรรมนูญแน่ ศาลบอกว่าอันไหนถูกอันไหนผิด ก็ไม่ถึงขนาดที่ใครจะมีความผิดถึงขั้นติดคุก

ต่อข้อถามว่าเรื่องนี้จะกระทบกับการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) หรือกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แน่นอน หากมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะ ใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน ศาลอาจไม่รับไว้พิจารณา หรือรับไว้พิจารณาแล้วดูว่าเจตนา รมณ์หรือบทบัญญัติถ้อยคำในรัฐธรรมนูญ การใช้ 100 หรือ 500 หาร จะนำไปสู่ผล ที่แตกต่างอย่างไร และวินิจฉัยว่าอันไหนถูกหรือผิด

ลองขับ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขอทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า มินิคูเปอร์ เอส พาหนะของคณะทูต สมาพันธรัฐสวิส โดยมีนางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา เอกอัครราชทูตสวิสนั่งไปด้วย ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ก.ค.

‘วิษณุ’ยันไม่เดดล็อก-แนะรีบยื่นศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าสุดท้ายจะไม่นำไปสู่เดดล็อกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายวิษณุ กล่าวว่า หากต้องเลือกตั้งโดยที่กฎหมายลูก ยังไม่ประกาศใช้ จะเกิดปัญหา แต่ตนไม่เรียกว่าเดดล็อกเพราะมีทางออก แต่ไม่รู้ว่าอันไหนถูกหรือผิด แต่ถึงอย่างไรต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง เช่น ออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือ ออกเป็นประกาศคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) หรือร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งไม่มั่นใจว่าศาลจะรับหรือไม่ แต่มีคนแนะนำว่าให้ขอคำแนะนำจากศาลว่าจะให้ทำอย่างไร เพราะมีอยู่ 3 ทาง ถึงอย่างไรก็ได้เลือก เลือกไปก่อน ถูกหรือผิดก็ว่ากัน

เมื่อถามว่าทางออกที่กล่าวว่ายังไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะต้องใช้งบไปกับการเลือกตั้งก่อน นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ ตนถึงบอกว่า มีเวลาที่จะไปร้องต่อศาลโดยยังไม่เสียงบในการจัดเลือกตั้ง เช่น หากศาลวินิจฉัยให้ได้โดยเร็ว หรือในรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 ระบุว่า กรณีมีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามที่กกต.กำหนด กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวอาจเขียนไว้เพื่อสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมหรืออะไรในบางเขตเลือกตั้ง

“หากเกิดปัญหาอย่างที่ว่า แล้วมีการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แล้วประเมินว่าศาลจะตัดสินได้เร็ว กกต.อาจประกาศเลื่อนเพราะมีการเปิดช่องไว้ หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องสูญเสียงบในการจัดเลือกตั้ง แต่หากจะมี การร้องก็ต้องร้องให้เร็ว เพื่อให้เวลาศาล ไม่ใช่เลือกตั้งเสร็จแล้วไปร้อง เพราะก่อนการเลือกตั้งเราจะรู้แล้วว่าเลือกตั้งด้วยกฎหมายอะไร” นายวิษณุกล่าว

‘อัครเดช’ชี้หาร500-เจตนาปชช.
ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กล่าวกรณีอ้างระบบ MMP หรือจัดสรรปันส่วนผสม มีบัตรเลือกตั้งสองใบและหาร 500 เป็นไปตามระบบเยอรมัน ในขณะที่เยอรมันยกเลิกระบบดังกล่าวเพราะพบปัญหา ว่า เป็นบริบททางการเมือง การคำนวณส.ส.ต้องสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการให้พรรคใดพรรคหนึ่งมี ส.ส.ในสภากี่คน การใช้บัตรสองใบ และการหาร 500 จะสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เป็นต้นคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยกำหนดให้ใช้วิธีคำนวณการหาร 100 แต่ตอนนี้กลับลำเลือกใช้สูตรหาร 500 นายอัครเดชกล่าวว่า หาก 8 ญัตติที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอไปผ่านรัฐสภาทั้งหมดจะไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะผ่านมาแค่ 1 ญัตติ จึงยังมีติ่งอยู่ ดังนั้นไม่ว่าจะหารด้วยอะไรจะมีข้อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ สิ่งที่เราต้องยึดคือระบบไหนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากกว่ากัน และในรัฐธรรมนูญที่แก้ไขกำหนดว่าการคำนวณให้ไปดูในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการ เลือกตั้งส.ส. จึงยังไม่ได้กำหนดว่าหาร 100 หรือหาร 500

‘หมอระวี’ปัดพรรคเล็กต่อรอง
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคขนาดเล็กและพรรคขนาดกลางร่วมมือกันมาตลอด และคิดว่ามีแนวโน้มที่ดีในการหาร 500 แต่วันนี้ไม่ใช่ตนจะแถลงประกาศชัยชนะ ต้องรอให้ผ่านการโหวตวาระ 3 ของรัฐสภาไปก่อน หลังจบวาระ 3 ตามระเบียบต้องส่งเรื่องให้ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญ 2.ศาลฎีกา และ 3.กกต. ซึ่งจะใช้เวลา 10 วัน เพื่อตอบว่าเห็นชอบหรือขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่

หากมีองค์กรใดชี้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ต้องส่งกลับมายังรัฐสภา เพื่อแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่ถ้าไม่ขัดจะส่งให้รัฐสภาเพื่อส่งรัฐบาล และนายกฯ มีเวลา 5 วันก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งช่วง 5 วันนี้เป็นช่วงนาทีทองของฝ่ายที่โหวตแพ้มีสิทธิ์ยื่น ต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นเชื่อว่าฝ่ายที่แพ้ไม่ว่าฝ่ายไหนคงเตรียมการรองรับไว้แล้ว

“หากหาร 500 ชนะการเมืองจะพลิกโฉม การส่งสัญญาณว่าพรรคร่วมรัฐบาลเอาจริง และพรรคพลังประชารัฐ จะมีความมั่นคง รวมถึงการแสดงความสามัคคีของ 3ป. ด้วย พรรคเล็กในอนาคตคงมีไม่มากเหมือนปัจจุบัน อาจเหลือ 6-7 พรรค ไม่ใช่ 30-40 พรรค อย่างที่ว่ากัน แต่ถ้าหาร 100 ชนะกระแสแลนด์สไลด์จะสูงขึ้น รัฐบาลก็จะอ่อนลง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐที่แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร เปลี่ยนใจมาสนับสนุนการหารด้วย 500 นพ.ระวีกล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่การต่อรองของกลุ่มพรรคเล็ก เพราะที่เราเข้าไปพบพล.อ.ประวิตร เพื่อไปอธิบายว่าการหาร 100 ผิดรัฐธรรมนูญเช่นกัน พล.อ.ประวิตรก็เข้าใจถึงจุดนี้

เพื่อไทยโวย‘บิ๊กตู่’หวังเตะสกัด
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสรัฐบาลจะโหวตสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ใช้หารด้วย 500 ว่า หากพล.อ.ประยุทธ์สั่งได้หมดทั้ง ส.ว. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคร่วมรัฐบาลได้ เราก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าหาร 500 พรรคเพื่อไทยเสียเปรียบ หาร 100 พรรคเพื่อไทยได้เปรียบ พล.อ.ประยุทธ์สั่งบนฐานคิดนี้เท่านั้น ไม่ได้คิดเรื่องระบบที่ดีของประเทศในอนาคต และไม่ได้คิดว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

หากลงมติแล้วการหาร 500 ชนะ แม้พรรคเพื่อไทยไม่ยื่นร้อง กฎหมายก็ต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าการพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หากรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วต้องส่งไปให้องค์กรที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ใครอ่านก็รู้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ

พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้น คิดแต่ว่าจะต้องชนะแค่วันนี้ นายกฯคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทย ตนไม่เชื่อว่าหากชนะด้วยสูตรหาร 500 พรรคร่วมรัฐบาลจะแข็งแกร่งมากขึ้น พรรคฝ่ายค้านจะไหลออก เพียงแต่ให้พรรคร่วมที่อยู่ในช่วงกระแสตกมีความหวังขึ้น เพื่อให้มีพลังเกาะเกี่ยวเหนี่ยวนำกันไปได้ต่อ หากหาร 100 อาจแพแตกตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยก็ได้ เขาทราบดีว่าประชาชน ไม่นิยม จึงต้องใช้แท็กติกการเลือกตั้งช่วย

เมื่อถามว่าหากหาร 500 พรรคเพื่อไทยจะแพแตกหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่าไม่แตก เราไม่ได้คิดว่าต้องอาศัยเทคนิคการเลือกตั้ง เพราะเรายืนบนฐานของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ลั่นพร้อมสู้ทุกกติกา
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ กล้าปิดห้องคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลถึงสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องเลิกพูดได้แล้วว่าการแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องของสภา เพราะของจริงคือทั้ง 3 ป.เขียนด้วยมือแต่ลบด้วยเท้า เปิดหน้าเล่นขนาดนี้ไม่ต้องเขินกันแล้ว การเดินเกมโฉ่งฉ่างไม่เหลือทรง ออกมาล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลด้วยตัวเองจนออกอาการเสียรังวัดขนาดนี้ อาจมองสภาเป็นแค่ตรายาง ผ่านกฎหมายเพื่อตัวเองและพวกพ้อง

“ความกลัวทำให้เสื่อม พล.อ.ประยุทธ์กลัวพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์จนยอมพลิกลิ้น ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลติดลบอย่างหนักจากการกลืนน้ำลายตัวเอง พรรคประชา ธิปัตย์ที่ยืนยันมาตลอดว่าต้องหาร 100 ถ้าปล่อยฟรีโหวตหนุนหาร 500 จริง เป็นเรื่องแปลกประหลาด พรรคพลังประชารัฐเคยกระหยิ่มยิ้มย่องว่ารัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา กลับละทิ้งโอกาสจะคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน พรรคเพื่อไทย ไม่หวั่นไหวจะหาร 100 หรือ 500 ก็พร้อมสู้ทุกกติกา และจะไม่กระทบกับการสร้างปรากฏการณ์พรรค เพื่อไทย แลนด์สไลด์” นายอนุสรณ์กล่าว

จวกยิ่งกว่าการยึดอำนาจ
ส่วนนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสข่าวพล.อ. ประยุทธ์ สั่งการพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.จะใช้ 500 หาร หากเป็นเช่นนั้นจริงแปลว่าครม. ที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเป็นร่างที่ครม. นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล(ก.ก.) ล้วนหารด้วย 100 ดังนั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์จะเอาหาร 500 แปลว่าหลักการออกกฎหมายในรัฐสภาไม่มีความหมายเลย จะเอาพรรคเล็กเกลื่อนสภาแล้วต่อรองกันเหมือนเดิมหรือ ขอให้ส.ส. และส.ว. ยึดมั่นในหลักการ

“เป็นการดันทุรังครั้งใหญ่หลวง หาก พล.อ.ประยุทธ์ทำอย่างที่มีข่าวจริงจะยิ่งกว่าการยึดอำนาจ แบบนี้บ้านเมืองจะไปไหวหรือ วันนี้เกือบ 20 พรรค ท่านยังวุ่นวายพอสมควร แล้วทำไมต้องกลับไปเป็นแบบนั้นอีก นายวิษณุก็ไม่ได้โง่ พรรคเพื่อไทยจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีหลักการอย่ามีรัฐสภาดีกว่า ยึดอำนาจไปเขียนเองทำเองเท่กว่าเยอะ อย่ามาใช้มือสภาแบบนี้ ยังไม่ทันเห็นฝนก็เอาร่มไปกางแล้ว” นายสมคิดกล่าว

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ท่าทีที่ชัดเจนของพรรคร่วมรัฐบาลจะลงมติการหาร 500 เท่ากับยอมรับการสืบทอดอำนาจของเผด็จการให้คงอยู่ ทั้งที่ในความเป็นจริงรัฐธรรมนูญปี 2560 ดีไซน์มาเพื่อพล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว อยากฝากถึง ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค อย่าคำนึงถึงแต่กติกาที่ได้เปรียบ อย่าคิดเล่นเกมล้มกระดาษกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว

‘โทนี่’ไม่แคร์สูตรไหนก็ได้
นายทักษิณ ชินวัตร หรือพี่โทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ค. ว่า เมื่อนายกฯ บอกว่าเอาหาร 500 ก็พยายามคิดเป็นเพราะกลัวพรรคเล็กพรรคน้อยจะไปยกมือร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) จะมาล้มตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เลยต้องเอาใจโดยเอาหาร 500 อยากอยู่ต่อก็เลยต้องเอาใจพรรคเล็ก

“สมมติว่าถ้าเป็นหาร 500 ก้าวไกลจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เยอะขึ้น ถ้าหาร 100 เพื่อไทยจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เยอะขึ้น 2 พรรคนี้ออกหัวออกก้อยก็ 300 บวก พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติก็จะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่ม ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่แคร์รวมกันยังไงก็ได้เกิน 300 อยู่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลยังไงก็ไม่เกิน 200 ถ้าเอาหาร 500 ฝ่ายรัฐบาลวันนี้จะได้พวก 500 ไปเยอะหน่อย”

ส่วนถ้าเป็นสูตรหาร 500 พรรคเพื่อไทยต้องแก้เกมโดยแตกแบงก์หรือไม่ว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทย สมมติเล่นๆ มีผู้ใช้สิทธิ์ 30 ล้านคน หาร 500 เท่ากับ 6 หมื่นเสียง สมมติพรรคเพื่อไทยได้ 15 ล้านเสียงซึ่งไม่น่าไกลเกินฝัน เอา 6 หมื่นหาร 15 ล้านเสียง เท่ากับ 250 ดังนั้นได้ปาร์ตี้ลิสต์มา 50 คนก็ไม่ขี้ไก่ ไม่จำเป็นต้องแตกแบงก์

รายงานตัว – นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎรพร้อมพวก เข้ารายงานตัวคดีจัดชุมนุมปี 2563 ที่ศาลแขวงจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 ก.ค.

ตีปี๊บฝั่งปชต.ได้เกิน 300 เสียง
ขณะที่ก้าวไกลได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้น พรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมกันก็ 300 อยู่ดี พลิกเกมไปเถอะ พลิกคว่ำพลิกหงายรวมแล้วฝั่งรัฐบาลเต็มที่อยู่ที่ 200 ถ้าให้ ส.ว.โหวตแล้วตั้งรัฐบาล ตั้งปุ๊บล้มปั๊บ ถ้าพูดแบบนี้ประชาชนต้อง การันตีให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ 400 เสียงเลย

“ผมกลัวจะเป็นแบงค็อกโมเดลคือได้เสียงถล่มทลาย บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วง่ายดายเลย ถ้าได้เสียงถล่มทลายรับรองว่าการเปลี่ยนแปลงประเทศง่ายมาก เปิดกระเป๋ารอตังค์ได้เลย เรามองปัญหาเป็นการท้าทาย ไม่ได้มองปัญหาเป็นปัญหา” นายทักษิณระบุ

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นายทักษิณว่าไม่ว่าจะใช้สูตรหาร 100 หรือหาร 500 ก็ไม่เกี่ยวกับนายกฯ เพราะเป็นเรื่องที่สภาต้องไปพิจารณาร่วมกัน นายกฯ ไม่สามารถไปชี้นำหรือสั่งการใดๆ ได้ สมาชิกสภาล้วนมีคุณวุฒิ ไม่อยากให้นายทักษิณเอาความเคยชินที่คิดว่าทุกอย่างชี้นิ้วสั่งได้มาทึกทักและจินตนาการเอาเอง

‘พิเชษฐ’ชี้พท.เดินเกมพลาด
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า เหตุที่ทำให้วิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อพลิกเป็นหารด้วย 500 เพราะพรรคเพื่อไทยเคลื่อน ไหวเรื่องกระแสแลนด์สไลด์แรงเกินไป ยิ่งผลโพลหลายสำนักมาสมทบกระแสแลนด์สไลด์ให้แรงยิ่งขึ้น จนหลายพรรคกลัว โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลกลัวสอบตก จึงต้องมารวมตัวกันใช้สูตร 500 หาร ที่เห็นชัดคือพรรคประชาธิปัตย์เจ้าของร่างแท้ๆ และพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ก่อนหน้านี้ยืนยันสนับสนุนใช้ 100 หาร จู่ๆ กลับลำใช้สูตร 500 หาร เพราะเห็นผลโพลแลนด์สไลด์ กลายเป็นเข้าทางพล.อ.ประยุทธ์ที่อยากใช้ 500 หารอยู่แล้ว

ส่วนพล.อ.ประวิตร แม้มีจุดยืนใช้วิธี 100 หาร แต่เกมมาเปลี่ยนหลังประชุมครม.เมื่อ 5 ก.ค. ที่พล.อ.ประยุทธ์เช็กชื่อแกนนำครม.เรียงคน ทุกพรรคเอาหาร 500 หมด เมื่อครม.ไม่เล่นด้วย พล.อ.ประวิตรก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องเลยตามเลย พรรคเพื่อไทยเร่งกระแสแลนด์สไลด์เร็วเกินไป งานนี้ทุกพรรคได้ประโยชน์หมดยกเว้น พรรคเพื่อไทยที่เสียประโยชน์ พล.อ.ประยุทธ์ชนะเที่ยวนี้ เพราะพรรคเพื่อไทยเดินเกมพลาดเอง

ถกกม.ลูก-ถล่มกกต.หยุมหยิม
เวลา 09.52 น. ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธาน พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการ เลือกตั้ง ส.ส. ในมาตรา 6/3 ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ ตามที่ กมธ.เสียงข้างน้อย เสนอให้มีบัตร เลือกตั้งสองใบ เบอร์เดียวกัน ต่อจากวันที่ 5 ก.ค. โดยเป็นขั้นตอนการลงมติ มาตรา 6/3 ผลปรากฏว่าสมาชิกเห็นด้วย 150 ไม่เห็นด้วย 341 งดออกเสียง 5 ไม่ออกเสียง 3 เสียง

จากนั้นพิจารณาเรียงรายมาตรา บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนถึงมาตรา 12 ซึ่งแก้ไขมาตรา 73 ว่าด้วยข้อห้ามในการ กระทำที่จะใช้เพื่อจูงใจ ชักจูง หรือชักชวน ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกผู้สมัคร รายใด หรือไม่เลือกผู้สมัครรายใด การอภิปรายไม่ได้ทักท้วงเนื้อหาที่กมธ.แก้ไข เพิ่มเติม แต่ฝากข้อเสนอแนะไปยัง กกต.

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า กกต. ไม่สนใจว่าการเลือกตั้งจะมีการซื้อเสียงหรือไม่ ที่ผ่านมา กกต.ทำแบบหยุมหยิม เช่น ยื่นซองให้พระในงาน หรือให้ซองเจ้าภาพช่วยงานศพกลับเอาผิด แต่ซื้อเสียงทั้งเมือง กกต.ไม่รู้เรื่อง อยากให้การแก้ไขมาตรา 73 สามารถปราบการทุจริตได้ เพราะห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่ ปี 2566 จะซื้อหนักกว่าเดิม

ปูดฮั้วแบ่งเขต-บางบ้านตุนเสบียง
ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนห่วงการทำงานของ กกต. เพราะปัจจุบันเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วจากการจะกลับไปใช้สูตร 500 คือ การแย่งชิงอำนาจ ตอนนี้การแบ่งเขตเลือกตั้งเริ่มฮั้วให้บางพรรคแล้ว จังหวัดใดที่ได้ผู้แทนฯ เพิ่มก็เริ่มมีปัญหา กระบวนการแจกกล้วย จะกระจายไปยังเขตเลือกตั้ง เป็นคันรถ ซึ่งกกต.รู้ แต่ไม่ปฏิบัติเพราะต้องหาหลักฐาน บางบ้านสะสมเสบียงเป็นพันล้านบาทเพื่อเตรียมเลือกตั้ง วันนี้เรารบกับ 3 ป. ไม่ใช่ ปลากัด ปลาดุก ปลาช่อน แต่คืออำนาจเต็ม ขอฝากไปยังกกต.

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ.เสียงข้างน้อย ชี้แจงเหตุผลห้ามจัดงานมหรสพว่า อาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างพรรคที่มีเงินจัดมหรสพกับพรรคที่ด้อยกว่า

ในที่สุดที่ประชุมลงมติด้วยคะแนน 401 ต่อ 78 งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 3

อำลาตำแหน่ง – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทักทายกับนางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะเพื่ออำลาตำแหน่ง ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ก.ค.

‘ชลน่าน’ฉะสภาเผด็จการ-500ฉลุย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ช่วงกลางวันถึงเย็น เป็นไปอย่างล่าช้า จากเดิมคาดว่าจะได้อภิปรายประเด็นสำคัญมาตรา 23 เรื่องวิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะใช้สูตรหาร 100 หรือ 500 ในช่วง 14.00 น. แต่ได้อภิปรายเมื่อเวลา 17.49 น. โดยมีการตกลงกันว่า วันที่ 6 ก.ค.จะอภิปรายให้จบแค่มาตรา 23 จากนั้นจะไปอภิปรายมาตราที่เหลือ และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ต่อในวันที่ 26-27 ก.ค.

สำหรับการพิจารณามาตรา 23 มีสมาชิกอภิปรายเป็นจำนวนมาก โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ในรายงานนี้มีความผิดปกติ ในตัวรายงานไม่มีความเห็นของกมธ.เสียงข้างมากปรากฏอยู่เลย ทั้งๆที่มีผู้แปรญัตติ กมธ.เห็นว่าเรื่องนี้ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดหลักการ กมธ.จึงไม่มีความเห็นของตัวเอง ทั้งๆ ที่ในที่ประชุม กมธ.มีความเห็น ตนเป็นคนทักท้วงว่า อย่างไรกมธ.ต้องมีความเห็น เพื่อให้ปรากฏในรายงาน แล้วส่งให้สภาวินิจฉัยว่าตรงนี้สงวนคำแปรญัตติ สงวนความเห็นได้หรือไม่ ก่อนที่จะลงมติ 2 ครั้งว่าทำได้หรือไม่ จึงขอให้กมธ. กลับไปพิจารณารายงานของกมธ. แม้ไม่มีความเห็นทั้งที่รู้แก่ใจว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

“ประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เคยมี ผมถึงบอกว่าตอนนี้สภาวิบัติแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องยึดหลัก สมัยก่อนกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา แต่ตอนนี้ต้องระวังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ว่ามีการสั่งการ เอา 500 ถ้าเกิดจริงไม่ใช่เผด็จการรัฐสภา แต่จะเป็นสภาเผด็จการ สภาที่ถูกครอบงำและสั่งการโดยเผด็จการ พวกเราเป็นสภา จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” นพ.ชลน่านกล่าว

จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็น กระทั่งเวลา 21.50 น. เป็นการลงมติ โดยมีสมาชิกร่วมประชุม 577 คน ลงมติเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก 160 ไม่เห็นด้วย 392 งดออกเสียง 23 ไม่ลงคะแนน 2 สรุปว่าใช้สูตรหารด้วย 500

3วิปเคาะซักฟอก4วัน-ลงมติ23ก.ค.
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป) ได้เรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย วิปฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะมีทั้งหมด 4 วัน ฝ่ายค้านได้เวลาทั้งหมด 45 ชั่วโมง ส่วนอีก 18 ชั่วโมงเป็นของครม. ส.ส.รัฐบาล และประธานที่ประชุม โดยการประชุมเริ่มวันที่ 19-22 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30-00.30 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันอภิปรายสรุปซึ่งจะให้จบประมาณ 23.30 น.หรือไม่เกิน 00.00 น. และจะลงมติในวันที่ 23 ก.ค.เวลา 10.00 น. เราพอใจเวลาแม้จะไม่ได้วันอภิปราย 5 วัน แต่ได้ชั่วโมงตามที่ต้องการคือ 45 ชั่วโมง

สำหรับระบบการอภิปรายจะมี 3 ระบบ 1.อภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 2.อภิปรายพ่วง 2 คนโดยมีเป้าหลักและเป้ารอง และ 3.อภิปรายพ่วง 3 คน โดยผู้อภิปราย 1 คนสามารถอภิปรายรัฐมนตรีได้หลายคนและหลายรอบ แต่สามารถอภิปรายรัฐมนตรีคนนั้นๆ ได้แค่ครั้งเดียว สำหรับกรอบเวลาอภิปรายในแต่ละวัน ฝ่ายค้านจะจัดให้สมดุลอย่างน้อยวันละ 11 ชั่วโมง ขณะที่รัฐบาลได้วันละ 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์มีฝ่ายค้านอภิปรายฝ่ายเดียว หรือฝ่ายรัฐบาลต้องมาตอบพร้อมกันในวันเดียว ต้องกระจายกัน

สอท.เปิดตัว‘สมคิด’หลังเสร็จศึก
นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการโพสต์รูปภาพนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทยว่า ทางพรรคมองว่า นายสมคิด เป็นคนที่มีประสบการณ์ทางการบริหารเศรษฐกิจ จึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดคนหนึ่งที่จะเป็นแคนดิเดตของพรรค ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมจึงรอเปิดตัวหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ถือเป็นจังหวะทางการเมืองที่เหมาะสม ที่จะทำให้สิ่งที่นายสมคิดต้องการสื่อสารออกไปสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะช่วงนี้ประชาชนกำลังจดจ่ออยู่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาชนจะยิ่งเห็นถึงข้อบกพร่องของรัฐบาลที่ผ่านมา และอาจจะเห็นบทบาทของทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่มีทั้งดีและ ไม่ดี พรรคก็อยากเสนอตัวเป็นทางเลือก

ต่อข้อถามถึงนโยบายหลักของพรรคสร้างอนาคตไทยที่จะใช้หาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า นายสุรนันทน์กล่าวว่า จะมุ่งเน้นไปที่ 2 โครงสร้างหลัก คือ 1.โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศต้องเปลี่ยนไปตามที่โลกเปลี่ยนด้วย เพราะโลกหลังโควิด-19 ไม่เหมือนโลกก่อนโควิด และทุกประเทศตอนนี้กำลังค้นหายุทธศาสตร์ที่จะเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศ รวมไปถึงเศรษฐกิจฐานราก เพื่อจะทำให้เกิดความเข้มแข็ง โดยพรรคสร้างอนาคตไทยจะนำเศรษฐกิจดิจิทัลมาผสมผสานให้เหมาะสมกับประเทศไทย

2.โครงสร้างทางการเมืองที่จะต้องปรับ เพื่อทำให้รัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดเป็นประชา ธิปไตยมากขึ้น ทางพรรคกำลังคิดที่จะเสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะปรับแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งการปรับแก้นี้จะเปิดโอกาสให้ประชาชน ทั้งทางการเมือง สิทธิ เสรีภาพ และโอกาสทางเศรษฐกิจด้วย

สภากทม. – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 1) ประจำปี พ.ศ. 2565 ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2 ดินแดง เมื่อวันที่ 6 ก.ค.

อัยการชี้เปิดสัญญาบีทีเอสได้
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ให้ความเห็นข้อกฎหมายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในประเด็นข้อกฎหมายเรื่องการเปิดเผยสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ความว่า ในฐานะที่ผมเป็นกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ถือเป็นวิสาหกิจของกทม. การที่กทม.จะเปิดเผยสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ทำกับเอกชนนั้น มีข้อที่ต้องพิจารณาดังนี้ กทม.เป็นราชการส่วนท้องถิ่น จึงถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 4 จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการฯ โดยมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (6) บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูสัญญาสัมปทาน สัญญาร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนด

ดังนั้น สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นสัญญาร่วมทุนระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับเอกชน ในการจัดทำบริการสาธารณะจึงเป็นข้อมูลข่าวสารที่กรุงเทพมหานครในฐานะผู้ถือหุ้นแทบจะทั้งหมดของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และมีอำนาจในการควบคุมหรือกำกับดูแล ต้องจัดให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูหรือตรวจสอบได้

นอกจากประชาชนจะสามารถเข้าตรวจดูหรือตรวจสอบสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวได้แล้ว กทม.ยังสามารถเปิดเผยสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ด้วย โดยให้ประชาชนเข้าตรวจดูหรือตรวจสอบสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งสามารถดำเนินการได้ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการฯ

เว้นแต่จะมีข้อความส่วนไหนที่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 14 หรือมาตรา 15 (1) – (6) เช่น การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปิดเผย เช่น ข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้าตาม พ.ร.บ.ความลับทางการค้า พ.ศ. 2545 เป็นต้น กรุงเทพมหานครก็สามารถใช้ดุลพินิจไม่เปิดเผยข้อความส่วนนั้นได้

เปิดจองออนไลน์เข็ม90พรรษา
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าตามที่รัฐบาลเห็นชอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปสำหรับใช้ประดับในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา และในโอกาสสำคัญตามวาระอันสมควร โดยจำหน่ายราคาเข็มละ 199 บาทนั้น เพื่อให้ประชาชนสะดวกในการสั่งจองเข็มที่ระลึกฯ จึงขอให้สั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (thailandpostmart.com) เพียงช่องทางเดียว สั่งจองได้ไม่จำกัดจำนวน

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างนำส่งเข็มที่ระลึกฯ ให้ผู้ที่สั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สอบถามรายละเอียดได้ที่กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โทร.0-2283-4305

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน