สภาเดือดยิ่งกว่าหม้อไฟ! บิ๊กตู่แว๊บ สว.ซัด สส.เพื่อไทย ขี้ข้าโจร เจอด่ากลับ เลียเท้าทหาร ท้าวางมวย “สมาชิกวุฒิสภา” กวักมือเรียก “ผู้แทนราษฎร” มาดิๆ

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 26 ก.ค.ที่อาคารทีโอที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อพบกับ Dr. Olumuyiwa Benard Aliu ประธานคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสเข้าร่วมการประชุม ICAO Global Aviation Cooperation Symposium ครั้งที่ 3 โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ขอไปพบกับประธานไอเคโอก่อน เดี๋ยวกลับมา”

โดยก่อนหน้านี้ ในที่ประชุมรัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของรัฐบาล โดยยกตัวอย่าง การจัดซื้อรถดับเพลิง ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)กระทรวงมหาดไทย ที่มีการกู้มาซื้อรถดับเพลิง ปี2562 ประมาณ 7,746 ล้านบาท หรือ 72 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ผ่านมาก็มีการซื้อมาทุกปีแต่ไม่เคยนำมาใช้ ซื้อมาจอดไว้เป็นพิพิธภัณฑ์มีมูลค่า 100 กว่าล้านบาท หากไม่เชื่อให้ไปดูได้ที่ศูนย์ปภ.เขต และเป็นการซื้อมาจาก

บริษัทเชส เอ็นเตอร์ไพรส์ เพียงบริษัทเดียว ซึ่งเรื่องนี้ป.ป.ช.ได้ชี้มูลและมีการดำเนินคดีแล้ว ถ้าไม่จริงตนท้าให้ฟ้องเลย เพราะเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่ามีการล็อกสเปกเกิดขึ้นหรือไม่ จึงขอฝากถึงรมว.มหาดไทย ได้ไปตรวจสอบหรือยัง และฝากถึงนายกรัฐมนตรี ต้องจัดการพวกที่ฮั้วประมูลด้วย

นอกจากนั้นยังมีเรื่องการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส3 จ.ชลบุรี ซึ่งมีการแข่งขันระหว่างบริษัทกัลฟ์ เอนเนอจี ดีเวลล็อปเมนต์ ที่ทำเรื่องพลังงาน และไม่เกี่ยวกับเรื่องท่าเรือ ได้เสนอประมูล 12,000 ล้านบาท แต่กลับตีตกเอกสารของอีกบริษัทที่เสนอ 2.6 หมื่นล้านบาท แล้วใครจะเชื่อถือในนโยบายที่เขียน สิ่งที่ตนพูดว่ากู้มาโกง ไม่ได้พูดลอยๆ แต่มีข้อมูลตามที่ระบุ

และรู้สึกโกรธแทนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสากรรม ที่ถูกกั๊กจากกลุ่มดังกล่าว จนนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ต้องไปขอให้นายสุริยะ ได้เป็นรัฐมนตรี ดังนั้นนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ตรวจสอบด้วย รวมทั้งชี้แจงการกู้เงินมาใช้จ่ายซึ่งปีนี้กู้มา 2ล้านล้านบาท หากบริหารอีก4 ปี คงจะไม่ต่ำกว่า 3ล้านล้านบาท รวมกันถึง 5ล้านล้านบาท ขอให้ชี้แจงชัดเจนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างอภิปรายนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ได้ลุกขึ้นประท้วงตามข้อบังคับ 43 ไม่ได้อภิปรายในประเด็นเพราะเรื่องรถดับเพลิงไม่ได้เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ทำให้นายยุทธพงศ์ ลุกขึ้นสวนว่าจะประท้วงอะไร เพราะไม่ได้เอ่ยถึงกลุ่มสามมิตร แล้วจะกลัวอะไร ในเมื่อนายกฯนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย

จากนั้นนายสิระ ได้ประท้วงให้ตรวจสอบเอกสารที่นำมาแสดงในสภาฯเกี่ยวกับเรื่องการประมูลท่าเรือแหลมฉบังว่าได้รับอนุญาตหรือยัง ในระหว่างนี้ส.ส.พรรคพปชร.ได้ลุกขึ้นประท้วงนายยุทธพงศ์ ที่พูดส่อเสียด กล่าวหา ไม่อยู่ในข้อบังคับ จนเกิดการโต้เถียงชุลมุน จน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ สลับกันลุกขึ้นประท้วง

ประธานขอให้ควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในประเด็น พร้อมถอนคำพูดเสียดสี กล่าวหา ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวประท้วงว่าประธานต้องทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งในการควบคุมการประชุมเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับเนื่องจากนายยุทธพงศ์อภิปรายในเรื่องการทำงานของรัฐบาลในอดีต

ระหว่างที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายด้านการปราบคอร์รัปชั่นดังกล่าว ซึ่งเป็นเวลาขณะเดียวกันกับที่นายกฯ ต้องเดินทางไปปฎิบัติภารกิจนอกสถานที่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดย นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นกล่าวระหว่างอภิปรายว่า ผมมีภารกิจเพื่อชาตินะครับ ต้องไปพบกับประธานไอเคโอ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายยุทธพงศ์ ถามว่า แล้วท่านนายกฯเกี่ยวไหมครับ กับเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอบว่า ก็เกี่ยวสิครับ ก็มันอยู่ในขั้นตอนกระบวนการไปถึงไหน เขาฟ้องศาลไปถึงไหนกันอยู่ไม่ใช่เหรอ นายยุทธพงศ์ ได้กล่าวโต้ตอบว่า ไม่มีท่านนายกฯไม่รู้เรื่อง เรื่องมันยังไม่ถึงศาลเลยครับท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอบกลับไปอีกว่า ไม่รู้เรื่อง

จากนั้นนายยุทธพงษ์ พยายามจะกล่าวอ้อนวอน ในนายกรัฐมนตรีพยายามอยู่ฟังให้จบสักครู่ พร้อมกับบอกว่า “นั่นไง ทนฟังไม่ได้ ท่านนายกฯทนฟังไม่ได้ ท่านหนีไป” โดยนายพรเพชรได้พยายามควบคุมการประชุม และบอกว่า นายยุทธพงศ์ กำลังพูดท้าทายนายกรัฐมนตรี

จากนั้นก็มีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จาก ส.ส.ทางฝั่งเพื่อไทย ที่ประท้วงประธาน และ ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ประท้วงผู้อภิปราย คือนายยุทธพงศ์ โดยสุดท้าย นายยุทธ์ได้ถอนคำว่า “นายกฯหนีไป” เป็น “นายกฯไปนั่งฟังนอกสภาฯ” และอภิปรายต่อ

จากนั้น นายกิติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ได้ลุกขึ้นประท้วงประธานในที่ประชุม ว่าปล่อยให้ผู้อภิปราย ซึ่งคือนายยุทธพงษ์ ดูถูกเหยียดหยาม โดยได้กล่าวตอบโต้นายยุทธพงศ์ว่าเป็น ส.ส.ขี้ข้าโจร ซึ่งนายพรเพชรได้ห้ามไว้ ซึ่งนายยุทธ์พงษ์เรียกร้องให้ถอนคำพูด โดยระบุตอบโต้กลับไปว่า ตนนั้นมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ได้ดีเพราะเลียรองเท้าทหารเข้ามา

ทำให้สภามีอุณหภูมิเดือดอย่างต่อเนื่อง ประท้วงกันไปมา โดยนายกิติศักดิ์ ได้เดินเข้าไปชี้หน้านายยุทธพงษ์ และเรียกเพื่อท้ามาตัวต่อตัว อยู่หลายครั้ง จากนั้น นายนายกิติศักดิ์ได้เดินวอล์กเอ้าท์ออกจากห้องประชุมสภาไปทันที

ด้านอนุชา กล่าวว่า ขอชี้แจงที่ถูกพาดพิงว่าเมื่อก่อนเคยอยู่กลุ่มสามมิติจริง และเคยพูดจริงว่าไม่เป็นรัฐมนตรีก็ได้แต่ขอให้นายสุริยะได้ทำหน้าที่เพราะตนเป็นลูกผู้ชายพอ ทั้งตน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ ได้เลยเดินออกมาจากพรรคการเมืองหนึ่งแต่มียุคหนึ่งที่ต้องออกมาเพราะไม่สามารถทำการเมืองในปัจจุบันได้ จากนั้นนายพรเพชรได้ให้นายกิตติศักดิ์ถอนคำพูดแต่ปรากฏว่าไม่ยอมถอน ส่วนนายยุทธพงศ์ ยอมถอนคำพูดว่าส.ส.ขี้ข้าโจร เพื่อให้ดำเนินการอภิปรายต่อไปได้


 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน