FootNote:ค้าประเวณี เซ็กซ์เวิร์คเกอร์ ปะทุ สถานการณ์ #สุขุมวิท11
สถานการณ์#สุขุมวิท11 เมื่อคืนวันที่ 5 มีนาคม ปะทุและลามไหม้รวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ภายในความรวดเร็วนั้น ได้สะท้อนปัญหาอันซับซ้อนของสังคมไทยออกมาอย่างล่อนจ้อน
ไม่ว่าจะในเรื่องการดำรงอยู่ของ “ทราน” ทั้งที่เป็นชาวไทย ทั้งที่เป็นชาวต่างประเทศ
บนถนนสุขุมวิทจากซอยนานาไปจนถึงซอยประสานมิตร
โดยปรากฏการณ์อันกลายเป็นข่าวอึกทึกครึกโครม คือความขัดแย้งจนกลายเป็นการวิวาทระหว่าง “ทราน” ที่เป็นฟิลิปปินส์กับ “ทราน” ที่เป็นคนไทย
เริ่มจากเรื่องของชาติพันธุ์ เริ่มจากเรื่องของอาชีพที่ต้องต่อสู้และแข่งขันกัน ขยายไปสู่ประเด็นในเรื่องชนชาติ แต่รากฐานอย่างสำคัญก็คือการแย่งชิงพื้นที่ในเรื่องอาชีพ
หลังสถานการณ์เกิดขึ้นไม่นานบรรดาผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าในวงการ LGBTQ+ ไม่ว่าในวงการทางการเมือง ไม่ว่าในวงการทางด้านข่าว ล้วนยอมรับตรงกัน
นั่นก็คือ การดำรงอยู่ของอาชีพการ “ค้าประเวณี” อันก่อให้เกิดการแย่งชิงและไม่ลงรอยกันในกลุ่ม “ทราน”
จึงได้เรียกร้องให้เปิดเสรีในเรื่อง “เซ็กซ์เวิร์คเกอร์”
เมื่อเป็นเรื่องของ “เซ็กซ์เวิร์คเกอร์” กรอบแห่งความเห็นก็มิได้จำกัดแต่เพียงความขัดแย้งระหว่าง “ทราน” ระหว่างชาติพันธุ์อันเป็นปรากฏการณ์เฉพาะหน้า
ตรงกันข้าม นี่ย่อมเป็นความจริงที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย ไม่เพียงแต่ที่สุขุมวิท หากแต่ในขอบเขตทั่วประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นที่พัทยา ระยอง ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต สมุย ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นที่หนองคาย ไม่ว่าจะเป็นที่กาญจนบุรีหรือซอยคาวบอย ซอยสีลม ในมหานครกรุงเทพฯ
การลงไปในพื้นที่อย่างฉับพลันของกรุงเทพมหานคร เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แต่สภาพก็เป็นเช่นเดียวกับคำยืนยันของตำรวจที่ว่า “ไม่มีการค้าประเวณีที่พัทยา” “ไม่มีมาเฟียที่ภูเก็ต”
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากอารมณ์อันเนื่องแต่#สุขุมวิท11 จางคลายลง ความเป็นจริงและเหตุผลก็ย่อมจะปรากฏเด่นชัด
การอยู่กับ “ความเป็นจริง” และหาทางแก้ “ปัญหา” ต้องบังเกิด
ไม่ว่าจะมองผ่านสถานการณ์ว่าด้วย#ฝรั่งเตะหมอ ที่ภูเก็ต ไม่ว่าจะมองผ่านสถานการณ์#สุขุมวิท11 ใจกลางมหานคร
ทุกฝ่ายมองทะลุถึง “ธุรกิจสีเทา” ทะลุถึง “มาเฟีย”
มองเห็นการเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากอิทธิพลของคนมีสี ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นสีกากี และการดำรงอยู่ของทุนสีเทาจากต่างประเทศ ที่มาพร้อมกับธุรกิจท่องเที่ยว
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผู้เกี่ยวข้องจะนั่งลงและร่วมกันทำความเข้าใจและสร้างบรรทัดฐาน อันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
