“ประธานฯ พรเพชร” อวย “บิ๊กตู่” เสียสละทุกอย่าง ยัน ส.ว.โหวตหนุน ไม่มีการขัดกันแห่งประโยชน์ แต่ทำตาม รธน.

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 13.00 น. ที่อาคารสำนักงานใหญ่ทีโอที นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ฐานะรองประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ถือว่าเสียสละทุกอย่างและลงตัวทุกอย่าง ไม่ต้องพูดว่าเสียงปริ่มน้ำ เพราะขณะนี้มีเสียงข้างมากและส.ว.หนุนเต็มที่ ซึ่งเสียงส.ว.ยืนยันได้ว่าไม่ได้จัดตั้ง ที่กล่าวหากันก็เป็นความรู้สึกของสมาชิก

ส่วนที่สังคมภายนอกมองว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะลำบากในการบริหารประเทศหลังจากนี้เพราะมีความขัดแย้งนั้น นายพรพชร กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในความสามารถของพล.อ.ประยุทธ์ สถานการณ์ที่ย่ำแย่กว่านี้มีความขัดแย้งรุนแรงเมื่อปี 57 ยังฝ่าฟันมาได้ ประสบการณ์ 5 ปี รวมถึงแผนงานปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติดำเนินการได้ด้วยดี อย่าลืมว่าความเจริญก้าวหน้าประเทศอยู่กับการปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติ รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ส.ว.มีส่วนร่วมกับส.ส. นี่คือจุดสำคัญ อย่ามองแต่การแต่งตั้งอย่างเดียว ส.ว.เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง

เมื่อถามถึงฝ่ายการเมืองจองกฐินตรวจสอบคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์ หลังได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นายพรเพชร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ผ่านมาหมดแล้วทุกอย่าง ที่พูดกันนั้นเป็นความข้องใจคำพูดของบางคนที่ยังเอามาพูดอยู่ แต่ในกระบวนการทางกฎหมาย ได้ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และเทียบเคียงกับคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนุญ ซึ่งท่านไม่มีปัญหาแล้วในเรื่องคุณสมบัติ เชื่อว่ากรณีดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้กระบวนการนำชื่อนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องชะลอออกไป

“ตามกฎหมายเมื่อสมาชิกรัฐสภาลงมติเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แล้ว กระบวนการต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง เพราะการใช้สิทธิของฝ่ายนิติบัญญัติถือเป็นหนึ่งในอำนาจสูงสุดของ 3 อธิปไตย ดังนั้นหากไม่คำนึงถึงประเทศจะลำบาก เพราะไม่รู้ว่าแบบไหนกันแน่ที่มีอำนาจ อย่างไรก็ตามการอภิปรายเรื่องคุณสมบัติ ฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีอำนาจวินิจฉัยสิ่งที่สมาชิกอภิปราย” นายพรเพชร กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองเตรียมร้องศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการลงมติของส.ว. ที่หนุนให้หัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ ด้วยเหตุผลประโยชน์ขัดกัน นายพรเพชร กล่าวยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ที่ขัดกัน เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ปกติที่ต้องใช้ และให้อำนาจส.ว.ทำได้

ส่วนที่ระบุว่าบทกำหนดในมาตรฐานจริยธรรมเขียนไว้ เรื่องการใช้อำนาจที่ไม่มีผลประโยชน์ขัดกันเพราะลงมติให้คนที่แต่งตั้งตนเองมานั้น ในสากลทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ช่วงประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ที่แต่งตั้งผู้พิพากษาสูงสุด แต่เมื่อมีคดีวอร์เตอร์เกต การทำหน้าที่ของผู้พิพากษาสูงสุดยังทำหน้าที่ได้โดยอิสระ ยืนยันว่าการลงมติของส.ว.เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีประเด็นที่ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมตรงไหน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน