เสียงเยาะเย้ยไยไพต่อข้อเสนอ”ฝ่ายค้านอิสระ”ของกลุ่ม New Dem ไม่ว่าจะดังมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะดังมาจาก พรรครวมพลังประชาชาติไทย

จำเป็นที่พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม New Dem ต้องล้างหูน้อมรับฟัง

ไม่เพียงแต่รับฟัง”เสียง”อย่างเดียว

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังจำเป็นต้องทำความเข้าใจว่า องค์ประกอบอันก่อให้เกิด “เสียง” นั้นมีรากฐานและความเป็นมาอย่างไร

น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ เป็น “เสียง”อันเคยเป่านกหวีดมาด้วยกัน และดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นแกนนำ”กปปส.”

จึงสมควรทบทวนบทบาท”กปปส.”อย่างหนักแน่น จริงจัง

ถามว่าปัจจัยอะไรทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนักหน่วงและรุนแรง

ถามว่าเป็นปัจจัยจากพรรคเพื่อไทยอย่างนั้นหรือ

หากดูจากการแยกตัวไปจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ประสานเข้ากับการเดินเข้าทำเนียบรัฐบาลและกลายเป็นกำลังสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ

ก็เห็นอย่างเด่นชัดว่า ปัจจัยมิได้มาจากพรรคเพื่อไทย ตรงกันข้าม เป็นปัจจัยเนื่องจากการเข้าร่วมใน “กปปส.”นั้นเอง

รูปธรรมอันเด่นชัดยิ่งกว่านั้นก็คือ ความขัดแย้งในห้วงแห่งการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม

ไม่ว่าจะเป็นที่สงขลา ไม่ว่าจะเป็นที่ชุมพร ไม่เว้นแม้กระทั่งที่ตรัง

เมื่อผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ปรากฏ

ความขัดแย้งตั้งแต่ยุค”ชัตดาวน์” กระทั่งความชัดเจนก่อนการเลือกตั้งก็เริ่มปรากฏให้กลุ่ม New Dem ได้สัมผัสอีกครั้ง

อย่าไปโทษสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” อย่าไปโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้พิจารณาตัวตนของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างมองเห็นกระบวนการ

ความหมายจึงหมายความถึงการเข้าใจประวัติศาสตร์

กระบวนการตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 2549 กระบวนการตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 2557

แล้วกลุ่ม New Dem จะได้คำตอบที่ตรงกับความจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน