สุนทรพจน์โป๊ป
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
สุนทรพจน์โป๊ป – ระหว่างเสด็จเยือนประเทศไทย สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ตรัสสุนทรพจน์แก่คณะรัฐมนตรีและคณะทูตานุทูต เป็นข้อคิดและกำลังใจ อย่างยิ่งแก่ผู้คนทั่วไป
ในฐานะที่ทรงเป็นผู้นำสันติภาพและอุดมการณ์ที่ส่งเสริมความเป็นมนุษย์
โป๊ปตรัสแสดงความยินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้ง อันเป็นก้าวสำคัญในการกลับมาสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ถ้อยคำนี้แม้เป็นเพียงประโยคสั้นๆ แต่ทรงความหมายและความสำคัญสำหรับสังคมไทยที่เพิ่งเริ่มต้นก้าวกลับเส้นทางที่ถูกต้อง
ในมุมมองศาสนานั้น ประชาธิปไตยไม่ได้เป็นเพียงระบอบการเมืองการปกครอง หากเป็นส่วนสำคัญในวิถีชีวิตและความศรัทธาที่เป็นธรรมและเป็นสากล
ประเด็นสำคัญอีกเรื่องในสุนทรพจน์นี้ คือปัญหาเรื่องการอพยพย้ายถิ่น โป๊ปตรัสถึงบทบาทของไทยที่เคยมีชื่อเสียงว่าเป็นประเทศที่ต้อนรับผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านที่หลบลี้หนีภัยมา
ทรงเรียกร้องให้นานาประเทศจัดตั้งกลไกที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของ ผู้อพยพย้ายถิ่นซึ่งเผชิญภยันตราย ความไม่แน่นอน ถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือถูกบังคับให้ทำงานเยี่ยงทาส
สุนทรพจน์นี้แม้ไม่ได้ทรงระบุว่าเกิดกับปัญหาที่ประเทศใด หรือชาติพันธุ์ใด แต่เหตุการณ์ที่อยู่ใกล้เคียงกับประเทศไทยและเกิดติดต่อมาหลายปีนี้ เกี่ยวพันกับชาวโรฮิงยาที่ต้องหลบหนีจากรัฐยะไข่
หลายคนตกไปอยู่ในวงจรการค้ามนุษย์ที่เคยผ่านหรือเข้ามายังประเทศไทย และทำให้ไทยต้องช่วยแก้ปัญหา
โป๊ปยังตรัสถึงการเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่าแสดงถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการสร้างมิตรภาพและการเสวนาระหว่างศาสนา การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของสังคม และการเสริมสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรม รู้จักรับฟัง และไม่มีการแบ่งแยก
จากการที่ไทยเป็นประเทศพหุสังคมที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ และผู้ศรัทธาศาสนาที่แตกต่างกันอยู่ร่วมกัน และพยายามเอาชนะความไม่เท่าเทียมทุกรูปแบบ
สังคมที่โป๊ปตรัสถึงดังกล่าวต้องตั้งต้นที่ประชาธิปไตย