FootNote : ชะตากรรม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในกระแส ‘ริษยา’คนชั้นกลาง
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า สถานการณ์ “กระดุม 5 เม็ด”จากเวทีนโยบายรัฐบาล กำลังทำให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แปรสภาพเป็น “ตำบลกระสุนตก”ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ตรงตามบทสรุปอันรวบรัดของหลวงวิจิตรวาทการ ที่ว่า จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ไม่มีใคร อยากเห็น เราเด่นเกิน
ตัวอย่างก่อนหน้านี้ก็เห็นมาแล้วสดๆร้อนๆ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช
เพียงแต่ครานี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กำลังประสบวิกฤตจากความเปรี้ยงปร้างของ “กระดุม 5 เม็ด”เท่านั้นเอง
จุดแรกที่ต้องประสบสัมผัสได้จากความเขม่นจากเรื่องเสื้อผ้า หน้า ผม ความโด่งดังจากกาลอดีต
มีการขุดคุ้ยเรื่องภายในครอบครัว เรื่องของอดีตภรรยา
มีความพยายามจะโยงสายยาวไปยัง “ลิ้มเจริญรัตน์”อีกคนซึ่ง มีบทบาทเป็นอย่างสูงในยุค นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย
มีการกระแทกไปยังจุดอ่อนในทางเนื้อหาที่ว่ามิได้มีความใหม่แปลกแต่อย่างใด
เรื่องอย่างนี้ NGO พูดมาหลายยี่สิบปีแล้ว
คนที่มาแสดงความเห็นในเชิงลบมิได้มีแต่ฝ่ายตรงกันข้าม ที่แยกจำแนกด้วยสีเสื้อตามสมัยนิยม หากแม้กระทั่งคนชั้นกลางด้วยกันก็เกิดอาการเขม่น
สภาพที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประสบเป็นสภาพอย่างเดียวกันกับที่พรรคอนาคตใหม่เคยประสบมาแล้ว เป็นผลสะเทือนมาจากความดังในชั่วข้ามคืน
จึงถูกตรวจสอบจากสังคมอย่างเข้มข้นดุเดือดเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะมอง “อาการ”ของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะมองผ่านชะตากรรมของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และล่าสุดคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทั้งหมดนี้คือ “ด่าน”สำคัญในทางการเมือง
โดยเฉพาะการเมืองของคนชั้นกลาง การเมืองของคนเมือง
เป็นการทดสอบว่าจะสามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลาง “ริษยาของคนชั้นกลาง”ได้อย่างหนักแน่นและมั่นคงเพียงใด
อาการอย่างนี้จะไม่เห็นในหมู่คนรากหญ้า คนบ้านนอก