นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี (SCG) กล่าวว่าผลการดำเนินงานปี 2563 เอสซีจีมีกำไร 34,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้นดีกว่าปีก่อน 7% จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีรายได้จากการขาย 399,939 ล้านบาท ลดลง 9% จากราคาและปริมาณขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลงก็ตาม
ทั้งนี้ เนื่องจากจากการปรับตัวและมีมาตรการรับมือกับโควิด-19 เชิงรุกอย่างเคร่งครัด โดยใช้ดิจิตอลเทคโนโลยีและนวัตกรรมในสินค้า-บริการครบวงจร ช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง ซึ่งทั้งปีใช้งบลงทุน 58,000 ล้านบาท
ส่วนในปี 2564 ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโตจากปีที่ผ่าน 5-10% จากแนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่น่าจะพลิกกลับมาฟื้นตัว จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ทั้งที่อยู่อาศัยและโครงการคอมเมอร์เชียลของภาคเอกชนที่จะกลับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น ตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 65,000-75,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธุรกิจเคมิคอลส์และธุรกิจแพคเกจจิ้งยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เห็นได้จากปี 2563 ธุรกิจเคมิคอลส์มีกำไร 17,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14% ซึ่งเป็นผลจากส่วนต่างราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจแพคเกจจิ้งมีกำไร 6,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เนื่องจากบริษัทมีลูกค้าอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน