ไม่ว่าการตอบคำถามในเรื่องแนวโน้มของ “รัฐประหาร” อันมาจาก ปาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จะมีสมุหฐานมาอย่างไร
มาจาก “คำถาม” ตาม “สมัยนิยม”
เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ในฐานะ ผบ.ทบ.เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหลังเข้ารับตำแหน่งสำคัญ
เพราะเมื่อเป็น “ผบ.ทบ.”ก็ต้องปะกับ”คำถาม”นี้
กระนั้น ที่นอกเหนือความคาดหมายก็คือ “ปฏิกิริยา”อันตามมาภายหลังคำตอบเท่ากับเป็นเครื่องตรวจสอบ “อุณหภูมิ”ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญอย่างที่สุดก็คือ เป็นปรอทแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งในทางความคิดและในทางการเมืองยังดำรงอยู่
มีทั้ง “เห็นด้วย” มีทั้ง”ไม่เห็นด้วย”
แทบมิได้เป็นเรื่องแปลกใจที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดาต่อคำตอบอันมาจาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
เพราะ 2 คนนี้เคยเป็น “ผบ.ทบ.”มาก่อน
ทั้งยังเป็น “ตัวละคร”ที่มีบทบาทร่วมกับ “ผบ.ทบ.”ในการก่อ”รัฐประหาร”ขึ้นในทางเป็นจริง
นั่นก็เช่นเดียวกับการเห็นด้วยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
กระนั้น เมื่อฟังความเห็นของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือแม้กระทั่ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากพรรคประชาธิปัตย์ ก็มิได้เออออห่อหมกไปด้วย
ทั้งนี้ แทบไม่ต้องล้างหูน้อมรับฟังจากหลายคนในพรรคเพื่อไทยและหลายคนในนปช.
เพราะล้วนเห็นว่า เป็นการข่มขู่ในทางการทหาร
เนื่องจากเป็นการพูดในห้วงเวลาที่กำลังจะเดินไปสู่โรดแมปของ “การเลือกตั้ง”
ทำให้เสีย”บรรยากาศ”ทางการเมือง
ไม่มีใครตอบได้หรอกว่าภายหลังการเลือกตั้ง”รัฐประหาร”จะเกิดขึ้นหรือไม่
แต่ทุกฝ่ายล้วนผ่าน”รัฐประหาร”มาแล้ว
ไม่ว่าก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
จึงย่อม”กระสา”ต่อกลิ่นของ”รัฐประหาร”เป็นธรรมดา