อีอีซี อาจส่อแววล่ม หลังตรวจสอบพบการเบิกจ่ายงบไม่เป็นไปตามเป้า
คาดไร้อำนาจต่อรองต่างชาติ
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษ และประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-26 มิ.ย. นี้ เพื่อเน้นโรดโชว์เชิญชวนร่วมลุงทุน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ตามนโยบายพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกนั้น
- ประสิทธิชัย ชี้ อีอีซี อาจเป็นประตู ที่ ‘รัฐ’ เปิดรับต่างชาติเข้าดูดกลืนไทย
- ไทยตีปี๊ปพ.ร.บ.อีอีซี มีผล มั่นใจดูดนักลงทุนตอกเสาเข็ม
- อีอีซี เร่งผุดแผนพัฒนาเมืองรอบสนามบินอู่ตะเภาตั้งรับการขยายตัวของเมือง
- กระทรวงอุตฯ ฟุ้งนักลงทุนแห่ปักหมุดอุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซีแล้ว
วันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสืบค้นเว็บไซต์ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ตามแผนบูรณาการปี 2561 พบว่า พื้นที่อีอีซี ได้มีการกำหนดเป้าหมายไว้ว่า จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่มีศักยภาพเพียงพอ และมีการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตัวชี้วัดเป้าหมายคือ โครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการให้บริการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อีอีซี ดำเนินการตามแผนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70
แต่ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี 2561 เป้าหมายที่ 1 พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) ให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่มีศักยภาพเพียงพอ และมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ตามเอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 นับจนถึงวันที่ 31 มี.ค. นั้น พบว่า
โครงการของอีอีซีที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับการลงทุนเป็นเงิน 6,938.33 ล้านบาทนั้น มีการดำเนินการ และเบิกจ่ายงบประมาณเป็นเงิน 2,869.89 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 41.36 ของทั้งหมดเท่านั้น โดยหน่วยงานที่มีงบการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วงเงิน 101.97 ล้านบาท กองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม วงเงิน 443.01 ล้านบาท ยังไม่มีการเบิกจ่าย ซึ่งทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า การวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการลงทุนและการโรดโชว์ อังกฤษ-ฝรั่งเศส สัปดาห์นี้ อีอีซีมีความพร้อมแค่ไหนต่อการรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ
