ประสิทธิชัย ชี้ อีอีซี อาจเป็นประตู ที่ ‘รัฐ’ เปิดรับต่างชาติเข้าดูดกลืนไทย ระบุ ผลประโยชน์ กระจุกอยู่แค่ระดับบน ปากท้องประชาชนถูกละเลย

หลังจากรัฐบาลไทยยืนยันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ กำหนดให้มีการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่ของ จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และจ.ระยอง โดยอนุญาตให้ต่างชาติ ทำสัญญาเช่าที่ดิน ซึ่งครั้งแรกจะไม่เกิน 50 ปี และขยายตัวได้ตามความตกลงอีกไม่เกิน 49 ปี รวมแล้ว 99 ปี
ขณะประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ก็เกิดเหตุการคล้ายกัน ที่รัฐบาลเวียดนามเห็นชอบให้นักลงทุนจากจีนเช่าพื้นที่ภายในประเทศได้ถึง 99 ปี ก่อนจะเป็นแรงกระตุ้นให้ประชาชนลุกฮือออกมาต่อต้านนโยบายดังกล่าวทั่วเมือง

ล่าสุดวันที่ 13 มิ.ย. ประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และนักกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
ไม่มีใครยึดแผ่นดินเรา
แต่เขาจะยึดนโยบาย กิจการ ผลผลิต และมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ไปจากประชาชนและหากสูญเสียสิ่งเหล่านี้
มันจะต่างอะไรกับการสูญเสียแผ่นดิน

ความน่ากลัวของจีนที่ตอนนี้ทยอยยึดกิจการของคนไทยไปแบบเนียนที่สุดและอาจจะไม่ผิดกฎหมายใด เพราะการยึดในลักษณะนี้คือการยึดกลืน ล้งผลไม้ กิจการท่องเที่ยว ย่านธุรกิจ มีคนเล่าให้ฟังว่ามีย่านภาษาจีนที่ทยอยยึดเมืองไทยในหลายพื้นที่หลายกิจการ แต่เรายังสบายดีอยู่

ข่าวว่าเวียดนามลุกขึ้นประท้วงเพราะรัฐบาลให้ต่างชาติเช่าที่ดิน ๙๙ ปี สำหรับประเทศไทย พรบ.เขต ศก.พิเศษผ่าน สนช.ไปอย่างสบาย เพราะคนไทยเงียบกริบกับการให้ต่างชาติเช่าที่๙๙ปี

ใน ๕๓ ประเทศทั่วโลกยกเลิกใช้ยาฆ่าหญ้าเพราะมันปนเปื้อนในระบบการผลิตอาหารจนกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน สำหรับรัฐบาลไทยยังเพิกเฉย เพราะความเจ็บป่วยของคนในประเทศคือธุรกิจการรักษาที่เติบโตทำกำไรมหาศาลแต่ละปี เงินของบรรษัทเคมีสำคัญกว่าคุณภาพของประชากร

โลกของพลังงานที่หลายประเทศเปลี่ยนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าเพื่ออิสระภาพและความเป็นประชาธิปไตยด้านพลังงาน แต่สำหรับเมืองไทยยังคงบ้าฟอสซิลและให้บรรษัทถ่านหินเดินหน้าต่อไป

เราใช้นโยบายยุทธศาสตร์ชาติควบคุมทุกอย่าง เราใช้นโยบายส่วนกลางกดหัวคนท้องถิ่นให้ยอมสยบ เราเปิดโอกาสสำหรับบรรษัทขนาดใหญ่ และจำกัดการเติบโตของประชาชนตัวเล็ก คนตัวเล็กมีหน้าที่เพียงเป็นผู้บริโภคของบรรษัทใหญ่ ไม่ว่าพวกมึงหาเงินมาได้เท่าไหร่ กูก็จะดูดกลืนเข้ากระเป๋าให้หมด

ประชาชนจำเป็นต้องถากถางทางเดินของตัวเอง การหวังพึ่งรัฐโดยหวังว่ารัฐจะทำให้ประชาชนเกิดความเป็นธรรมนั้นกลายเป็นความละเมอเพ้อฝัน

หากเรานิ่งเฉยกันต่อไป
ความยากลำบากจะครอบครองแผ่นดินนี้

อุปสรรคอย่างเดียวในการถากถางทางเดินของประชาชน
คือเราไม่เชื่อมั่นในตัวเอง

ผมควรจะพูดอะไรที่มันโรแมนติก
ในวันเกิดของตัวเองใช่หรือเปล่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน