เคยสร้างประวัติศาสตร์ครองใจผู้ชมเมื่อ 20 ปีก่อน กวาดรายได้สูงถึง 137 ล้านบาท สำหรับภาพยนตร์ไทย “แฟนฉัน” ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่ม 365 ฟิล์ม ประกอบด้วย 6 ผู้กำกับฯ ‘เอส’ คมกฤษ ตรีวิมล, ‘ย้ง’ ทรงยศ สุขมากอนันต์, ‘ต้น’ นิธิวัฒน์ ธราธร, ‘เดียว’ วิชชพัชร์ โกจิ๋ว, ‘บอล’ วิทยา ทองอยู่ยง และ ‘ปิ๊ง’ อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม

มาวันนี้ “แฟนฉัน” กลับมาฉายอีกครั้งในรูปแบบ Remastered คมชัดระดับ 4K เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี เพื่อพาทุกคนร่วมย้อนรำลึก “รักแรก” ของ ‘เจี๊ยบ’ และ ‘น้อยหน่า’ ที่นำแสดงโดย ‘แน็ก’ ชาลี ไตรรัตน์ และ ‘โฟกัส จีระกุล’ อีกครั้ง

โดย 5 ผู้กำกับฯ เอส, ต้น, เดียว, บอล และ ปิ๊ง ขาดก็แต่ย้งที่ติดภารกิจมาไม่ได้ มาร่วมพูดคุยถึงการนำ “แฟนฉัน” กลับมาฉาย

ทำไมนำหนัง “แฟนฉัน” กลับมาฉายในรูปแบบ Remastered อีกครั้ง?

เดียว – “ปีนี้ในวาระแฟนฉันครบ 20 ปี พี่ๆ ผู้บริหารจีดีเอชก็ถามว่าอยากทำอะไรมั้ย อย่างแรก ผมคิดเรื่องรีมาสเตอร์เพราะตอนนั้นเรา ถ่ายด้วยฟิล์มและเก็บหนังที่เป็นตัวก๊อบปี้ไว้ที่หอภาพยนตร์ อันนั้นคือมาสเตอร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เรามี ส่วนสิ่งที่อยู่บนสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มต่างๆ คือภาพที่เป็นกระบวนการเทเลซีน”

“พอย้อนกลับมาดูตอนนี้ ภาพที่เราเห็นบนสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม คุณภาพไม่ตรงกับสิ่งที่เห็นในโรงเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ก็ตั้งคำถามว่าถ้าจะเอาหนังกลับมาฉายในโรงอีกสักรอบทำได้มั้ย ปรากฏโรงภาพยนตร์ทุกวันนี้เลิกฉายฟิล์มหมดแล้ว แต่ฉายด้วยระบบไฟล์ บางโรงฉายคุณภาพระดับ 4k ฉะนั้นเราต้องเอาฟิล์มไปสแกน ส่งฟิล์มไปลบฝุ่นที่ประเทศอินเดียทีละเฟรม จากนั้นเอาฟิล์มทั้งหมดสแกนกลับมาเป็นไฟล์ดิจิตอลในความละเอียดที่ดีที่สุด แล้วมาแก้สี ให้ใกล้เคียงกับ 20 ปีที่แล้วที่ดูเป็นฟิล์ม”








Advertisement

“ซึ่งพี่อู่ (ไตรเทพ) กันตนาซาวด์ ปกติไม่ลงมามิกซ์หนังแล้ว เพราะเขาเป็นเจ้าของ แล้วทำงานให้ต่างประเทศ ให้หว่องกาไว แต่เที่ยวนี้พี่อู่ลงมามิกซ์ให้เอง ด้วยการทำเทคโนโลยีที่เหมือนการรีมาสเตอร์หนัง In the Mood for Love ของหว่องกาไว ซึ่งในเมืองไทย แฟนฉันจะเป็นเรื่องแรกที่ได้รีมาสเตอร์ด้วยวิธีการแบบนี้”

คนที่ทันดูในโรงในเวอร์ชั่นที่เป็นฟิล์ม วันนี้ถ้ากลับมาดูอีกครั้งในเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ ความรู้สึกจะเปลี่ยนไปไหม?

ปิ๊ง – “การเป็นคนดูคงรู้สึกต่าง เพราะเราอายุเยอะขึ้นกันหมด ความรู้สึกที่เข้าไปดูไม่เหมือนเดิมแน่”

ต้น – “สิ่งที่ปิ๊งพูดเป็นมุมความรู้สึกคน หมายถึงเวลาดูเรื่องราวบางเรื่องในช่วงชีวิตบางช่วงเราจะรู้สึกกับมันแบบหนึ่ง พอโตขึ้นแล้วมาดูก็จะเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง”

“ก่อนหน้านี้เรายังคุยกันอยู่เลย เดียวก็พูดขึ้นว่าวันที่เราเป็นเด็กวันที่ยังไม่มีลูก เราทำด้วยความรู้สึกหนึ่ง แต่พอเราเป็นพ่อเป็นแม่กลับมาดูหนังเรื่องเดิมของตัวเองที่ทำ ความรู้สึกกลายเป็นมองในมุมพ่อแม่ที่ต้องดูแลลูก ไม่ใช่มุมเด็กแล้ว สมัยก่อนเราจะรู้สึกว่าเราแทนค่าตัวเองเป็นเจี๊ยบ วันนี้เดียวอาจจะแทนค่าตัวเองเป็น พี่ต้น (วงศกร) ไปแล้ว”

เดียว – “ผมรู้สึกเลยว่าพี่กบ (อนุสรา) ที่เล่นเป็นแม่เจี๊ยบโคตรดุเลย พอมาดูในวันนี้แล้วรู้สึกว่าผมจะไม่ปล่อยให้เมียผมตีลูกแบบนั้นแน่ๆ (หัวเราะ) หรือมุมแบบว่า อีนมใหญ่เมียมึง อ้วนดำๆ อะไรพวกนี้ก็ยังคุยกันว่าการทำโปรโมตเอาซีนนี้ตัดเข้าไปในหนังตัวอย่าง จะโดนชาวเน็ตยุคนี้หาว่าบูลลี่มั้ย ขำในวันนั้น วันนี้ไม่ขำแล้วมั้ย”

ต้น – “ตอนทำหนังตอนนั้นมองในมุมคนทำมากๆ แต่วันนี้พอได้มาดูอีกครั้งจะรู้สึกเป็นคนดูมากๆ เหมือนลืมวันที่ผมทำอะไรไปบ้างแล้ว แต่ยังจำความรู้สึกของการได้เห็นเรื่องราวของตัวละครมากกว่า”

เอส – “อีกอย่าง พอมันฉายในจอใหญ่ ความรู้สึกมันเต็มอารมณ์เหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว”

บอล – “ผมคิดว่าคนที่จะมาดูในครั้งนี้ 95% คือคนที่เคยดูหนังแฟนฉันมาแล้ว อาจจะมีแค่บางคนที่ไม่เคยดูในโรง ผมเลยเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องของการอยากรู้เนื้อเรื่องแล้ว มาดูเพื่อการเฉลิมฉลอง แต่ผมอยากรู้ฟีดแบ็ก 5% ของคนที่ไม่เคยดูแฟนฉันเลยว่าถ้าเขาได้มาดูในวันนี้จะเป็นยังไง”

หนังเด็กคือหนังปราบเซียน แต่แฟนฉันทำลายกฎนั้นโดยสิ้นเชิง ทำไมตอนนั้นถึง กล้าทำ?

ต้น – “ไม่ใช่ความกล้า แต่เป็นความไม่รู้ เหมือนทำเรื่องนี้แล้วชอบสนุกก็ทำ แต่ความไม่รู้นี่แหละเป็นเมจิกอย่างหนึ่ง เพราะไม่รู้ก็เลยไม่กลัวที่จะทำ ไม่กลัวที่จะคิด ก็เลยกล้าทำในสิ่งที่คนบอกว่าเป็นอาถรรพ์”

ปิ๊ง – “ส่วนตัวผมมองว่าการกำกับฯ 6 คนน่ากังวลกว่าการทำหนังเด็ก”

ต้น – “เวลามีคนถามว่าจะทำกันยังไง 6 คน เราก็บอกไม่รู้ เป็นเพื่อนกันคุยกันว่าจะทำด้วยกัน เรารู้แค่ว่าถ้าไม่ชอบมีสิทธิ์เถียงกัน แล้วก็ตกลงกัน มันก็เลยเป็นโมเดลลูกทุ่งๆ แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แล้วไม่มีสูตรสำเร็จอะไรทั้งนั้น”

เอส – “จริงๆ เราไม่ได้เริ่มต้นจากจะทำหนังเด็ก พอดีตอนนั้นพี่เก้ง (จิระ) ชอบเรื่องที่บอลเขียน แล้วปิ๊งไปทำหนังสั้น เผอิญเป็นเรื่องในวัยพวกเราพอดีด้วยที่เป็นตอนเด็กๆ ก็เอาประสบการณ์พวกเรามาใส่ในหนัง เลยไม่ได้คิดหรอกว่าการทำหนังเด็กมันยากหรือไม่ยาก”

ต้น – “จุดเริ่มต้นมันเหมือนว่าเราทำเรื่องเพื่อนเรื่องมิตรภาพแต่หน้าตามันเป็นเด็ก”

บอล – “ไม่ใช่หนังเด็ก แต่เป็นหนังของคนวัย 30 ที่นึกถึงช่วงเวลาเด็ก ที่เห็นเด็กทั้งหลายในเรื่องมันคือมุมมองของผู้ใหญ่ เป็นหนังผู้ใหญ่ที่เล่นโดยเด็ก”

มีคนถามเยอะไหมว่าทำไมหนังแฟนฉันถึงไม่มีภาค 2?

เดียว – “หนังเรื่องนี้เป็นงานกลุ่ม โดยมารยาทและความเกรงใจจะมีอยู่ เอาแค่ว่าจะหยิบอะไรจากแฟนฉันมาใช้งานยังเกรงใจเพื่อนเลย เพราะเรารู้สึกว่ามันคืองานที่ออกมาจากความคิดของทุกคน จู่ๆ จะเอาสิ่งนั้นมาทำเองคนเดียวจะรู้สึกทั้งเกรงใจและกลัว”

บอล – “พวกเรารับรู้ฟีดแบ็กว่าคนอยากเห็นน้อยหน่าตอนโต ทำไมไม่มีภาค2 เคยนั่งคุยนั่งคิดกัน แล้วรู้สึกว่ามันติดล็อกบางอย่าง สิ่งที่เล่าในแฟนฉันเราเล่าหมดทุกอย่าง แล้วจบแบบคอมพลีต เอาง่ายๆ เจี๊ยบกับน้อยหน่าหลังจากวันที่วิ่งตามรถบรรทุกย้ายบ้าน เขาก็ไม่เจอกันอีกเลย จนน้อยหน่าแต่งงาน เพราะฉะนั้นมันไม่มีพื้นที่สำหรับเล่าอะไรในภาค 2 แล้ว”

ปิ๊ง – “มันกลับมาเจอกันไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เจอกันเลย เราต้องเลือกว่าจะดูฝั่งเจี๊ยบหรือฝั่งน้อยหน่า”

แฟนฉันไม่ได้แจ้งเกิดแค่ผู้กำกับฯ ทั้ง 6 คน แต่แจ้งเกิดนักแสดงอย่าง แน็ก โฟกัส และแจ๊ค ที่ตอนนี้เติบโตมาเป็นตัวตึง?

ปิ๊ง – “ไม่คิดว่าจะมาไกลกันขนาดนี้”

เอส – “พวกเราภูมิใจมากที่ทำให้เด็ก 3 คนนี้เติบโตมามีความเป็นตัวของตัวเองได้มากขนาดนี้ อย่างแน็กตอนที่ถ่ายๆ อยู่ก็จะถามว่าเสร็จกี่โมงจะไปตกปลา ผมรู้ว่าเขาชอบสัตว์แต่ไม่คิดว่าจะชอบขนาดนี้ ขนาดคุยกับตัวเงินตัวทองรู้เรื่อง อย่างโฟกัสตอนเด็กๆ ชอบกิน ทุกวันนี้ก็ยังคงคาแร็กเตอร์อยู่ แจ๊คตอนเด็กๆ เป็นคนกวน ปัจจุบันก็ยังกวนอยู่ แต่โตขึ้นก็มีมารยาทมากขึ้น”

บอล – “ตอนถ่ายแฟนฉัน เอาจริงๆ เหมือนเราขโมยวัยเด็กของพวกเขามา แทนที่เขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกัน เขาต้องมาโตอยู่ท่ามกลางพี่ๆ ผู้ใหญ่ บางคนเสร็จแฟนฉันก็มีงานต่อเนื่อง แทบไม่มีโลกในการเรียน เราก็แอบลุ้นเสมอ กลัวพวกเขาจะชีวิตพัง แต่ละคนก็อาจจะลุ่มๆ ดอนๆ มีปัญหาชีวิตบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครล้มหายตายจากไปหรือเป็นบ้าไป เราเลยรู้สึกโล่งใจ (หัวเราะ)”

น้องๆ แต่ละคนเปลี่ยนกันไปเยอะไหม?

เอส – “เยอะ ล่าสุดไปกินเหล้าด้วยกันแล้ว เขาโตแล้วไง เรามองเขาเป็นเด็กไม่ได้แล้ว เขามีความคิดมีทัศนคติของตัวเองที่เป็นผู้ใหญ่”

บอล – “บางคนมีลูก หรือบางคนนอกเหนือจากแน็ก โฟกัส แจ๊ค ก็เปลี่ยนในแง่ที่เราคิดไม่ถึง อย่างน้องน้ำผึ้งที่ตัวเล็กที่สุดตอนนั้น ปัจจุบันกำลังจะสอบเป็นผู้พิพากษา หรืออย่างน้องโอเล่ที่ในเรื่องตัดผมเพราะเป็นเหา ปัจจุบันทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สิน”

เรียกว่าเติบโตมาอย่างดีได้ไหม?

ปิ๊ง – “สำหรับผมแล้ว แจ๊คถือว่ามาไกลมาก จากเด็กกรรโชกทรัพย์ผมในตอนนั้น ตอนนี้แจ๊ครวยมาก กลายเป็นเซียนพระ แฟนสวยอีก”

บอล – “ส่วนแน็กก็เห็นความเติบโตความมีตัวตน ภาพลักษณ์ที่คนเห็นอาจจะรู้สึกเป็นคนประหลาด แต่พอเวลาเขาไปให้สัมภาษณ์ เราจะได้เห็นฟีดแบ็กที่คนบอกว่าชอบทัศนคติ ตรงนี้เราอดภูมิใจไม่ได้”

เอส – “สำหรับโฟกัสไม่คิดว่าโตมาแล้วจะฟาดขนาดนี้ (ยิ้ม)”

แฟนฉัน Remastered รอบนี้ คิดว่าทะลุร้อยล้านอีกไหม?

เดียว – “ตอนแรกกลัว ลงทุนบูรณะฟิล์มไปใช้เงินหลายล้านจะได้เงินคืนมั้ย ถ้าฉายแล้วไม่มีคนดูจะอายเขามั้ย มีความลังเล แต่พอเริ่มทำไปเรื่อยๆ เริ่มมีฟีดแบ็กดี ก็คาดหวังเล็กๆ ว่าอย่างน้อยน่าจะได้ทุนคืนมาเพื่อให้การทำ รีมาสเตอร์ครั้งนี้ไม่ขาดทุน แต่สิ่งที่อยากให้เกิดมากกว่านั้น คืออยากให้เป็นต้นแบบของการรีมาสเตอร์หนังไทยเรื่องอื่นๆ ยังมีหนังไทยคลาสสิคอีกหลายเรื่องที่ร่วมยุคสมัย กับเรา และคนรุ่นหลังควรจะได้เห็น”

ฝากทิ้งท้าย?

เอส – “กระบวนการการทำหนังต้องมีทั้งหนัง คนดู และโรงภาพยนตร์ สำหรับคนที่เคยดูแล้วไปสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ กับสิ่งเก่าๆ ที่เคยดู ส่วนคนที่ยังไม่ได้ดูแต่เคย ได้รับคำบอกเล่า ผมว่าควรไปดูในโรงหนังจะได้ประสบการณ์ที่เต็มมากๆ แล้วผมเองก็สนใจมากเลยว่าเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกับหนังอายุ 20 ปีเรื่องนี้ ฝากไว้ด้วยครับ แฟนฉัน Remastered in 4K 9 ตุลาคมนี้ ทุก โรงภาพยนตร์”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน