FootNote:บทบาทโดดเด่น ชวน หลีกภัย สัญญาณถึง ประยุทธ์ จันทร์โอชา
บทบาทของ นายชวน หลีกภัย เมื่อส่งเสียงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา เสมอต้นเสมอปลายอย่างยิ่ง
ไม่ว่าเมื่อตอนมีการตั้ง”กระทู้ถามสด”
ไม่ว่าเมื่อมีการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ
นั่นก็คือ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรให้ความสำคัญ
นี่มิได้เป็นการยืนยันและสื่อสารระหว่างประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ กับประมุขฝ่ายบริหารเพียงด้านเดียว
ตรงกันข้าม เป็นการส่งสัญญาณ”เตือน”ด้วยความปรารถนาดี
ทั้งในฐานะที่เป็น ส.ส.คนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และในฐานะที่เคยประกาศหลักการ
ยึดมั่นในระบบรัฐสภาด้วยความแน่วแน่และมั่นคง
ถามว่าหากอยู่ในฐานะเป็น ส.ส.คนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายชวน หลีกภัย สามารถเล่นบท”เอียง”หรือแม้กระทั่งสอพลอได้
ในระดับของหัวหน้าพรรคบางพรรคที่ร่วมอยู่ในรัฐบาล
หรือในระดับบรรดา “สอพลอ” ที่อยู่ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
แต่ท่วงท่าแบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นจากพรรคประชาธิปัตย์
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายชวน หลีกภัย รักษาฐานานุภาพอันเป็นอัตลักษณ์ของตนไว้อย่างมั่นคง
ยิ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติยิ่งจำเป็นต้องชูอัตลักษณ์
เป็นการเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ตระหนักในบทบาทและความสำคัญของสภาและโดยเฉพาะกรรมาธิการ
นี่คือความรักและความปรารถนาดีด้วยความจริงใจ
มีความเป็นไปได้ว่าบทบาทของสภา บทบาทของคณะกรรมาธิการที่จะกระทบไปยังการบริหารราชการแผ่นดินจะยิ่งเด่นชัดและปรากฏขึ้นมามากยิ่งขึ้น
เห็นได้จากการส่งเทียบเชิญไปยัง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
เห็นได้จากการหยั่งเชิงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
เช่นนี้มีหรือที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะหลุดรอดไปได้
การรุกไล่จากสภา การกดดันจากคณะกรรมาธิการนี่แหละจะเป็นหินลองทองคมแหลมทดสอบความเป็น”นักการเมือง”อย่างแท้จริง