นับเป็นข่าวดีของเกษตรกรชาวสวนยางพารา พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย
“วันนี้ ราคายางปรับตัวสูงขึ้นทะลุกิโลกรัมละ 80 บาทในรอบ 3 ปีกว่า และผมหวังว่าราคายางจะดีขึ้นอีก รัฐบาลจะพยายามผลักดันต่อไป เพราะเราอยากให้เกษตรกรอยู่ดีกินดี” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้ราคายางพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ จากอดีตราคาตกต่ำ 3 โล 100 บางช่วงดิ่งลงไปถึง 4 โล 100 หรือหากย้อนไป 6 เดือนก่อน ราคายางอยู่ในระดับ 50 บาท/ก.ก. แต่ตอนนี้เกิน 80 บาท เท่ากับว่าหลังจากรัฐบาลชุดนี้เข้ามา 6 เดือน เกษตรกรยางมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 60%
คือการที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งกองทัพบก กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ มหาดไทย และผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดร่วมกันปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล
ในการสกัดกั้นลักลอบขนยางเถื่อนเข้าประเทศ
ยางที่ลักลอบนำเข้าโดยไม่ถูกกฎหมาย ทำให้ปริมาณยางในไทยล้นตลาด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลดลงของราคา
ดังนั้น ด้วยความเข้มงวดมาตรการปราบปรามการลักลอบนำเข้า ทำให้ปัจจุบันยางเถื่อนหมดไปในระดับหนึ่ง รวมถึงใช้กลไกตลาดเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูป เช่น ล้อรถ หมอน ที่นอน รองเท้า เป็นต้น
ทำให้ราคายางในประเทศขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง ผู้ได้รับประโยชน์คือเกษตรกรตลอดจนผู้ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับยางพาราประมาณ 1 ล้านครอบครัว ไม่น้อยกว่า 6 ล้านคน
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ ระบุ ตั้งแต่เดือนก.ย.2566 ราคายางที่ซื้อขายผ่านสำนักงานตลาดกลางยางพารา ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ทะลุ 80 บาท ราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 81.09 บาท/กก. สูงสุดในรอบ 41 เดือน
และคาดว่าราคายังคงอยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป
ไม่เพียงราคายาง ยังมีสินค้าเกษตรตัวอื่นที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในรอบหลายปี
อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิ จากตันละ 13,315 บาท เป็น 14,995 บาท สูงขึ้น 1,680 บาท หรือ 13%, ข้าวเปลือกเจ้า จากตันละ 8,443 บาท เป็น 12,181 บาท เพิ่มขึ้น 3,738 บาท หรือ 44%, ข้าวเปลือกเหนียว จากตันละ 11,847 บาท เป็น 13,640 บาท เพิ่มขึ้น 1,793 บาท หรือ 15%
อ้อย จาก 850-950 บาทต่อตัน เป็น 1,700-1,850 บาท มันสำปะหลัง ก.ก.ละ 2.45 บาท เป็น 3.56 บาท เพิ่ม 1.20 บาท หรือ 45% ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก.ก.ละ 9.10 บาท เป็น 9.84 บาท เพิ่ม 0.33 บาท หรือ 8% , ปาล์มน้ำมัน ก.ก.ละ 5.23 บาท เป็น 5.83 บาท เพิ่ม 1.22 บาท หรือ 12%
ทั้งหมดคือแนวโน้มในการเดินหน้าสู่เป้าหมายตามที่นายกฯ ประกาศจะทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ใน 4 ปี
