คลอดมาตรการแก้เอ็นพีแอลครัวเรือน3แสนราย

ธนาคารแห่งประเทศไทย ปูพรมแก้หนี้ครัวเรือน เล็งออกมาตรการใหม่ เจาะกลุ่มแม่ค้า และผู้มีรายได้น้อย แห่สมัครเข้าโครงการแล้ว 8 หมื่นบัญชี มูลหนี้ 6,000 ล้านบาท

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน โดยจะมีการออกมาตรการเพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้า คนรายได้น้อยถึงปานกลาง เช่น การเสริมรายได้ในช่วงผลกระทบของโควิด-19 ระหว่างนี้ต้องเร่งการปรับโครงสร้างหนี้ และการรวมหนี้ เป็นต้น

การแก้หนี้สินครัวเรือนมี 5 แนวทางคือ 1.ให้ความรู้ความเข้าใจด้านการเงินกับประชาชน เริ่มต้นจากกลุ่มนักเรียนนักศึกษา 2.สถาบันการเงินต้องมีความรับผิดชอบในการปล่อยสินเชื่อ และต้องดูความสามารถชำระหนี้ และเหลือเงินเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่ แม้หากชำระหนี้ได้แต่เหลือเงินใช้น้อย ก็จะไม่ทำให้การแก้หนี้เกิดความยั่งยืน โดยไม่ได้กำหนดว่าหนี้ต่อรายได้ หรือดีเอสอาร์จะต้องอยู่ที่เท่าไร แต่ธปท.ได้ให้คำนิยามเดียวกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนด

3.ธปท.ต้องกำหนดนโยบายแก่สถาบันการเงินให้ช่วยเหลือลูกหนี้ 4.เมื่อเกิดปัญหาและต้องแก้ไข เช่น ปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อหมดมาตรการพักหนี้ต้องกลับมาชำระหนี้เหมือนเดิม และจะมีกระบวนการไกล่เกลี่ย เจรจา ลูกหนี้ก่อนที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และ 5.การรวมศูนย์ข้อมูลลูกหนี้ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะมีหน่วยงานต่างๆ เช่น เครดิตบูโรแล้วก็ตาม และทุกวันนี้ข้อมูลลูกหนี้ยังกระจาย และล่าช้าในเรื่องการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งหากมีข้อมูลลูกหนี้ที่รวมศูนย์จะทำให้สถาบันการเงินเห็นข้อมูลได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อการปล่อยกู้แก่ลูกหนี้

“หนี้เสียที่ผ่านมาไม่ได้เพิ่มมากขึ้น และหลังจากนี้จะทยอยปรับเพิ่ม มั่นใจสถาบันการเงินสามารถจัดการได้ ส่วนการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือเจวีเอเอ็มซี เริ่มทยอยเข้ามาหวังในปีนี้จะเกิดขึ้นได้”

นางสุวัธนา รัศมีโรจน์วงศ์ ผู้บริหารโครงการคลินิกแก้หนี้ กล่าวว่า หลังจากปรับเงื่อนไขเปิดรับสมัครคนเข้าโครงการต้องเป็นหนี้เอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 เม.ย.2565 จากเดิมก่อน 1 ต.ค.2564 ปรากฏว่ามีผู้สมัครเข้ามา 2-3 เท่าเพียงแค่ 1 สัปดาห์ และยังอยู่ระหว่างคุยกับธปท.ขยายความช่วยเหลือลูกหนี้เอ็นพีแอล ทั้งรูปแบบการปรับโครงสร้างอาจหลากหลายมากขึ้น การผ่อนระยะยาวที่ยังต้องศึกษา ปัจจุบันมีผู้มาสมัครโครงการคลินิกแก้หนี้ 2-3 แสนบัญชี ได้เข้าร่วมแล้ว 8 หมื่นบัญชี คิดเป็นมูลหนี้กว่า 6,000 ล้านบาท และยังมีเอ็นพีแอลไม่เข้าโครงการ อีกมาก เพราะเป็นคนที่จ่ายขั้นต่ำและเอ็นพีแอลหลัง 1 ต.ค.2564

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน