FootNote:ความมุ่งมั่น จุรินทร์ ประชาธิปัตย์ ภายใต้สถานการณ์เลือดไหลออก
ไม่ว่าการยื่นใบลาออกจากสมาชิกภาพแห่งพรรคของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ไม่ว่าการยื่นใบลาออกจากสมาชิกภาพแห่งพรรคของ นายอภิชัย เตชะอุบล
ไม่เพียงเป็นคำถามต่อพรรคประชาธิปัตย์ หากแต่ยังเป็นคำถามโดยตรงต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
เนื่องจากทั้งหมดนี้คืออาการของ “เลือดไหลออก” ต่อเนื่อง
การเกิดปฏิกิริยา “ภายใน” พรรคอันสะท้อนความขัดแย้งนับแต่พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมาเมื่อเดือนเมษายน 2489 ถือเป็นเรื่องปกติอย่างธรรมดายิ่งทางการเมืองและของพรรคประชาธิปัตย์
ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายเลียง ไชยกาล ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายเทพ โชตินุชิต ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช ของ นายอุทัย พิมพ์ใจชน หรือของ นายวีระ มุสิกพงศ์
กระนั้น หากกล่าวในยุคที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ถือได้ว่าเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ร้าวลึกและดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ทั้งที่เป็นคนในแบบ “เลือดใหม่”อย่าง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และคนในแบบ “เนื้อกษัตริย์”ยาวนานอย่าง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ต้องยอมรับว่าเส้นแบ่งอันแหลมคมยิ่งที่ก่อตัว และนำไปสู่ความขัดแย้งภายในของพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มตั้งแต่สถานการณ์ก่อนรัฐประหาร
ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
สาเหตุหนึ่งเริ่มมาจากความพ่ายแพ้ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ต่อพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย สาเหตุหนึ่งมาจากความพยายามที่จะพลิกฟื้นเพื่อเปลี่ยนพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ
การเข้าร่วมอย่างเร้นลับกับพันธมิตร การเข้าร่วมและก่อตั้งเป็นในแบบ กปปส.คือจุดเริ่มและกลายเป็นความปั่นป่วนถึงขั้นแยกตัว
ท่ามกลางความขัดแย้ง แตกแยกและเกิดการแยกตัวในทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ยังมีความเชื่อมั่นในแนวทางของพรรคเป็นอย่างสูง
เห็นได้จากคำประกาศมี “เลือดใหม่”เข้ามามากกว่า “ไหล”ออกทั้งยังยืนยันในความเป็นพันธมิตรในแนวร่วมกับคสช.กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมั่นคงพร้อมให้การสนับสนุน
เท่ากับมีความพร้อมจะพิสูจน์แนวทางนี้ผ่าน “การเลือกตั้ง”ใหม่