FootNote:16.00 น. ชุมนุม ราชประสงค์ คำประกาศ “ราษฎร”ประสงค์
จากปรากฏการณ์ที่มวลชนหลั่งไหลกันไปยังบริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนแล้ว สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยังจะรายงานต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า
“ม็อบ” แผ่วลงเป็นอย่างมาก แนวโน้มของม็อบจึงมีแต่ถดถอยและฝ่อไปในที่สุด
หากมองผ่าน”จำนวน”อาจไม่มากเท่ากับที่เคยเห็นเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน อาจไม่มากเท่ากับที่เคยเห็นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล
กระนั้น หากมองจากอุปสรรคขวากหนามและความร้อนแรงซึ่ง ม็อบราษฎรต้องประสบนับแต่ตอนบ่ายก่อนกำหนดนัดหมายที่จะชุมนุมในเวลา 16.00 น.
ไม่ว่าจะเป็นชายชาติทหารระดับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นผู้เจนจบในการยุทธน้อยใหญ่ระดับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย่อมรับรู้ในความสาหัสสากรรจ์
ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำผสมสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นแก๊สน้ำตา ไม่ว่าจะเป็นของแถมกระสุนยางและที่เล็ดลอดเข้ามาด้วยกระสุนจริง
คำถามที่ไม่เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องครุ่นคิด หากแม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ต้องนำมาทบทวนอย่างเคร่ง เครียดและจริงจังก็คือ
มาตรการสกัดขัดขวางอย่างเข้มข้นทั้งจาก”ตำรวจ”และทั้งจาก”คนเสื้อเหลือง”ที่ตระเตรียมมาอย่างดีบรรลุสัมฤทธิภาพหรือไม่
คำตอบที่เริ่มเห็นอย่างเด่นชัดก็คือ ทุกอย่างจะเป็นเหมือนกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงในตอนเช้าวันที่ 15 ตุลาคมและลงมือสลายการชุมนุมในตอนค่ำวันที่ 16 ตุลาคม
นั่นก็คือ เป็นคำตอบอันสัมผัสได้จากการชุมนุม ณ ห้าแยกลาดพร้าว การชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ การชุมนุม ณ แยกเกษตร บางเขน
ลงเอยด้วยการเดินเท้าไปยังสถานทูตเยอรมนนีถนนสาทร
ลงเอยด้วยการเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อนำ”สาส์น” จาก “ราษฎร” ไปหย่อนตู้ไปรษณีย์
คำประกาศจาก”ราษฎร”ผ่านการนัดหมายชุมนุมใหญ่ ณ แยกราช ประสงค์ ใน 16.00 น.ของวันที่ 18 พฤศจิกายน จึงเป็นการสื่อทะลุผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมื่อต้องการสถาปนาสิ่งที่เรียกว่า “ราษฎรประสงค์”ให้ปรากฏ
เป็นคำตอบว่าม็อบ”ราษฎร”ฝ่อลง ฝ่อลง จริงหรือไม่