สิ้น‘พระวิสุทธิวงศาจารย์’
อดีตเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

มงคลข่าวสด

พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) เป็นพระเถระผู้ใกล้ชิด สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ และที่ปรึกษามหาเถรสมาคม

เป็นผู้รับสนองธุระและปฏิบัติงาน คณะสงฆ์อย่างมิขาดตกบกพร่อง ขอรับ แบ่งเบาภาระ ช่วยผ่อนงานพระเดชพระคุณมาโดยตลอด

ดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ, กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

มีนามเดิมว่า วิเชียร เรืองขจร เกิดเมื่อ วันที่ 7 พ.ย.2480 ที่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 2 ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บิดา-มารดา ชื่อ นายนาคและนางฟื้น เรืองขจร

ในวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนประชาบาลวัดท่าจัด ต.บางพลับ

เมื่ออายุ 14 ปี เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดดงตาล ต.บางพลับ มีพระครูอุภัยภาดารักษ์ วัดสองพี่น้อง ต.ต้นตาล เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่ที่วัดท่าจัด ต.บางพลับ เป็นเวลา 1 ปี ต่อจากนั้นย้ายไปศึกษาที่วัดสองพี่น้อง 4 ปี หลังจากสอบได้นักธรรมชั้นโท และเปรียญธรรม 3 ประโยคแล้ว จึงย้ายเข้ามาอยู่วัดปากน้ำ

พ.ศ.2499 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดปากน้ำภาษีเจริญ

จนเมื่ออายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2500 ที่พัทธสีมาวัดปากน้ำภาษีเจริญ มีพระธีรสารมุนี วัดอัปสรสวรรค์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูปัญญาภิรัต วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระพิพัฒน์ธรรมคณี วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจังและด้วยความขยันหมั่นเพียร จนสำเร็จการศึกษา พ.ศ.2516 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดปากน้ำภาษีเจริญ

ต่อมา ได้รับเป็นธุระด้านการศึกษาของสำนักเรียนวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดปากน้ำ

สร้างความเจริญและเข้มแข็งในการศึกษาพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและบาลี จนเป็นที่ยอมรับ

ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ.2503 เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง และเป็นกรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวง

พ.ศ.2504 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดปากน้ำ พ.ศ.2535 เป็นครูสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์ เปรียญธรรม 7-8-9 ประโยค

พ.ศ.2538 เป็นรองแม่กองบาลีสนามหลวง

งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2533 เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 4 พ.ศ.2535 เป็นหัวหน้าสำนักฝึกอบรมพระธรรมทูต

งานพิเศษ พ.ศ.2548 เป็นกรรมการพิจารณาตรวจต้นฉบับและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลีและภาษาไทย เทิดพระเกียรติงานฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2513 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ พ.ศ.2521 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ พ.ศ.2526 เป็นพระอุปัชฌาย์ ประเภทวิสามัญ พ.ศ.2534 เป็นรองเจ้าคณะภาค 7 พ.ศ.2538 เป็นเจ้าคณะภาค 7 พ.ศ.2559 เป็นเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ

พ.ศ.2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2516 ได้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระเมธีวราภรณ์ พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติกวี พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสุธี

พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมธีรราชมหามุนี

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ พระวิสุทธิวงศาจารย์

เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของวัดปากน้ำที่เอาใจใส่ในกิจการงานของวัดด้วยดีตลอดมา รวมถึงภารกิจงานคณะสงฆ์ในภาคเหนือทั้งหมด

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เริ่มมีอาการอาพาธ เดือน พ.ย.2561 ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ พบเชื้อมะเร็งที่ปอด ต่อมาย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนสิ้นปี ได้กลับมาพำนักที่วัดปากน้ำ รอผลการตรวจอย่างชัดเจน

ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอีกหลายครั้ง กระทั่งอาการเริ่มวิกฤตมีเลือดออกในท้อง อาการไม่ดีขึ้น จนถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2564 เวลา 12.52 น. ด้วยโรคมะเร็งปอดระยะลุกลาม

สิริอายุ 84 ปี พรรษา 64

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน