FootNote : การแสวงหา “ทางรอด” ประเทศ ท่ามกลาง ความขัดแย้ง แตกแยก

เหตุใดแนวทางการเมืองจากบทสรุปที่พรรคเพื่อไทยต้องจับมือกับพรรคก้าวไกลอย่างหนักแน่นและมั่นคง อันเสนอจาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จึงมีความสำคัญ

เหตุผลมิได้อยู่ที่ว่า หากพรรคเพื่อไทยแยกออกต่างหากจากพรรคก้าวไกลเท่ากับแยกห่างออกจากประชาชน ที่สำคัญเป็นอย่างมาก

มีแต่การผนึกพลังระหว่างรากฐานกว่า 14 ล้านคะแนนเสียงเข้ากับรากฐานกว่า 10 ล้านคะแนนเสียงเท่านั้น จึงจะดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่ง

ที่เรียกว่า “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” ก็จากองค์ประกอบจากส่วนของพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลให้เป็นหนึ่งเดียว

เมื่อใดที่บังเกิดความหวั่นไหวก็จะถูกดูดดึงไปกับความเย้ายวนเป็นอย่างยิ่งในทางการเมือง สภาพก็ไม่ต่างอะไรไปจากที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา เป็น

ขณะเดียวกัน ความหวั่นไหวกระทั่งยอมให้ดูดดึงเข้าไปเป็นองค์ประกอบจะยิ่งเป็นปัจจัยทำให้การทำลายล้างพรรคก้าวไกล บังเกิดผลอย่างที่อีกฝ่ายตั้งหวังเอาไว้

เพราะแนวทางบดขยี้พรรคก้าวไกลก็เป็นแนวทางเดียวกันกับที่เคยทำกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

ภายใต้การผนึกพลังภายใน 8 พรรคการเมืองอันมีพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย เป็นกำลังสำคัญเป็นกำลังหลัก มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ยอมรับได้เลยว่า เมื่อใดที่อีกฝ่ายตัดสินใจเดินเข้าสู่แนวทางจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั่นหมายถึงหายนะ เป็นหายนะอันใหญ่หลวงของพลังจารีต อนุรักษนิยม

แนวโน้มที่เห็นอย่างเด่นชัดก็คือ สามารถเป็นรัฐบาลได้จากพลังหนุนของ 250 ส.ว.แต่ไม่มีความมั่นคง และอายุของรัฐบาลจักไม่ยืนยาว ในที่สุดก็จะนำไปสู่การยุบสภา

และเมื่อใดที่การยุบสภาเป็นหนทางเลือก เมื่อนั้นย่อมหมายถึงการนับถอยหลัง และในอีกด้านย่อมเป็นโอกาสอันงามของพันธมิตร 8 พรรคการเมือง

รัฐบาลเสียงข้างน้อยจึงมิใช่ทางรอด หากแต่เป็นหายนะ

ยิ่งมีความพยายามบดขยี้ทำลายและสกัดขัดขวางโอกาสของพรรคก้าวไกล โอกาสของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มากเท่าใด ยิ่งยืนยันถึงทางตันในทางการเมือง

เป็นทางตันภายใต้กับดักแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

ภายใต้วิกฤตในทางการเมือง พรรคใด ฝ่ายใดสามารถเสนอหนทางที่เป็นคุณและสร้างความเชื่อมั่นว่าจะเป็นทางรอดอย่างแท้จริงได้ พรรคนั้น ฝ่ายนั้นย่อมได้รับความไว้วางใจ รวมศูนย์ “เจตจำนงร่วม” ให้กลายมาเป็น “อาณัติ” อันใหญ่หลวงได้ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน