FootNote เงื่อนงำ อำพราง เรือดำน้ำ บทบาท รัฐมนตรี กลาโหม
มีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูงภายในกระบวนการของการประชุมคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันพฤหสบดีที่ 9 พฤศจิกายน
เป็นความละเอียดอ่อนอันมาจาก “กระทรวงกลาโหม” และส่งผลสะเทือนโดยตรงต่อ “กองทัพเรือ”
เนื่องจากมีข้อตกลงและมีความรับรู้กันโดยพื้นฐานแล้วว่าในเมื่อมีวาระการประชุมในเรื่อง “เรือดำน้ำ” ทางด้าน “กองทัพเรือ” ก็มี ความพร้อมที่จะชี้แจง
รูปธรรมอันน่ายินดีอย่างยิ่งยวดก็คือ กองทัพเรือได้เตรียมเจ้า หน้าที่ซึ่งมีความรอบรู้ในเรื่องนี้เอาไว้กว่า 10 คนพร้อมเอกสารข้อมูลที่จำเป็นที่จะชี้แจงในที่ประชุม
นี่ย่อมเป็นความร่วมมือในลักษณะสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่งระหว่าง “กองทัพเรือ” กับ “คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร” เท่ากับเป็นการเบิกสถานการณ์ใหม่ทางการเมือง
น่าเสียดายที่มีคำสั่งจาก “กระทรวงกลาโหม” ยับยั้งการไปอยู่ในที่ประชุมของตัวแทนของ “กองทัพเรือ” โดยให้ตัวแทนจาก “กระทรวงกลาโหม” ที่เป็นทหารบก ทหารเรือทำหน้าที่แทน
คำสั่งนี้ก่อให้เกิด “คำถาม” ต่อ “กระทรวงกลาโหม”
Advertisement
ไม่ว่าจะมองการเปลี่ยนแปลงในการประชุมคณะกรรมาธิการการ ทหาร สภาผู้แทนราษฎร อย่างไร แต่เด่นชัดอย่างยิ่งว่า “จำเลย” ใน เรื่องนี้เป็น “กระทรวงกลาโหม”
สถานะของ “กองทัพเรือ” สูงเด่นแม้ว่า “เงื่อนงำ” จาก “ข้อตกลง” ในการซื้อ “เรือดำน้ำ” จะยังค้างคาอยู่ก็ตาม
อย่างน้อย “กองทัพเรือ” มีความพร้อมเต็มเปี่ยมในการชี้แจง
ความพยายามของคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เป็นความพยายามในสถานะและความเป็น “ผู้แทนราษฎร” ที่มีคุณภาพและสร้างสรรค์
ความข้องใจที่ตามมาเป็นความข้องใจต่อ “กระทรวงกลาโหม” เป็นความข้องใจต่อบทบาทและการตัดสินใจของ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”
เป็นความข้องใจว่า “อำนาจ” อยู่ในมืออย่างเป็นจริงหรือไม่
สายตาจึงมองไปยังบทบาทของ นายสุทิน คลังแสง ในฐานะที่เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ผ่านมติและความเห็นชอบมาจากพรรคเพื่อไทย
ตกลงเป็นผู้กำหนด “นโยบาย” และ “บริหารจัดการ” เพียงใด ตกลงปลอดจากความผูกพันอันเป็นความริเริ่มจากรัฐบาลหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 หรือไม่ หรือยังถูกควบคุมโดยอำนาจจากรัฐประหารอำนาจจากคสช.
คำถามนี้จะรุมเร้าอยู่โดยรอบ นายสุทิน คลังแสง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรุนแรงแหลมคมยิ่งขึ้น
เป็นคำถามต่อการคิดใหญ่ ทำเป็นในแบบของ “เพื่อไทย”
