คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ประตู เพื่อไทย ปิดตาย “เบบี้ บูมเมอร์” ตัวชิง นายกฯ

เพื่อไทย – มีการคาดหมายถึง “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยว่าหวยจะออกที่ใคร

ในจำนวนนั้นนอกเหนือจากชื่อของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน และชื่อของคนที่เคยติด 1 ใน 3 แคนดิเดตอย่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ขณะเดียวกัน ก็มีชื่อของ “เขยใหญ่” ผู้กำลังรุ่งโรจน์คนหนึ่ง

หากดูจากโพลซึ่ง “มติชน ออนไลน์” ทำขึ้นระหว่าง ชื่อของ “เขยใหญ่” กับชื่อของ นายเศรษฐา ทวีสิน ปรากฏว่าชื่อของ นายเศรษฐา ทวีสิน นำลิ่ว

กระนั้น ความแจ่มชัดจากพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ “การันตี”

ในจำนวน 3 ชื่ออันถือเป็น “แคนดิเดต” ชื่อของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นับวันก็จะถอยห่าง

มิใช่เพราะว่าพรรคเพื่อไทยไม่เชื่อมั่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และมิใช่เพราะว่าเกิดความห่างเหินระหว่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ พรรคเพื่อไทย

หากแต่เป็นจากความมุ่งมั่นของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เอง

ต้องยอมรับว่าในห้วง 2 ปีหลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพ่งความสนใจอยู่ที่ “กลุ่มรักกรุงเทพฯ” อย่างเป็น จิตหนึ่ง ใจเดียว ไม่แปรเปลี่ยน

ความหวังของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงอยู่ที่ “ผู้ว่าฯกทม.” มากกว่า

ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้น้อยมากที่แคนดิเดต จะเป็น “เขยใหญ่” ของตระกูลชินวัตร

บทเรียนหนึ่งซึ่งตระกูล “ชินวัตร” สรุปมาตั้งแต่รุ่นของ นายทักษิณ ชินวัตร เรื่อยมาจนถึง น้องสาว คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นสาหัสสากรรจ์ยิ่ง

เป็นไปได้หรือที่จะต้องให้ “น้องเอม” ต้องเสียสละไปด้วย

เพราะรู้อยู่แล้วว่า ปรปักษ์ทางการเมืองของตระกูล “ชินวัตร” นั้นโหดอย่างยิ่ง เล่นงาน นายทักษิณ ชินวัตร ถือว่าโหดอยู่แล้ว เล่นงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังโหดกว่า

น้ำหนักจึงเทไปยังนักธุรกิจอย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน มากกว่า

หากถือตามบรรทัดฐานที่ โทนี่ วู้ดซัม ตราไว้ในการลั่นดาล “กลุ่ม 3 ป.” ออกไป

ก็จะเห็นได้ว่า ลักษณะต้องห้ามทางการเมืองยุคต่อไป มีแต่เฉพาะคนในยุค “เบบี้ บูมเมอร์” เท่านั้น แต่สำหรับคนรุ่นถัดจากนั้นพร้อมอ้าแขนต้อนรับอย่างเต็มเปี่ยม

กติกาของพรรคเพื่อไทยจึงปิดประตูสำหรับ “เบบี้ บูมเมอร์” เท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน