น่าจะชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คงกำลังค่อยๆ ถอยออกจากการเมืองไทย เมื่อประกาศจะลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อ ให้รายชื่ออันดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาแทน แถมยังประกาศปิดบ้านป่ารอยต่อฯ ในกรมทหารราบที่ 1 อีกด้วย
โดยพล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว ต่อไปนี้จะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างเดียว ดูแลพรรค แต่จะไม่เล่นการเมืองอีก
เป็นคำบอกกล่าวของพล.อ.ประวิตรที่แน่ชัด ต่อเนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อำลาทำเนียบรัฐบาล กลับบ้านไปพักผ่อน ตีกอล์ฟ ท่องเที่ยว
ขณะที่อีก 1 ป. บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็อำลาการเมืองไปพร้อมกับพล.อ.ประยุทธ์ด้วย
ถือว่าเป็นการปิดฉากยุค 3 ป. อย่างแท้จริง
หมดสิ้นอำนาจและลาจากการเมือง!
ก่อนหน้านี้ หลังการโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คนใหม่เสร็จสิ้น และพรรคเพื่อไทยเร่งจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่
มีข่าวสะพัดว่าพล.อ.ประวิตร อยู่ในอารมณ์ผิดหวัง และเก็บตัวเงียบหายไป
แม้แต่การประชุมครม.นัดอำลาของรัฐบาลประยุทธ์ ก็ไม่พบเห็นพล.อ.ประวิตรไปร่วมด้วย
ท่ามกลางกระแสข่าว บิ๊กป้อมขัดเคืองใจกับบิ๊กตู่ จากกรณีการโหวตนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาล เพราะเดินหมากขัดแย้งกัน
จนสุดท้ายพล.อ.ประวิตรก็ออกมาแสดงท่าทีวางมือการเมือง ลาออกจากสส.ปาร์ตี้ลิสต์ และปิดบ้านป่ารอยต่อฯ
อันที่จริงคำว่าบ้านป่ารอยต่อฯ นั้น หมายถึงที่ตั้งของมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งพล.อ.ประวิตรเป็นประธานมูลนิธิ
แต่ที่ผ่านมา เรียกกันว่าบ้านป่ารอยต่อฯ เพราะเป็นสถานที่พบปะเจรจาทางการเมือง
บ้านป่ารอยต่อฯ เป็นสัญลักษณ์ความมีอำนาจบารมีทางการเมืองของพล.อ.ประวิตรประการหนึ่ง!
ดังนั้นคำกล่าวของบิ๊กป้อมเองที่ว่า จะเลิกเล่นการเมือง และบ้านป่ารอยต่อฯ ปิดแล้ว
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะไม่มีการพบปะเจรจาอะไรทางการเมืองที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว
ต่อไปนี้จะมีแต่ที่ตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ ซึ่งก็คงทำแต่มูลนิธิจริงๆ เท่านั้น
เท่ากับว่า ความผิดหวังในจังหวะการเมืองช่วงสุดท้ายทั้งยังเกิดความขัดเคืองใจในระหว่าง 3 ป.
แต่สุดท้ายบิ๊กป้อมก็เลือกทางวางมือการเมือง ไม่ต่างจากป.ประยุทธ์และป.ป๊อก
กระนั้นก็ตาม การสิ้นสุดอำนาจและบทบาทของ 3 ป.ยังจะมีบทบันทึกทางการเมืองที่ลบเลือนไม่ได้
ว่าจุดเริ่มต้นเข้าสู่อำนาจคือก่อรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 และอยู่ในอำนาจ 9 ปี ด้วยกติการัฐธรรมนูญอันบิดเบี้ยว!
วงค์ ตาวัน