“เสรีพิศุทธ์” ป้อง ลูกพรรค โดนคดียาเสพติด ชี้หากศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุดถือว่ายังบริสุทธิ์ เผยหากอัยการส่งฟ้อง กก.บห.อาจใช้มติ 2 ใน 3 ขับออกจากพรรค

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 08.45 น. ที่รัฐสภาชั่วคราว หอประชุมทีโอที ถ.แจ้งวัฒนาบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับนายสุบรรณ มหาชนนท์ อดีตผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ลำดับที่50 พรรคเสรีรวมไทย ถูกจับคดีค้ายาเสพติด ว่าไม่มีอะไรเมื่อผู้สมัครมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทุกคนก็อยากถ่ายภาพกับหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้รู้จักเพราะไม่ได้เจอกันทุกวัน

เมื่อถามว่าเมื่ออดีตผู้สมัครของพรรคทำความผิดทางพรรคจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าอย่าเพิ่งไปปักใจว่าเขากระทำความผิดเพราะตามรัฐธรรมนูญบุคคลที่กระทำความผิดก็ต่อเมื่อศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด ฉะนั้นตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาและคดียังไม่ถึงที่สุดเขาก็ยังไม่มีความผิด

ยกตัวอย่างถ้าศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษเขาก็ยังถือไม่ได้ว่าเขายังไม่กระทำความผิด เพราะศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาอาจจะยกฟ้องก็ได้ และเราจะเห็นว่ามีข้าราชการถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกก็ยังรับราชการต่อ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เพราะยังถือว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด

แต่กรณีของสมาชิกพรรคเป็นเพียงเพื่อนตำรวจไปจับกุมดำเนินคดี สมมุติในกรณีนี้อาจจะสงสัยเพราะอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ตำรวจก็ต้องจับไปเพราะมีเหตุอันควรเชื่อว่าตำรวจก็จับแล้ว ต่อมาเมื่อตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานเขาอาจจะไม่มีส่วนกระทำความผิด ตำรวจอาจจะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องและอัยการสั่งไม่ฟ้องได้ แล้ววันนี้เราจะไปบอกเขาว่าเขากระทำความผิดไม่ได้ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่ากรณีของนายสุบรรณเหตุเพิ่งเกิดขึ้น ต้องมีการรวบรวมหลักฐาน จึงยังไม่มีการสรุปว่าผิดหรือถูกเพราะยังไม่ผ่านการพิจารณา ถ้าตำรวจและอัยการฟ้องศาลก็ต้องรับฟ้อง ถ้าอยู่ดีๆเราไปฟ้องกันเองศาลไม่รับว่าเราเป็นจำเลย ต้องมีการไต่สวนก่อนว่ามีมูลหรือไม่ ถ้ามีมูลถึงจะเป็นจำเลย ดังนั้นตอนนี้เราอย่าเพิ่งไปกล่าวหาใคร

เมื่อถามว่าสถานะสมาชิกพรรคของนายสุบรรณจะมีไปถึงขั้นให้ออกหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าพรรคเราคงไม่ถึงขนาดนั้น คงพิจารณาเพียงว่า ถ้าสมมุติอัยการสั่งฟ้อง เราก็อาจจะประชุมกรรมการบริหารพรรคเพราะตามกฎหมายถ้าสมาชิก หรือ ผู้สมัครของพรรคไปกระทำความผิด คณะกรรมการบริหารพรรคก็ต้องมีมติ2ใน3 ที่จะขับออกจากพรรค ซึ่งสามารถทำได้

ต่อข้อถามว่าการกระทำของสมาชิกพรรคที่มีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทำให้เสียชื่อหัวหน้าพรรค ในฐานะที่เคยเป็นนายกตำรวจใหญ่อาจทำให้เสียหายได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าเราอาจเคยเป็นนายตำรวจใหญ่มาก่อน ซึ่งไม่ได้ไปปรักปรำใครเพราะอาจจะมีคนที่ไม่มีปัญหาอะไรก็มาพึ่งใบบุญ เพราะชื่อ เสรี พิศุทธ์ คนรู้จักทั้งประเทศ คนก็อยากมาสมัครในพรรคเสรีรวมไทย จะเห็นได้ว่าคะแนนทั้งหมดที่พรรคได้มาจากตนทั้งนั้น เพราะไปที่ไหนคนรู้จักทั้งประเทศ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน