FootNote แผนพัฒนา อุตสาหกรรม ทหาร ก้าวย่างใหม่ ท่าทีใหม่ ก้าวไกล
ในกระบวนการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณจากด้านของพรรคฝ่ายค้านนอกเหนือจากข้อเสนออันแหลมคมของ นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล นายศุภโชติ ไชยสัจ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แล้ว
การอภิปรายของ นายชยพล สท้อนดี ในเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศนับว่าน่าสนใจ
ความแหลมคมของ นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล อาจอยู่ที่การสะท้อนให้เห็นข้อต่อระหว่างรถสันดาปกับรถไฟฟ้า ความแหลมคมของ นายศุภโชติ ไชยสัจ อาจอยู่ในพรมแดนแห่งเศรษฐกิจสีเขียว
ความแหลมคมของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ อาจอยู่ในบทสรุปของการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่ประสานกระบวนท่าในแบบเน็ตฟลิกซ์ การ์มิน กับ ทินเดอร์ เข้ามาอย่างต่อเนื่องกัน
กระนั้น ความน่าสนใจอันมาจากการอภิปรายของ นายชยพล สท้อนดี อยู่ที่การมองไปยังสภาพความเป็นจริงของกองทัพและผลักดันให้ประสานกองทัพกับเอกชนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม ในด้านการป้องกันประเทศ
ท่วงทำนองนี้ของ นายชยพล สท้อนดี ถือว่าเป็นกระบวนท่าใหม่ ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคก้าวไกล หรือกรรมาธิการ
เป็นการยื่นมือแห่งไมตรีเข้าสู่แต่ละภาคส่วนแห่งกองทัพ
จำเป็นต้องมองพื้นฐานของ นายชยพล สท้อนดี ด้วยความเข้าใจ ไม่ว่าจะจากครอบครัว ไม่ว่าจะจากการศึกษาและความจัดเจนในการทำงาน
เขาเติบโตในครอบครัวทหาร และเข้ารับการศึกษาอย่างหนักแน่นมั่นคงตั้งแต่ประถมศึกษา กระทั่งอุดมศึกษา
จิตรลดา เตรียมทหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จึงมีความเข้าใจความรู้สึกของ“ชนชั้นนำ”เป็นอย่างดี จึงทะลวงเข้าไปในความต้องการที่ดำรงอยู่อย่างเงียบๆ ภายในกองทัพได้อย่างตรงเป้า
รู้ว่ากองทัพต้องการพึ่งตนเอง กองทัพต้องการมีอะไรเป็นของตนเองเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งการป้องกันตนเอง หากพรรคก้าวไกลสามารถนำเสนอนวัตกรรมเข้าไปได้อย่างเหมาะสม
นั่นหมายถึงการสร้างศักดิ์ศรีให้กับกองทัพ สร้างความภาคภูมิใจให้กับกองทัพและประชาชนไทย
กองทัพจำเป็นต้องนำเอาเนื้อหาการอภิปรายอันมาจากพรรคก้าวไกลไปพิจารณาอย่างรอบด้านและครบถ้วน
ทั้ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ทั้ง นายชยพล สท้อนดี
นี่คือการสร้างความแตกต่างระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน ไม่ว่าจะระหว่างพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะระหว่างพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะระหว่างพรรคพลังประชารัฐ
เด่นชัดยิ่งว่าพรรคก้าวไกลมีจุดที่ไม่เหมือนกับพรรคการเมืองเก่าอย่างลึกซึ้งในแนวทางของการพัฒนากองทัพ