FootNote เงื่อนงำ แห่ง #saveสุทิน ศึกษาผ่านกรณี เรือดำน้ำ
กรณีของ “เรือดำน้ำ” กำลังเป็นหินลองทองอันคมแหลมในการพิสูจน์ตัวตนของ นายสุทิน คลังแสง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงกลาโหมว่าจะก้าวไปข้างหน้าบนหนทางใด
ที่อ่อนไหวเป็นอย่างมากก็คือ เป็นการก้าวเดินซึ่งจะกลายเป็นคำตอบว่า นายสุทิน คลังแสง กำลังต่อสู้อยู่กับอะไร
เหมือนกับกระบวนการรุกไล่อย่างต่อเนื่องและจริงจังจะมาจากพรรคฝ่ายค้านที่เห็นอยู่เบื้องหน้าคือคณะกรรมาธิการการทหาร อันมี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นประธาน
แต่เมื่อติดตามแต่ละจังหวะก้าวอย่างต่อเนื่องก็จะสัมผัสได้ว่าภายในกระบวนการรุกไล่นั้นเมื่อปรากฏ #saveสุทิน ขึ้นมา ก็เริ่มสงสัยว่าแท้จริงแล้วเป้าหมายไม่น่าจะเป็น นายสุทิน คลังแสง
คำถามก็คือ ทั้งหมดนี้แม้จะเป็นการตรวจสอบหลักคิดของ นายสุทิน คลังแสง ใน 2 ระยะ คือ 1 ระยะที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้านจากการแต่งตั้งของพรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน 1 คือ ระยะที่ได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทยให้เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมภายหลังสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม
นั่นก็คือ ตรวจสอบความเป็นตัวตนของ นายสุทิน คลังแสง
การดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ นายสุทิน คลังแสง ทางหนึ่งเป็นไปตามมติเห็นชอบจากภายในพรรคเพื่อไทย ทางหนึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขนอกเหนือการควบคุมของพรรคเพื่อไทย
สังคมมีความเชื่อว่าเป็นไปตาม “ข้อตกลง” ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
เป็นข้อตกลงซึ่งไม่เพียงแต่จะได้ยินเสียงขานชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน จาก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา เท่านั้น หากแต่ยังมาจากการยกมือของ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นเอกภาพ
หากที่เป็นรูปธรรมก็คือ คนที่ทำงานเป็นที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมล้วนเคยเป็นคนซึ่งทำงานใกล้ชิดและได้รับความวางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จึงเป็นคำถามว่า นายสุทิน คลังแสง กำลังทำงานให้ใคร
การปล่อย #saveสุทิน อันปรากฏขึ้นจึงเน้นบทบาทของ นายสุทิน คลังแสง ที่เคยเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน และท่าทีจุดยืนของพรรคเพื่อไทยก่อนการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566
ขณะที่ ณ วันนี้ “สถานะ” นายสุทิน คลังแสง ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่ว่าเมื่อ นายสุทิน คลังแสง นั่งอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นการนั่งอยู่บนฐานแห่งผลประโยชน์ของฝ่ายใดเป็นสำคัญ
กรณีของ “เรือดำน้ำ” จึงเป็นด่านแรกแห่งการเลือกตัดสินใจ
