สุเทพ นำทีม รปช. เดินคารวะแผ่นดิน ชัยนาท เจอหนุ่มถือป้าย “อย่าดูถูกประชาชน” เผยเป็นเรื่องธรรมดา ชูแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน ระบุอย่ารังเกียจคนรวย ชี้คนรวยเยอะๆยิ่งดี ลั่นนักการเมืองต้องดูแลให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 28 ม.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรค และ นายสกณภัทร เรืองคุ้ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต1 จ.ชัยนาท ลงพื้นที่เดินคารวะแผ่นดินในตลาดภาษีซุง อ.เมือง จ.ชัยนาท เพื่อพบปะประชาชน พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ เชิญชวนเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค

โดยมีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ พร้อมมอบพวงมาลัยคล้องคอเป็นกำลังใจ และขอถ่ายรูปกับนายสุเทพ อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นได้มีชายหนุ่มมายืนชูป้ายข้อความ “อย่าดูถูกประชาชน” พร้อมกับส่งเสียงเรียกนายสุเทพ แต่นายสุเทพไม่สนใจ

เกาะติดข่าวการเมืองข่าวเลือกตั้ง แค่กดเป็นเพื่อนกับไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายสุเทพ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ได้พบปะพี่น้องประชาชนชัยนาทตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการต้องรับอย่างดี โดยตนเดินตามห้องแถวในเขตเทศบาลเมืองชัยนาท มีพี่น้องต้อนรับดีมาก วันนี้มาเดินในตลาดภาษีซุงก็มีการต้อนรับอย่างดี มีอยู่คนเดียวที่มาชูป้ายไม่ต้อนรับ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ตนเจออย่างนี้มาทุกจังหวัด ก็เข้าใจดี ได้เจอคน 1,500 คน 2,000 คน 2,500 คน จะมีคนไม่เห็นด้วยบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา

“จากคำพูดที่พูดกันจนติดปากว่า “รวยกระจุก จนกระจาย” มันทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกในสังคม ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้รังเกียจคนรวย คนรวยเยอะๆยิ่งดี แต่หน้าที่ของนักการเมือง พรรคการเมือง ต้องดูแลประชาชนให้มีชีวิตที่ดี คือดูแลคนที่ยังมีฐานะไม่แข็งแรง ให้จนถึงเขาสามารถอยู่ได้ในระดับพอเพียง ตามแนวทางที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ นั่นคือปัญหา ภาระหน้าที่ที่นักการเมือง พรรคการเมืองต้องคิด ไม่ใช่แค่พูดเป็นวาทกรรมเฉยๆ” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า รปช.มีจุดยืนชัดเจนว่าต้องเป็นพรรคการเมืองของประชาชน หน้าที่ของเราคือดูแลแก้ไขปัญหาประชาชน วันนี้ถ้าพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจ เรามุ่งแก้เศรษฐกิจของชาวบ้าน ให้ชาวบ้านมีรายได้ดีขึ้นและมีรายจ่ายน้อยลง อะไรที่รัฐแบ่งเบาได้ ให้แบ่งเบาไป เพื่อให้เขามีเงินเหลือ ถ้าประชาชนมีเงินเหลือก็จะพอจับจ่ายใช้สอยได้ ตลาดร้านค้าจะไปได้ นี่คือเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ เศรษฐศาสตร์ที่ชาวบ้านแม่ค้าเขาสอนตน

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เป้าหมายของตนต้องการส.ส.สัก 50-60 คน การมีผู้แทนราษฎร 50-60 คน ในสภาจะสามารถผลักดันแนวนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนได้ จำนวนส.ส. 50 คนขึ้นไป เรามีสิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีได้ ฉะนั้นอำนาจต่อรองจะสูง

“งานนี้ผมไม่ได้เป็น ส.ส. และไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น แต่สิ่งแรกที่จะทำสำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทย คือการยกระดับรายได้ของประชาชนที่เป็นเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน ขอฝากพี่น้องประชาชนชัยนาท และประชาชนทั่วประเทศว่า บ้านเมืองเป็นของเรา ประชาชนเป็นผู้ชี้อนาคตของประเทศ เราสามัคคีกันคราวนี้พาประเทศพ้นวิกฤตคราวนี้ไปได้ ผมเชื่อมั่นว่าประเทศจะเจริญรุ่งเรืองภายใต้ร่มพระบารมีของพระเจ้าอยู่หัว” นายสุเทพ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน