คณะรัฐมนตรีที่ได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่จำนวน 14 ราย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่แล้ว
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จากนี้จะปฏิบัติหน้าที่ในรัฐบาลเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเพียงเท่านั้น
ส่วนหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนอย่างเต็มอำนาจตามรัฐธรรมนูญ
ในระยะเวลาอีกสองปีที่เหลือของวาระสภาผู้แทนราษฎร จึงเป็นโอกาสของรัฐบาลชุดนี้จะสร้างผลงานออกมาให้เป็นรูปธรรม แปรนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาให้เป็นการกระทำที่มีผลงาน
เนื่องจากรัฐบาลมีขีดและศักยภาพจำกัดอยู่บ้าง รวมถึงแรงกดดันทางการเมือง เนื่องจากเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรลดลง เพราะการถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค
แต่เชื่อว่ารัฐบาลยังจะสามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้ระยะหนึ่งหรืออาจจะระยาว พร้อมกับเร่งแก้ปัญหาพื้นฐานที่เกี่ยวข้องชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก
ล่าสุด ผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายกับกระทรวงมหาดไทยแล้วว่าอันแรกจะจัดการกับปัญหายาเสพติดอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งไม่เพียงแต่จับกุม ยึดอายัดสกัดกั้นขบวนการเท่านั้น
แต่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับเล็กสุดไปจนถึงหัวหน้าขบวนการและผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด โดยบูรณาการกฎหมายทุกฉบับที่ให้อำนาจมาแก้ปัญหา
ในเมื่อรัฐบาลยังไม่สามารถขับเคลื่อนเมกะโปรเจ็กต์ให้เดินต่อได้ จึงต้องกลับคืนไปสู่นโยบายชั้นสามัญ ระดับต้นๆ อันเกี่ยวเนื่องกับความเป็นอยู่และชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นด้านหลัก
อาทิ ปัญหาราคาพืชผล ปัญหาผู้มีอิทธิพล ปัญหาหนี้สินนอกระบบ การสาธารณูปโภคต่างๆ อาชญากรรมและอาชญากรข้ามชาติทุกประเภท รวมถึงการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบทุกรูปแบบ
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ชุมชนทั่วประเทศกว่า 1.15 แสนล้านบาท ดังนั้นจักต้องลงไปตรวจสอบการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
จริงอยู่ รัฐบาลชุดนี้อาจเดินเหินได้ไม่คล่องตัวนัก แต่อำนาจการบริหารจัดการที่พรรคแกนนำกำไว้อย่างครบวงจร เชื่อว่าจักสามารถขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งจะต้องหาวิธีพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้จงได้