บทบรรณาธิการข่าวสด

เรือดำน้ำต้องมาก่อน?

ทันทีที่งบจัดซื้อเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำจากจีน วงเงิน 22,500 ล้านบาท ได้มติเห็นชอบจากเสียงสมาชิกพรรครัฐบาลในที่ประชุมคณะ อนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน คณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร

ปฏิกิริยาจากสังคมก็แสดงออกในแนวทาง ไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง
พร้อมทั้งตั้งคำถามถึงความจำเป็นที่ต้องจัดซื้ออีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่นานาประเทศทั่วโลกเผชิญความยุ่งยากทางเศรษฐกิจจากผลกระทบโรคโควิด-19

รวมถึงประเทศไทย กระทรวงการคลังเพิ่งชี้แจงความจำเป็นในการขออนุมัติกรอบการกู้เงินเพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ วงเงิน 214,093 ล้านบาท เนื่องจากการหดตัวของเศรษฐกิจ

ถ้ากระทรวงการคลังระบุถึงการหดตัวของเศรษฐกิจ การจัดเก็บภาษีที่ลดลง รวมถึงความจำเป็นต้องกู้เงินถึงหลักแสนล้าน ย่อมเป็นดัชนีหนึ่งที่สะท้อนว่าการใช้จ่ายของรัฐปีนี้และปีงบประมาณปี 2564 จะไม่ราบรื่น

ส่วนความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะคนรากหญ้าและผู้ใช้แรงงาน ไปจนถึงผู้ทำธุรกิจ รายย่อยจะต้องลำบากในระยะยาว

แต่การใช้จ่ายเงินถึงสองหมื่นล้านเพื่อแลกกับเรือดำน้ำ 2 ลำที่กองทัพเรือยืนยันถึงความจำเป็น จากงบประมาณปี 2564 ไม่อาจอธิบายได้ว่าจำเป็นในช่วงเวลาวิกฤตนี้หรือไม่

โดยเฉพาะเมื่อเกิดประเด็นที่ประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วยและนำไปสู่ความ ไม่พอใจโดยตรงต่อรัฐบาล

 

สําหรับเหตุผลของการลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนในการจัดซื้อเรือ ดำน้ำจำนวน 3 ลำ หลังจากลำแรกจัดซื้อไปแล้วด้วยงบประมาณปี 2560 มีสมาชิกสภาผู้แทนฯ ชี้ว่า ความตกลงดังกล่าวไม่ได้กำหนดข้อผูกพันให้ต้องจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3

กรณีนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลนอกจากต้องชี้แจงให้ชัด ยังต้องรับฟังเสียงของประชาชนอย่างจริงจังโดยเฉพาะการใช้งบประมาณซื้ออาวุธที่เพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงรัฐประหารจนมาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลคสช.

การรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนจนประเทศมีฐานะมั่งคั่ง หรือต้องซื้อเรือดำน้ำให้ได้ก่อน อย่างไหนที่ควรเลือก อย่างไหนที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่ากัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน