บิ๊กตู่ ยันเชื่อใจ มาดามน้อง โต้มีเอี่ยวทุจริต ซัดมีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ

บิ๊กตู่ / เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อการอภิปรายกรณีถูกกล่าวหาเรื่องความไม่โปร่งใสโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ หรือลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า และพาดพิงถึงเพื่อนของภรรยาพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งร่วมรุ่นบ.ย.ส.15 อาจเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้หรือไม่ว่า

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โครงการนี้เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) โดยเป็นเงินงบประมาณที่ได้มาจากเงินค่าธรรมเนียมตรวจคนเข้าเมือง ที่ผ่านมาสตม.ใช้ระบบคัดกรองผ่านระบบลายนิ้วมือเป็นหลัก แต่ต้องเปลี่ยนมาเป็นลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า ซึ่งเป็นระบบทั่วโลกหลายประเทศได้ใช้ นอกจากนี้กระทรวงการคลังพิจารณาความคุ้มค่าก่อนการอนุมัติให้ใช้เงินแล้ว ตร.ทำสัญญากับกิจการค้าร่วมเอ็มที และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับเพื่อใช้ในราชการแล้วตั้งแต่เดือนส.ค. 2562 และมีการติดตั้งจำนวน 1,843 ชุด

“ขอความเป็นธรรมว่าในเรื่องของการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนั้น ก็มีหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันแล้วต้องไปร่วมกระทำความผิด ถ้ามาเหมากันแบบนี้ผมคิดว่าหลายคนที่หนีไปก็มีเพื่อนร่วมรุ่น หมายความว่าต้องผิดทุจริตกันหมดอย่างนั้นหรือ ผมคิดว่าอยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาผมเป็นอาจารย์มาก่อนและเตือนผมเสมอในเรื่องการทุจริตมาตลอด”พล.อ.ประยุทธ์อภิปราย

พล.อ.ประยุทธ์ อภิปรายต่อว่า สำหรับการส่งมอบงานล่าช้านั้น มีปัญหาส่วนหนึ่งจากหน่วยงานเองด้วย โดยช่วงที่มีการกำหนดการส่งมอบงานปรากฏว่าเมื่อต้องมีการติดตั้งสัญญาณ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกลับไม่สามารถดำเนินการได้ ไปจนถึงสถานที่ในการดำเนินการก็ไม่มีความพร้อมสำหรับการติดตั้ง ซึ่งเป็นความบกพร่องของฝ่ายเราเองด้วย ตนจำได้ว่ามีการตรวจสอบการจัดซื้อรถถังโดยหน่วยงานของรัฐ มีการบอกว่าราคาในเว็บไซต์ถูกกว่า แต่การซื้อของแบบนี้จะซื้อผ่านทางเว็บไซต์ไม่ได้ เพราะการทำสัญญาจัดซื้อนั้นจะต้องซื้อระบบด้วย ที่แพงคือ ระบบ ระบบมาจากต่างประเทศ ถ้าเขาไม่ขายมาให้ก็ทำไม่ได้

“ดังนั้นการดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามกติกา ซึ่งกรณีที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงราคาของเครื่องเปล่าเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีซอฟแวร์ด้วยถึงจะทำงานได้ และซอฟแวร์ใหม่จะต้องเชื่อมกับซอฟแวร์เดิมด้วย สรุปแล้วการจัดซื้อของจะต้องรวมการติดตั้งและการรับประกันด้วย”

“การดำเนินการจัดซื้อทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากจะมีมาดามคนใดไปยุ่งเกี่ยวก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยา เวลานี้มีคนอ้างชื่อนายกฯ รองนายกฯเป็นจำนวนมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ ถ้าอยากรู้ว่านายกฯสั่งการจริงหรือไม่ ให้ถามได้ เวลานี้มีการใส่ร้ายป้ายสีทางสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปหมด อย่างเมื่อวานที่มีการพูดจาในเรื่องนี้ ผมกราบเรียนว่าเราจะต้องสืบหาข้อเท็จจริง เพราะเกิดความเสียหายกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของการติดตามและตรวจพบว่าใครด่ากันไปด่ากันมา ซึ่งเป็นการไม่ดีเลยที่มีการปลุกระดมคนให้มาทะเลาะกัน ผมจะตรวจสอบด้วยว่าบางพรรคก็ทำ ทำเยอะด้วย ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกันหมด ไม่ได้ขู่ใคร แต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย”นายกฯอภิปราย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงถึงข้อกล่าวหาของนายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่ระบุรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีวันเอ็มดีบีว่า ตนไม่อยากไปก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยืนยันมีสองคนที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งคนรับโทษในเรือนจำไปแล้ว อีกคนหนึ่งที่มีการอ้างว่ามีหมายแดงและเข้าออกประเทศไทยนั้น ได้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการว่าหมายแดงได้ออกมาหลังจากนั้นไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้นได้เข้าออกประเทศเหมือนกับบุคคลทั่วไป เพราะยังไม่มีหมายแดง และวันนี้สิงคโปร์ต้นทางที่ออกหมายแดงก็ได้ยกเลิกหมายแดงไปแล้ว ข้อสำคัญคือ คนที่เข้าออกประเทศไทยคนนี้เขามีสิทธิของเขาพอสมควรเหมือนกันจากบัตรอีลิทการ์ด ซึ่งไม่รู้ว่าใครทำให้เขา

“บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโจมตีกัน เพราะเสียหายต่อความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้สึกว่าท่านชอบเหลือเกินในการที่จะทำให้ต่างประเทศลดความเชื่อมั่นผมและประเทศไทย แต่ไม่เป็นไรครับ ผมทนได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน