ลูกพรรคแห่เชียร์เหมาะนั่งมท.1 ปปช.-กกต.สอบสลิปแจกกล้วย สภาถกต่อ2กม.ลูก-สูตร500วุ่น

‘ตู่’ ไม่ตอบกระแสข่าว ‘ป้อม’ อยู่เบื้องหลัง 6 ส.ส.ปากน้ำโหวตไม่ไว้วางใจ ‘อนุพงษ์-สุชาติ’ ‘ประวิตร’ลุยสมุทรปราการ กลุ่มปากน้ำแห่รับ ‘กรุงศรีวิไล’ ปรี่กราบเท้า ชูเหมาะนั่งมท.1 หัวหน้าพปชร.ไม่ติดใจหลังปิดห้องเคลียร์ ยาหอมปรับครม.ต้องได้รัฐมนตรี ไม่กลัวป.ป.ช.สอบมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ยุ่งการเมือง เชื่อผลสรุป ไม่ต่างคดีนาฬิกาหรู ป.ป.ช.เล็งสอบไลน์หลุด ส.ส.กินกล้วย เอาผิดทั้งคนให้-คนรับ ทั้งคดีอาญาและผิดจริยธรรม กกต.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ‘ธรรมนัส’ ชี้ 3 วันได้ข้อสรุปฟันส.ส.งูเห่า ประกาศตัดขาดกลุ่มพรรคจิ๋ว ปชป.อีสานยกทีมให้กำลังใจ ‘อู๊ดด้า’ เจ้าตัวลั่นมีกำลังใจสู้ต่อ

ตู่รูดซิป-6 ส.ส.ไม่วางใจป๊อก
วันที่ 25 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเป็นประธานการประชุม ก.ตร. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ตอบคำถามถึงควันหลงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพปชร. อยู่เบื้องหลังผลโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดย 6 ส.ส.สมุทรปราการ พปชร.โหวตสวนมติพรรค นายกฯ แค่หันมามองสื่อมวลชนเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเดินทางกลับทันที

ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันพล.อ.ประยุทธ์ยังคงสงวนท่าทีและเลี่ยงจะตอบคำถามประเด็นการเมือง

ส.ส.สมุทรปราการแห่รับป้อม
เวลา 14.00 น. ที่เทศบาล ต.บางเมือง จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ มีข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น รวมถึง ส.ส.สมุทรปราการ พปชร. กลุ่มปากน้ำที่ลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์ และ นาย สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน มาร่วมต้อนรับ คือ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ และ นายต่อศักดิ์ อัศวเหม มารอต้อนรับ ขาดเพียง น.ส.ภริม พูลเจริญ ที่ติดภารกิจ เมื่อขบวนรถของพล.อ.ประวิตรเดินทางมาถึง นายกรุงศรีวิไล ปรี่ไปรับถึงรถและก้มลงกราบแทบเท้า พล.อ.ประวิตรทันทีที่ก้าวลงจากรถ รอง นายกฯ รับไหว้รีบบอก “ลุกขึ้น เดี๋ยวลุก ไม่ไหว เรามันแก่พอกัน”

นายกรุงศรีวิไลกล่าวว่า ที่กราบพล.อ. ประวิตร เพราะอยากขอโทษที่ลงมติไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์ และส่วนตัวต้องการให้ พล.อ.ประวิตรเป็นรมว.มหาดไทย แทน เพราะที่ผ่านมาส.ส.เขียนโครงการอะไรไปก็ไม่ตอบรับ ไม่พิจารณางบประมาณ จนเป็นที่มา 6 ส.ส.ลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตรมีความเหมาะสมที่จะเป็น รมว.มหาดไทย เป็นผู้มากบารมี มีน้ำใจ ไม่ว่าพวกไหนรักทุกคน ให้ความเป็นธรรมทุกคน จึงคิดว่าแม่บ้านของประเทศต้องเป็นคนลักษณะนี้

กราบเท้า – นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ก้มกราบเท้าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพปชร. ระหว่างตรวจราชการที่จ.สมุทรปราการ เพื่อขอโทษที่โหวตคว่ำรมว.มหาดไทย เมื่อ 25 ก.ค.

ปิดห้องเคลียร์ส.ส.ปากน้ำ
จากนั้นพล.อ.ประวิตรพร้อมส.ส.กลุ่มปากน้ำ ปิดห้องรับรองพูดคุยเคลียร์ใจ โดยมีนางนันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ.สมุทปรการ ร่วมพูดคุยด้วย ใช้เวลา 10 นาที

พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังปิดห้องคุย ยังติดใจสาเหตุของการโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ นายสุชาติ หรือไม่ โดยส่ายหน้าพร้อมกล่าวว่า “ต้องแล้วแต่ที่เขาโหวตไป” เมื่อถามว่าไม่โกรธใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องน้อยเนื้อต่ำใจ เขาไม่รู้จะทำอย่างไร

เมื่อถามว่าได้เคลียร์ใจกันแล้วหรือไม่และได้ขอโทษกันแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรพยักหน้า ก่อนกล่าวว่า เขาขอโทษ เมื่อถามว่าให้อภัยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องเอาเรื่องเข้า กก.บห.พรรค เมื่อถามว่าต้องตั้งกรรมการสอบสวนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องสอบเพราะทำไปแล้ว บทลงโทษก็มีอยู่แล้ว

ลั่นไม่กลัวปปช.สอบป่ารอยต่อ
เมื่อถามกรณีมีการตรวจสอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิป่ารอยต่อฯ มีข้อสังเกตอาจนำมายุ่งเกี่ยวการเมือง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ตนไม่รู้เรื่อง ต้องไปถาม คนปล่อยข่าว ป่ารอยต่อฯไม่ได้ทำอะไร เมื่อถามว่าวัตถุประสงค์ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ที่ผ่านมามีนักการเมืองเข้าไปตลอด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตนเกี่ยวคนเดียว ป่ารอยต่อฯไม่เกี่ยว เมื่อถามว่านายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ระบุรับเงินในป่า รอยต่อฯ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เฮ้ยไปรับกับใคร ผมจะรู้มั้ย” เมื่อถามว่าไม่เคยเจอนายพิเชษฐ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เจอ เจอในเรื่องของการทำงานเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่าการเตรียมยื่น ป.ป.ช.ให้สอบเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “รับไปเลย ก็เหมือนนาฬิกาผม รับไปเรื่องจริงเป็นอย่างไรก็ว่ากันไป ผมไม่กลัวหรอก”

ยาหอม-ปรับครม.ต้องได้รมต.
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวระหว่างลงพื้นที่ตอนหนึ่งว่า ยินดีที่ได้มาตรวจราชการและพบปะประชาชน จ.สมุทรปราการ เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลเคยมอบหมายไปครั้งก่อน ขอชื่นชมผู้ว่าฯ นายกฯ อบจ. และชาวสมุทรปราการที่ร่วมกันทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเห็นได้ชัดแม้ฝนตก 3 วัน 3 คืนก็สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ น้ำท่วมปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ห่วงใยมาติดตามทันที พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานแก้ไขเร่งด่วน เห็นได้ชัดว่าพล.อ.ประยุทธ์ ห่วงใยชาวสมุทรปราการ จึงขอให้ทุกคนเห็นใจนายกฯ เพราะทำงานหนักเพื่อคนไทยอยู่ดีกินดีขึ้น

“รัฐบาล รัฐมนตรีทุกคนโดยเฉพาะในพื้นที่สมุทรปราการ มี ส.ส.พลังประชารัฐร่วมมือร่วมใจกับรัฐบาลทำงานทุกอย่าง ขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรค ให้มีส.ส.ถึง 6 คน ถึงแม้จะได้ ส.ส.มาก แต่ยังไม่ได้รัฐมนตรี ไม่ต้องห่วงครับยังไงก็ต้องได้ เพราะว่าอยู่มานาน ทำงานให้รัฐบาลดีแล้วก็ต้องได้รับการพิจารณา ปรับครม.เมื่อไหร่ก็ต้องได้เป็น” พล.อ.ประวิตร กล่าว

แจงสาเหตุโหวตหักป๊อก-เฮ้ง
นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ เผยหลังพูดคุยว่า ตนได้ชี้แจงเหตุผลที่โหวต คว่ำ พล.อนุพงษ์ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา จ.สมุทรปราการ ไม่ได้รับการดูแล การเสนอโครงการผ่านมหาดไทยไม่ได้รับการอนุมัติ และต้องรับแรงเสียดทานจากความหวังของประชาชน การตัดสินใจโหวตอยู่บนพื้นฐานการเป็นผู้แทนราษฎรและความถูกต้อง และเมื่อชี้แจงถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว

ส่วนเหตุผลที่โหวตคว่ำนายสุชาติ เพราะทำการเมืองท้องถิ่นทับซ้อนพื้นที่ ที่ผ่านมา ส.ส.สมุทรปราการ ทำงานครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดและรักกันดี ไม่มีแตกแยก จึงขอแนะนำว่านายสุชาติ มีพื้นที่การเมืองของ ตัวเองที่จ.ชลบุรี ก็มีปัญหาหนัก ควรไปดูแลพื้นที่ตัวเอง ส่วนการทำงานวันข้างหน้าผู้ใหญ่จะว่าอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม จะไม่มีแรงกดดันใดให้ยกโทษให้ เลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัครในนาม พปชร.หรือไม่ขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่พิจารณา ย้ำว่าส.ส.สมุทรปราการทำงานเป็นทีม ถ้าสมุทรปราการก้าวหน้าไปทางไหนก็พร้อมที่จะไปด้วย

นันทิดาปัดตอบใบสั่งชนม์สวัสดิ์
น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ.สมุทรปราการ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่เข้าไปพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร พร้อม ส.ส.ปากน้ำ เพื่อสะท้อนปัญหาถึงเรื่องน้ำ มลพิษ ยืนยันในห้องหารือไม่ได้มีการเคลียร์ถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มปากน้ำ กับ พล.อ.ประวิตร

เมื่อถามกรณีมีข้อสังเกตส.ส.กลุ่มปากน้ำได้ใบสั่งจากผู้ใหญ่ไม่ไห้โหวตไว้วางใจ มท.1 น.ส.นันทิดา กล่าวว่าไม่ทราบ เพราะทำงานในส่วนท้องถิ่น ส่วนที่มองว่าผู้ใหญ่อาจหมายถึงนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม น.ส.นันทิดาหัวเราะก่อนกล่าวว่า กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าเป็นกลุ่มท้องถิ่นไม่ได้ขึ้นกับพรรคการเมือง

อย่าว่าแต่ป๊อก-ตู่ก็กล้าอภิปราย
นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ พปชร. กล่าวถึงการลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ และนายสุชาติว่า มาจากเหตุผลบางอย่างของผู้ใหญ่ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ส.ส.ทั้งกลุ่มเคารพหัวหน้าพรรค แต่ไม่ขอ ก้าวล่วงความคิดผู้ใหญ่ในกลุ่ม ที่ทำไปทั้งหมดเพราะอยากให้จ.สมุทรปราการ พัฒนา ไม่มีการเรียกร้องเรื่องตำแหน่ง และไม่มีความน้อยใจ กรณีโหวตไม่มีปัญหาภายในพรรคเพราะในกลุ่มไลน์ ส.ส.มีร้อยกว่าคนไม่มีปัญหาอะไรเลย และยังโทร.มาให้กำลังใจอีกด้วย มีเพียงแค่ 3-4 คนเท่านั้นที่มีปัญหา

นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทร ปราการ พปชร. กล่าวว่า โจทย์ใหญ่คือรมว.มหาดไทย ที่เป็นแม่บ้านรัฐบาลและเคยสัญญาว่าสมุทรปราการมีอะไรให้แจ้ง แต่พอแจ้งไม่ได้รับการตอบสนอง เรียกว่ากระตุกหนวดเสือ เสือหลับจึงเรียกให้ตื่น มาดูลูกๆ บ้างว่าเป็นยังไง “อย่าว่าแต่ลุงป๊อกเลย ลุงตู่ถ้าไม่ถูกผมก็ขึ้นเวทีอภิปราย ที่ผ่านมาเคย ร้องเรียนปัญหาไปแล้ว และให้ทำแผนเสนอไปแต่สุดท้ายไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ ทีนี้เราอยู่อย่างไร” เมื่อถามว่าต้องการให้ใครมาเป็นรมว.มหาดไทย นายกรุงศรีวิไลกล่าวว่า “ลุงป้อม”

ปปช.เก็บข้อมูลไลน์หลุดแจกกล้วย
ที่สำนักงานป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาฯป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่า สำนักงาน ป.ป.ช.สั่งติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้น อะไรที่ปรากฏข้อมูลข่าวสาร ป.ป.ช.มีศูนย์เฝ้าระวังอยู่ อะไรที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช.ต้องมีการสังเคราะห์ก่อนว่าคือประเด็นอะไร อย่างไร หากมีการร้องเรียนมา ป.ป.ช. จะได้มีพยานหลักฐาน หรือถ้าไม่มีการร้องเรียน แต่มีเหตุอันควรสงสัย ป.ป.ช. สามารถหยิบยกขึ้นมาตรวจสอบได้

หากบอกว่าเป็นการกู้ยืมเงิน แล้วข้อเท็จจริงพบว่าเป็นการยืม ไม่ถือว่าผิดอะไร แต่หากเป็นการให้ก็อาจผิด ซึ่งตามกฎหมายป.ป.ช. แล้ว ส.ส.หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถรับผลประโยชน์ที่คิดเป็นเงินเกิน 3,000 บาท ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 128 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เอาผิดอาญา-จริยธรรม
นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาว่าเป็นการรับเงินเพื่อแลกกับการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ซึ่งอาจเข้าข้อหารับสินบน มีความผิดฐานต่อหน้าที่ราชการเพิ่มขึ้นอีก กรณีเป็น เจ้าหน้าที่รัฐรับทรัพย์สินโดยมิชอบ เพื่อแลกกับการกระทำหรือไม่กระทำบางอย่าง มีโทษ จำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท หรือประหารชีวิต ถือเป็นความผิดทางอาญาเพิ่มขึ้นอีก

ถ้าเป็นการให้เงินหรือรับเงินสินบน เพื่อปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จะเข้าข่ายจริยธรรมร้ายแรงด้วย อาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และอาจถึงขั้นถูกตรวจสอบ ฐานร่ำรวยผิดปกติด้วย ถ้าไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินได้ เช่นเดียวกับผู้ให้เงินอาจมีความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐด้วย เรียกได้ว่า เป็นความผิดกรรมเดียว แต่อาจมีหลายกระทงความผิด ซึ่งหลังจากนาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว ป.ป.ช.จะพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นว่า มีข้อมูลหลักฐานอะไรบ้าง หากเป็นแค่ข้อมูลลอยๆว่ามีแค่ไลน์หลุด อาจไม่เพียงพอ ป.ป.ช. ต้องไปไต่สวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป

กกต.ก็ตรวจสอบข้อมูล
รายงานข่าวระดับสูงของกกต. เผยกรณีไลน์หลุดเปิดสลิปโอนเงินให้นักการเมืองพรรคเล็กว่า นายทะเบียนพรรคการเมือง คือเลขาธิการ กกต. รับทราบเรื่องนี้แล้ว จะดำเนินการตรวจสอบตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ส่วนผลการตรวจสอบจะเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายใดและมีโทษอย่างไรนั้น ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงที่ยุติก่อนจะพิจารณา ต่อไป

ส่วนกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย จะยื่นกกต.ตรวจสอบนั้น ทาง กกต.รับทราบแล้ว แต่จะยื่นหรือไม่ยื่นนายทะเบียนฯ ก็รวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อยู่แล้ว

นักร้องยื่นปปช.เพิกถอนสิทธิ์
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยว่า สมาคมได้รวบรวมพยานหลักฐานจากแหล่งที่ปรากฏในสื่อสำนักต่างๆ ในโซเชี่ยล กลุ่มไลน์ต่างๆ และแหล่งข่าวชัดเจนเพียงพอแล้ว วันอังคารที่ 26 ก.ค. เวลา 10.00 น. จะนำหลักฐานไปมอบให้ ป.ป.ช. ให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 234(1) ประกอบ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28(1) ไต่สวนกรณี ส.ส.ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค หรือหัวหน้ากลุ่มการเมือง รับโอนเงิน 100,000 บาทต่อเดือนหรือต่อครั้ง เกิน 3,000 บาท อาจฝ่าฝืนมาตรา 128 วรรคแรกกฎหมายป.ป.ช. ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งอาจถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี

ก้าวไกลยื่นปปช.ฟันรัฐมนตรี
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.ก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณียื่นป.ป.ช.เอาผิดรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม้ไว้วางใจ ว่า คงดำเนินยุทธการโรยเกลือในประเด็นที่เข้าองค์ประกอบที่จะยืนต่อ ป.ป.ช. บางส่วนก็จะยื่นองค์กรอิสระ อยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวที่จะร่างเป็นเสร็จ จะทยอยยื่นเรื่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ

เมื่อถามว่าจะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณา กี่คน นายธีรัจชัยกล่าวว่า ตัวเลขยังไม่ชัดเจน เนื่องจากสัปดาห์นี้มีการพิจารณากฎหมายลูก คงต้องให้ผ่านการพิจารณากฎหมายลูกไปก่อนถึงจะมีการหารือกัน แต่ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะยื่น ป.ป.ช.หลายคนแน่นอน

ธรรมนัสชี้ 3 วันสรุปฟันงูเห่า
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) เผยถึงการดำเนินการกับ 4 ส.ส.ที่ลงมติไว้วางใจนายกฯ สวนมติศท. ว่า มอบหมายให้ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค และฝ่ายกฎหมายพรรค เป็นคนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นรายบุคคลก่อนพิจารณาบทลงโทษ คาดว่าภายใน 3 วันนี้น่าจะมีความชัดเจน ส่วนตนและส.ส.ที่เหลือ ยังเป็นเลือดแท้ของศท. คนอื่นใครจะออกไปอยู่กับพรรคอื่น ไม่ได้ห้าม ใครจะออกก็เป็นเรื่องของเขา ใครจะอยู่ก็อยู่ด้วยใจและต้องเป็นเลือดแท้ของพรรค

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพรรคเล็ก ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนตัดขาด ไม่ต้องติดต่อกันอีก เพราะเบื่อกับการเมือง การ ต่อรองและผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อถามถึงความขัดแย้งของสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจกลับไปใช้หาร 100 ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนเคยพูดสนับสนุนการหาร 100 มาตั้งแต่ต้น ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

นิกรเชื่อกม.ลูกเสร็จสัปดาห์นี้
นายนิกร จำนง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เลขานุการกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ….รัฐสภา เผยว่า ล่าสุด ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พิจารณาถึงมาตรา 25 แล้ว เหลืออีกไม่กี่มาตรา แต่เกิดปัญหาเนื่องจากไปแก้มาตรา 23 สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 100 หารเป็น 500 จึงต้องแก้มาตราอื่น ที่เหลือ

ตอนที่แก้ก็เตือนแล้วว่าจะเกิดปัญหา หาร 500 จะสัมพันธ์กันไปหมด หากมีใบแดงจะมีส.ส.หายไป 1 คน ที่แบ่งไว้ว่าพึงได้ก็จะเคลื่อนไปหมด มีปัญหามาก ขณะนี้เหลืออีก 8 มาตรา โดยมี 2-3 มาตราที่เหลือจะมีปัญหา ขอย้ำว่าต้องทำให้เสร็จก่อน 15 ส.ค. แต่คิดว่าเวลาที่เหลืออีก 2 วันคือ 26-27 ก.ค. กฎหมายลูกจะเสร็จไม่ทางใดทางหนึ่ง

เชื่อกกต.พลิกกลับใช้หาร 100
เชื่อว่ากกต.มีโอกาสกลับมาหาร 100 มากกว่า เนื่องจาก กกต.เสนอใช้ 100 หารมาตลอด หากกกต.แย้งกลับมาสภาจะมี 2 ทางคือ สภาเห็นตามกกต. โดยมีเวลาแก้ไขภายใน 30 วัน อีกทางคือยึดตามมติสภาหาร 500 ก็จะไปเจออีกด่านคือการเสนอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้กลับมาใช้บัตรใบเดียว นายนิกรกล่าวว่า ตามกฎหมายทำได้แต่ก็เป็นไปได้ยาก เพราะเวลาของสภาเหลือน้อยราว 7 เดือน หากจะแก้ต้องเสนอร่างเข้ามาใหม่และต้องตั้งกมธ. รวมถึงแก้กฎหมายลูก ส่วนในทางการเมืองทำไม่ได้เพราะจะไปบอกประชาชนอย่างไร เสียงพรรคเล็กก็ไม่พอจะเสนอเข้ามาใหม่ เนื่องจากต้องใช้ 100 คน

วิปรัฐบาลเดินหน้าถกต่อ
ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวหลังการประชุมว่า วิปรัฐบาลได้พิจารณาถึงร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ซึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติแก้ไขมาตรา 23 สูตรคำนวณสัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ จากหาร 100 เป็น 500 และจะมีการพิจารณาต่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ประชุมมีมติดำเนินการ 2 แนวทาง แนวทางแรก เห็นควรดำเนินการตามข้อบังคับ พิจารณาวาระ 2 เรียงตามลำดับมาตราจนจบ ถ้ามีประเด็นอะไรที่ไม่ชอบ ขัดหรือแย้งตามรัฐธรรมนูญ ต้องให้รัฐสภาเสนอขอความเห็นไปยัง กกต. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 132 ต่อไป หากกกต.จะยืนยันอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับกกต. แต่ส่วนตัวเชื่อว่ากกต. จะยืนยันกลับมาให้หาร 100 ตามที่เสนอร่างมาตั้งแต่ต้น

แนวทางที่ 2 หากที่ประชุมรัฐสภาเห็นควรให้แก้ไขมาตราอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมาตรา 23 หรือมีแนวทางใด เป็นอำนาจของที่ประชุมจะพิจารณา หากกกต.ชี้ว่า การแก้ไขของรัฐสภาที่ให้ใช้สูตรคำนวณหารด้วย 500 ไม่ขัดและเดินหน้าต่อไป เชื่อว่าจะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะผูกพันทุกองค์กร

หมอระวีซัดกมธ.ข้างมากตีรวน
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา 26 ก.ค. พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ต่อเนื่องวาระสอง ที่เหลืออีก 8 มาตรา ว่า เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา แม้กมธ.เสียงข้างมากพยายามตีรวนให้กลับไปใช้ 100 หาร เชื่อว่าจะคลี่คลายได้ โดยมีผู้เสนอให้แก้ไข 2 มาตรา แม้นายสาธิต ปิตะตุชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานกมธ. จะบอกว่าทำไม่ได้ แต่เชื่อที่ประชุมจะลงมติให้ทำได้ ส่วน 2 มาตราที่จะแก้ไขขอเก็บเป็นความลับ

เมื่อถามว่าการพิจารณาจะลงมติวาระ 3 ได้ภายใน 26 ก.ค.หรือไม่ นพ.ระวีกล่าวว่า การลงมติมี 2 ทาง คือโหวตเห็นชอบ และโหวตคว่ำ หากส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลลงมติคว่ำเท่ากับไม่เห็นด้วยกับทั้งสูตรหารด้วย 100 หรือหาร 500

พท.ปูด-งดใช้ข้อบังคับแก้ ม.23
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เพื่อไทย(พท.) วิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมรัฐสภา 26 ก.ค. เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวที่จะงดเว้นการใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อกลับไปแก้ไขมาตรา 23 สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิมที่มีมติให้ใช้สูตรหาร 500 คนหาค่าเฉลี่ย ให้กลับไปเป็นใช้หาร 100 หากเป็นประเด็นดังกล่าวสามารถเดินต่อไปด้วยกันได้

แต่หากกระบวนการยืนยันที่จะใช้จำนวน 500 หาค่าเฉลี่ย พท.คงไม่สามารถร่วมพิจารณาได้ แต่จะงดออกเสียงหรือไม่ร่วมลงมติ ต้องพิจารณาในการประชุมอีกครั้ง แต่จะอยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมเพื่อให้การพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญเดินหน้าต่อไปได้

ก้าวไกลชี้ 3 แนวทาง
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงการพิจารณากฎหมายลูก 26 ก.ค.ว่า มีปัญหาบางประการที่ทำให้กระบวนการเดินหน้าได้ยาก ตามกระบวนการหากสิ้นสุดวาระ 3 แล้วมี 3 แนวทาง 1.ที่ประชุมรัฐสภามีมติคว่ำ หรือกลับมติว่าไม่เห็นควรให้ผ่านวาระ 3 กระบวนการการแก้ไขกฎหมายลูกต้องเริ่มใหม่หมด 2.ส่งเรื่องให้ กกต.หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อ หากกกต เห็นว่าไม่ต้องปรับแก้จะส่งมาที่รัฐสภาก่อนส่งขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หาก กกต.ส่งกลับมาให้แก้ไข รัฐสภาต้องเลือกว่าจะเห็นตาม กกต. หรือยืนยันตามสิ่งที่ผ่านวาระ 3 ไป และ 3.การเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทราบว่านายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพปชร. ในฐานะกมธ. เตรียมเข้าชื่อยื่นแล้ว แนวทางเดินไปได้แบบนี้เท่านั้น การเริ่มใหม่เลยคิดว่ายังไม่ถึงจุดนั้น เพราะต้องรอให้รัฐสภาพิจารณาจนแล้วเสร็จก่อน จุดยืนของพรรค ก.ก.คือการเดินหน้ากระบวนการพิจารณาไปก่อน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว และสูตรคำนวณเดิม นายณัฐวุฒิกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ แต่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการคว่ำกฎหมายลูกในวาระ 3 ซึ่งยังไม่ถึงจุดนั้น อีกกรณีคือศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการแก้ไขใช้สูตรหาร 500 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขกฎหมายลูกไม่สามารถเดินหน้าต่อได้อย่างเบ็ดเสร็จ หากเป็นเช่นนั้นจริงรัฐสภามีทางออกคือ การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่และแก้ให้เบ็ดเสร็จ ไม่ใช่การแก้ไขแบบครั้งที่แล้ว ซึ่งสรุปบทเรียนตรงกันว่าเป็นการแก้ไขที่ไม่สะเด็ดน้ำ และนำมาสู่ทางตัน

จับดอง 5 ส.ส.งูเห่า
นายณัฐวุฒิ ในฐานะรองหัวหน้า ก.ก. ยังกล่าวถึง 5 ส.ส.งูเห่าหน้าเดิมที่โหวตสวนมติพรรคว่า ส.ส.ทั้ง 5 คน เป็นส.ส.กลุ่มเดิม พรรคมีมติชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่แล้วว่าการขับให้พ้นจากสมาชิกพรรคไม่เกิดประโยชน์ต่อพรรคและประชาชน ฉะนั้นแทนที่จะถามพรรคควรไปถามส.ส.ทั้ง 5 คนที่อุดมการณ์และแนวทางการทำงานไปด้วยกันไม่ได้ ส.ส.บางคนประกาศชัดเจนไม่อยากจะใช้โลโก้พรรคด้วยซ้ำ ส.ส.คนนั้นต่างหากที่ต้องพิจารณาว่าเหตุใดไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และเดินไปตามที่คิดว่าควรจะเป็น จึงเป็นคำถามต่อส.ส.ทั้ง 5 คน จะตอบประชาชนว่าอย่างไรมากกว่า

ให้กำลังใจ – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจน้อยสุด จากรัฐมนตรี 11 คนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รับมอบดอกไม้จากตัวแทนภาคอีสานพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาให้ กำลังใจให้อยู่คู่กับประชาธิปัตย์และชาวอีสานตลอดไป ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.

ปชป.อีสานยกทีมให้กำลังใจอู๊ดด้า
เวลา 14.30 น. ที่ทำการปชป. ตัวแทนภาคอีสานพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วยหลายจังหวัด เช่น จ.อุดรฯ หนองบัวลำภู สกลนคร ชัยภูมิ เดินทางเข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค

นายชูศักดิ์ กุลธวัชวงศ์ ตัวแทนปชป. เขต 6 อุดรฯ กล่าวว่า พวกเราคือตัวแทนจากภาคอีสานเดินทางมาให้กำลังใจหัวหน้าพรรค ให้สู้ๆ อยู่คู่กับปชป.และชาวอีสานตลอดไป ทั้งนี้ชาวอีสานเชื่อมั่นและวางใจพรรคภายใต้ในการนำของนายจุรินทร์ เท่าที่ลงไปในพื้นที่ชาวบ้านชอบนโยบายประกันรายได้ของพรรคมาก เพราะทำให้ราคาสินค้าเกษตรหลายตัวดีมาก ทั้ง ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อีกทั้งความเป็นอยู่ของเกษตรกรก็ดีขึ้น ที่สำคัญได้ฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ชอบที่หัวหน้าพรรคอภิปรายชี้แจงได้ชัดเจนมาก ทั้งเรื่อง อคส. ราคาพืชผลการเกษตร ปุ๋ย การส่งออก

ด้านนายจุรินทร์กล่าวขอบคุณคณะตัวแทนและว่า ยังได้กำลังใจจากสมาชิกพรรคมาสมทบด้วยแล้วก็ยิ่งมีกำลังใจในการที่จะเดินหน้าทำงานเต่อไป

อนุครุภัณฑ์หั่นงบเอฟ-35
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พท. ในฐานะรองประธานอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ ในกมธ.วิสามัญพิจารณางบประมาณ 66 ให้สัมภาษณ์ว่าการประชุมอนุฯ มีการลงรายละเอียดงบประมาณ 3 เหล่าทัพ ทั้ง กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยพิจารณางบการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ ที่ขอจัดซื้อเครื่องบินรบทางยุทธศาสตร์รุ่นใหม่ล่าสุด F-35A ที่ประชุมมีมติตัดงบในการจัดซื้อเครื่องบินรบ F-35A จำนวน 2 ลำ มูลค่า 7,400 ล้านบาท ออกจากรายการงบปี66

รับรอง‘เดชทวี’ส.ส.ลำปาง
วันเดียวกัน สำนักงานกกต. เสนอรายงานผลการเลือกตั้งและผลการตรวจสอบเบื้องต้นการจัดการเลือกตั้งส.ส.ลำปาง เขต 4 เมื่อ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา ที่ประชุมเห็นควรประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่ง นายเดชทวี ศรีวิชัย ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเสรีรวมไทย เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง การประกาศผลดังกล่าวไม่เป็นการตัดหน้าที่และอำนาจ ของกกต.ที่จะดำเนินการสืบสวน ไต่สวน หรือวินิจฉัย กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำการทุจริตในการเลือกตั้ง หรือการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ว่าจะได้ประกาศผลการเลือกตั้งแล้วหรือไม่ก็ตาม

โดยให้มารับหนังสือรับรอง นับแต่ วันที่ 26 ก.ค. เป็นต้นไป ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ที่สำนักงาน กกต.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน