ญาติเหยื่อสลายการชุมนุม 99 ศพ เมื่อปี 53 บุกบก.ทบ. ยื่นหนังสือถึงบิ๊กแดง เร่งทบทวนการจัดซื้ออาวุธ ในภาวะที่ประเทศประสบปัญหาโควิด ชี้ควรนำเงินมาดูแลประชาชน

วันที่ 24 เม.ย. นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ และนางพะเยาว์ อัคฮาด ญาติเหยื่อ 99 ศพ ที่เสียชีวิตจากการกระชับพื้นที่ จากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 เดินทางยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เพื่อขอให้ยุติการจัดซื้ออาวุธในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด

ระบุว่า ตามที่ขณะนี้ทั่วโลกกำลังประสบวิกฤติโรคระบาดจากไวรัสโควิด 19 ซึ่งแพร่กระจายเป็นวงกว้างทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก ประเทศไทยเป็นอีกประเทศที่มีการระบาดของไวรัสชนิดนี้โดยเริ่มระบาดในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตหลายราย ทำให้รัฐบาลประกาศนโยบายอันเป็นการจำกัดสิทธิหลายประการ เช่น ห้ามประชาชนเดินทางหรือห้ามรวมตัวรวมกลุ่มอันอาจสั่งผลกระทบทำให้เกิดการแพร่เชื้อ

พ่อเฌอ-แม่เกด ยื่นจดหมายบิ๊กแดง

พ่อเฌอ-แม่เกด ยื่นจดหมายบิ๊กแดง

ซึ่งหลายมาตรการทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องประสบภาวะไร้งานทำ ขาดแคลนอาหารและอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลหลายแห่งประสบภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ในการรักษา ดังปรากฏในข่าวรายวันว่ามีคนฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากการขาดแคลนอาหาร ความสิ้นหวัง ไร้รายได้ ประชาชนจำนวนมากต้องรอรับการบริจาคอาหารจากผู้มีจิตเมตตา ประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤติอันยากจะเยียวยาทั้งในปัญหาเฉพาะหน้าและในระยะฟื้นฟูซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปี

จดหมายเปิดผนึกจี้ผบ.หยุดซื้ออาวุธ

จดหมายเปิดผนึกจี้ผบ.หยุดซื้ออาวุธ

จดหมายเปิดผนึกจี้ผบ.หยุดซื้ออาวุธ

จดหมายเปิดผนึกจี้ผบ.หยุดซื้ออาวุธ

ขณะเดียวกันกองทัพบกซึ่งสังกัดกระทรวงกลาโหมกลับดำเนินการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก สวนทางกับภาวะที่ประเทศประสบปัญหาทั้งที่ประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามหรือมีภัยคุกคามอันถึงขนาดต้องตระเตรียมการรบแต่อย่างใด มิหนำซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในหลายรายการที่จัดซื้อก็เป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนอย่างสิ้นเปลือง ไม่สมเหตุสมผลในการจัดซื้อทั้งในแง่ราคาที่สูงเกินสมควรและความจำเป็นในการซื้อ ทำประหนึ่งว่าประเทศมีเงินมากมายมหาศาล ทั้งที่ประชาชนในประเทศยากแค้นแสนเข็ญ และกำลังประสบภาวะวิกฤติอย่างแสนสาหัส

ข้าพเจ้า ในฐานะประชาชนมิอาจทนนิ่งดูพวกท่านผลาญงบประมาณแผ่นดินโดยมิคำนึงถึงประชาชนในชาติ จึงขอยื่นข้อเรียกร้องต่อกองทัพดังนี้

1. ให้กองทัพงดเว้นการจัดซื้ออาวุธตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 รวมทั้งงบผูกพันอันจะต้องจ่ายของกองทัพทั้งหมด รวมทั้งงดเว้นการซื้ออาวุธในปีงบประมาณถัดไปอีก 3 ปี และคืนเงินงบประมาณในปี 2563 คืนแก่รัฐเพื่อที่รัฐจะได้นำเงินดังกล่าวมาดำเนินการบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และแก้ไขสถานการณ์อันเป็นวิกฤติขณะนี้ให้เบาบางไป ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่มีความจำเป็นต้องใช้ตามราชการอันสมควรและจำเป็น ให้กองทัพชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรถึงความจำเป็นอย่างแท้จริงและจัดซื้อให้น้อยที่สุดตามความจำเป็นนั้น ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจ สังคมและวิกฤติของประเทศเป็นที่ตั้ง

2. ให้กองทัพงดเว้นการให้สวัสดิการแก่บุคลากรของกองทัพจนเกินสมควร เช่น เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มสำรับรถประจำตำแหน่งของนายทหาร ค่าเบี้ยหวัดประชุมที่สูงเกินสมควร รวมทั้งสวัสดิการอื่นอันเกินจำเป็นโดยไม่คำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคมและวิกฤติของประเทศ และให้บุคลากรของกองทัพงดเว้นการรับเงินอันทับซ้อนกันในการปฏิบัตรราชการทั้งในหน่วยงานเดียวกันและหลายหน่วยงาน

3. ให้กองทัพงดเว้นการกระทำใดๆอันจะเป็นการผลาญงบประมาณแผ่นดินในช่วงวิกฤติ ไม่ปฏิบัติงานอันเป็นการล้นเกินและใช้งบประมาณโดยอ้างวิกฤติอันเปล่าประโยชน์ รวมทั้งต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนจนเกินกว่าเหตุหรือเกินกว่ากรณี

ด้วย 3 ข้อเรียกร้องนี้ ขอให้กองทัพรับไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน