ทำบุญอุทิศ15ศพ ขอบวชให้คนตาย

ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ 15 ผู้เสียชีวิตเหยื่อผับมรณะ‘เสี่ยบี’กับเมียนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปทำพิธีบริเวณสถานที่เกิดเหตุสลด ก่อนเดินสายไปร่วมงานศพ จ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นรายละ 5 หมื่น ญาติคนตายมีทั้งพอใจและไม่พอใจ ยืนยันจะเยียวยาให้เต็มที่และทั่วถึงมากที่สุด ประสานสภาทนายเป็นคนกลางเจรจา เจ้าของผับขอโทษอีกครั้ง หลังจบเรื่องจะบวชให้คนตาย

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่สถานที่เกิดเหตุไฟไหม้สถานบริการบันเทิงเมาน์เทน บี ริมถนนสุขุมวิท อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยบี เจ้าของผับ พร้อมด้วย น.ส.อนงค์นารถ ปั้นประสงค์ ภรรยา น.ส.จริยา กลิ่นสุคนธ์ พี่สาว นำกลุ่มพนักงานผับร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลผู้เสียชีวิต 15 ศพ โดยนิมนต์พระครูเกษมกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต และพระสงฆ์รวม 9 รูป มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ รับถวายภัตตาหารเพล และสังฆทาน มีนายพิเชษฐ์ ธรรมโหร ปลัดอำเภอสัตหีบ นายต่อศักดิ์ ตระกูลธงชัย รองนายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีด้วย

ทำบุญผับ – นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือเสี่ยบี เจ้าของผับเมาน์เทน บี จ.ชลบุรี นิมนต์พระ 9 รูปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต 15 ราย ที่ลานด้านหน้าผับ ถนนสายสุขุมวิท บางนา-ตราด ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อ 9 ส.ค.

จ.ต.ธีรชัย เจนกิจทวียิ่ง หนึ่งในผู้มาเที่ยวผับและหนีออกมาได้ทัน กล่าวว่ามาเที่ยว เป็นประจำ วันเกิดเหตุวิ่งหนีออกมาได้ทัน มีผู้ชายวิ่งตามมา ถูกไฟคลอกทั้งตัว สาดน้ำช่วยเหลือ เหตุการณ์ชุลมุนมาก จึงไม่ได้อยู่ช่วยต่อ ทราบต่อมาว่าชายคนดังกล่าวเสียชีวิตที่ร.พ. ตอนกลับบ้านรู้สึกเหมือนมีใครตามมา นอนไม่หลับ จึงไปทำบุญ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม วันนี้จึงกลับมาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ

“จากประสบการณ์เที่ยวมาหลายที่ รู้สึกว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ไม่ค่อยปลอดภัย เข้าไปรู้สึกว่ามันอับ แคบ และมืดมาก ไม่เคยรู้ว่ามีทางหนีไฟ ผมมีเพื่อนเคยทำงานอยู่ที่นี่ ก็บอกว่าไม่รู้ว่ามีทางหนีไฟด้วย และเชื่อว่าต่อให้ประตูไม่ล็อก คนก็ต้องตายเป็นจำนวนมาก เพราะนักเที่ยวทุกคนไม่รู้ทางหนีไฟว่าจะต้องไปทางไหน ขนาดพนักงานยังไม่รู้เลย” จ.ต.ธีรชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จพิธีสงฆ์แล้ว นายพงศ์ศิริ หรือเสี่ยบี และภรรยารีบขึ้น รถตู้เดินทางกลับทันที บอกว่าจะไปเยี่ยม ผู้บาดเจ็บที่ร.พ. โดยภรรยาเสี่ยบีกล่าวสั้นๆ ว่า ขอโทษ ส่วนเสี่ยบี่ไม่พูดอะไร เพียงแต่ยกมือไหว้ขอโทษ

ส่วนนายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความ กล่าวว่าหลังเสี่ยบีได้ประกันตัวเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ก็เดินทางไปพบญาติผู้เสียชีวิต และ ร่วมพิธีศพ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 50,000 บาท ญาติบางส่วนพอใจ บางส่วนก็ไม่พอใจ แต่เสี่ยบีไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงหารือร่วมกันว่าจะทำอย่างไรที่จะเยียวยาให้เต็มที่ที่สุด และทั่วถึงให้มากที่สุด เพราะมีผู้ที่ต้องได้รับการเยียวยาเป็นจำนวนมาก โดยถ้ายังติดใจ ก็ให้ไปปรึกษาสภาทนายความ ซึ่งทางร้านประสานงานไว้แล้ว เพื่อให้สภาทนายความมาเจรจาร่วม ทำข้อตกลงและความเข้าใจระหว่างกัน เพราะถ้าช่วยเหลือรายแรกๆ จนเงิน ที่เตรียมไว้หมด ก็อาจไม่ถึงรายท้ายๆ ก็เป็นได้

“ทีมงานติดต่อไปพบญาติผู้เสียชีวิต และเจรจาเรื่องเงินเยียวยาเกือบทั้งหมดแล้ว ยังเหลือ 1 ครอบครัวที่ยังไม่ได้พูดคุย ซึ่งก็จะเดินทางไปพบ ยืนยันว่าจะจัดการเรื่องเงินชดเชยเยียวยาให้เหมาะสม เพราะเข้าใจความรู้สึกผู้สูญเสียคนในครอบครัว และต้องมีคนกลางมาช่วยเจรจา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย” ทนายความเสี่ยบีกล่าว

ขณะเดียวกัน นายวินัย วาลีชล อายุ 54 ปี ลุงของน.ส.ณัฐธิดา บวงธิมา อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตในเหตุไฟไหม้ผับ พร้อมด้วยญาติ และนายมงคล แย้มวงษ์ อายุ 29 ปี แฟนหนุ่ม นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณให้กลับไปฟังสวดที่วัดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

นายมงคล แฟนน.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่าตนและแฟนสาวมาเที่ยวที่นี่ 2-3 ครั้งแล้ว ก่อนเกิดเหตุแยกกันไปเข้าห้องน้ำชายและหญิง ได้ยินเสียงระเบิดหน้าเวที วิ่งออกมาดูพบกลุ่มควันไฟ ไม่รู้ว่าแฟนสาวออกไปจากผับหรือยัง จึงรีบวิ่งออกมาดูหน้าผับแต่ไม่พบ ต่อมาพบเสียชีวิตคากองเพลิงด้านนอกห้องน้ำ คาดว่าแฟนกำลังรีบวิ่งออกมาแต่ไม่ทัน

ต่อมานายพงศ์ศิริ หรือเสี่ยบี นางอนงค์ นารถ ภรรยา และนายอนุชา ทนายความ เดินทางกลับมาที่เมาน์เทน บี และนาย พงศ์ศิริให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังเกิดเหตุ โดยกล่าวว่าขอโทษญาติของผู้เสียชีวิต และผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวมถึงครอบครัวผู้บาดเจ็บทุกราย ตอนนี้ยังเสียใจ หลังได้รับการประกันตัวก็เดินทางไปจ่ายเงินเยียวยา ให้ครอบครัวผู้สูญเสีย

ส่วนนางอนงค์นารถกล่าวว่า ตนและสามีมีเงินจากการค้าขายทั้งเขียงหมู ร้านก๋วยเตี๋ยว จนมีเงินทุนก้อนใหญ่ลงทุนเปิดร้านหมูกระทะ และร้านอาหาร หลังธุรกิจเริ่มไปได้สวยก็คิดขยายธุรกิจ จึงขอเช่าที่ต่อจากเจ้าของโซนหลังร้านอาหาร ส่วนประเด็นประตูหนีไฟหลังร้านถูกล็อก นั้นไม่ทราบ เพราะความเรียบร้อยภายนอกมีการ์ดดูแล แต่การล็อกประตูจะล็อกเพื่อป้องกันคนขโมยของเวลาร้านปิด ส่วนประตูด้านข้างเข้าออกได้ปกติ พนักงานใช้เข้าออกและใช้ลงของ ยืนยันคืนเกิดเหตุประตูด้านข้างไม่ได้ล็อก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนางอนงค์ นารถพูดด้วยน้ำเสียงสั่นและน้ำตาคลอว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ใหญ่ที่สุดในชีวิต ตั้งแต่เกิดเหตุรับสภาพนี้ไม่ได้ เครียดจนถึงขั้นชวนกันฆ่าตัวตาย พูดตรงๆ ว่าท้อไม่อยากอยู่ ถ้าตายได้แล้วจบวันนั้นมันน่าจะดีกว่านี้ สามีมาพูดว่าเรารับไม่ได้ เราไปกันเถอะ คำว่าไปไม่ได้หมายถึงหนี แต่ชวนฆ่าตัวตาย เพราะมันหนักสำหรับคนอายุ 27 และ 30 ปี

ต่อข้อถามว่ามีใครเป็นที่ปรึกษา หรืออยู่เบื้องหลังธุรกิจหรือไม่ ภรรยาเสี่ยบีกล่าวว่าไม่มีใครเป็นที่ปรึกษา สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกัน ส่วนเรื่องใบประกอบธุรกิจขอเปิดเป็นร้านอาหาร มีดนตรี และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตนไม่ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายให้ละเอียดก่อนที่จะเปิด และที่บอกว่าเปิดเกินเวลา ยืนยันปิดตี 1 ผับเมาน์เทน บี เปิดได้ 2 เดือน ไม่เคยถูกร้องเรียนเรื่อง เสียงดัง ถูกร้องเรียนเรื่องเสียงดังเฉพาะร้านอาหารด้านหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่เสี่ยบีนั่งให้สัมภาษณ์มีสีหน้าเคร่งเครียด บีบมือตัวเองตลอดขณะตอบคำถาม และยกมือไหว้ขอโทษอีกครั้ง ทั้งยังระบุว่าหลังจบเรื่องและเคลียร์ ทุกอย่างจบ ตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้เสียชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน