FootNote ปลุก เลือกสว. เป็นกระแส กำหนด ทิศทาง การเมือง
ยิ่งเกิดกระแสความตื่นตัวกระทั่งเชื่อมั่นว่าจะมีผู้แสดงความจำนงลงสมัครเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือก “สมาชิกวุฒิสภา” ใหม่เป็นจำนวนกว่า 200,000 คน
ข่าวที่ว่ามีราคามูลค่าการทุ่มเงินซื้อเสียงภายในกระบวนการ เลือก “สมาชิกวุฒิสภา” ยิ่งมากด้วยสีสัน
ระดับอำเภอ 15,000 บาท ระดับจังหวัด 1,000,000 บาท
ในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องจำนวนผู้ลงสมัครเข้าสู่กระบวนการเลือก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการทุ่มเงินเพื่อก่อให้เกิดภาวะบิดผันในด้านคะแนนเสียงล้วนเป็น “ข่าวลือ”
แต่ว่าภายในการไหลเลื่อนของ “ข่าวลือ” ที่ถูกปล่อยออกมาคือรูปธรรมอันเป็น “ข้อมูล” สะท้อนและยืนยันถึงความตื่นตัวเป็นอย่างสูงและดำเนินไปในลักษณะทวีคูณ
เหตุอันทำให้เกิดความตื่นตัว ด้านหนึ่ง มาจากกฎกติกาที่ตราไว้ในรัฐธรรมนูญดำรงอยู่อย่างซับซ้อนซ่อนปมเพื่อให้ความซับซ้อนนั้นนำไปสู่การกำหนดตัวของ 200 สมาชิกวุฒิสภา
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง มีความพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะเข้าไปพังทลายเป้าหมายซ่อนเร้นในทางการเมือง
Advertisement
ก่อให้เกิด “สมาชิกวุฒิสภา” ใหม่ที่มีลักษณะ “สร้างสรรค์”
ต้องยอมรับว่าการต่อสู้ภายในกระบวนการเลือก “สมาชิกวุฒิสภา” ชุดใหม่จำนวน 200 คนดำเนินไปอย่างเข้มข้นและมีรากฐานอย่างน้อยก็จาก 3 รากฐานสำคัญ
1 จากกลุ่มที่กุมอำนาจรัฐ “เดิม” ทั้งที่ดำรงอยู่อย่างเปิดเผยและที่ดำรงอยู่อย่างล้ำลึก
1 จากกลุ่มการเมืองที่เป็น “บ้านใหญ่” พรรคกระแสหลัก
ขณะเดียวกัน 1 จากกลุ่มการเมืองที่อ้างตนว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งที่เป็นการเคลื่อนไหวในนามพรรคและที่เป็นการเคลื่อนไหวในภาคประชาชน
ทั้ง 3 ฝ่ายล้วนตระหนักในบทบาทและความหมายของ “สมาชิกวุฒิสภา” และต้องการอาศัยบทบาทของ “สมาชิกวุฒิสภา” ไปกำหนดความหมายในทางการเมือง
นั่นก็คือ แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายล้วนต้องการขับเคลื่อนการเมืองไปในทิศทางที่สะท้อนอุดมการณ์ของตน
ยิ่งมีความตื่นตัวมากเพียงใด ไม่ว่าจะจากกลุ่มอำนาจเดิม ไม่ว่าจะจากกลุ่มการเมือง ทำให้เรื่องของ “สมาชิกวุฒิสภา” เป็นกระแส
ยิ่งเป็น “กระแส” ยิ่งดูดดึงให้มีผู้เข้าร่วมด้วยจำนวนมาก
แม้จะถูกความจำกัดด้วยกติกาว่าด้วยความจำเป็นต้องลงสมัครและต้องใช้เงิน แต่ความตื่นตัวของสังคมและของปัจเจกบุคคลนั้นแหละที่กลายเป็นปัจจัยผลักรุนอย่างสูง
จำนวนคนที่เข้าร่วมในกระบวนการเลือก “สมาชิกวุฒิสภา” นั้นเองคือปัจจัยที่จะกำหนดทิศทางของ “การเลือก”