“พิชัย” ห่วงสูญญากาศ กม.ทำ ศก.ยิ่งทรุด อัดคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินยิ่งทำไทยเสียหาย เสนอดิจิตัลไทยแลนด์ฟื้นฟูปรับเปลี่ยนประเทศ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามกระแสข่าวการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจยกชุด แต่ยังไม่มีข้อสรุป เหมือนเป็นสูญญากาศทางการเมือง ขณะที่เศรษฐกิจของไทยย่ำแย่หนักลงทุกวัน

ตัวเลขเศรษฐกิจน่าเป็นห่วงมาก บางสำนักให้เศรษฐกิจไทยติดลบถึง -8.8% แต่รัฐบาลกลับไม่มีทิศทางที่จะแก้ไขอย่างชัดเจน ข้าราชการก็ไม่แน่ใจว่าควรดำเนินการแบบไหน เพราะผู้บริหารอยู่อาจจะต้องถูกปรับออกไปเร็วๆนี้ คนใหม่ที่จะเข้ามาจะยังใช้แนวทางเดิมหรือไม่

ดังนั้นหากจะมีการปรับ ครม.เศรษฐกิจต้องเร่งดำเนินการ และผู้ที่เข้ามาจะต้องคิดใหม่ทำใหม่ มีแนวคิดใหม่เพื่อปรับประเทศให้เข้ากับอนาคตของโลกให้ได้ แนวทางการแก้ไขเศรษฐกิจจะต้องคำนึงถึงการแก้ไขทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมไปพร้อมกัน

นายพิชัย กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาเพียงเพื่อสืบทอดอำนาจ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ไม่ได้และไม่มีประโยชน์ วุฒิสภาที่ไม่ได้มีคุณค่าในสายตาประชาชน ระบบเลือกตั้งที่ผิดเพี้ยน การปฏิบัติตัวของ ส.ส.ที่ไม่เป็นตัวอย่างให้กับประชาชน

ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงตำแหน่งกัน ยิ่งทำให้ประเทศเสื่อมลง อีกทั้งสภาวะสังคมที่เสื่อมทราม การยืมทรัพย์คงรูปที่จะถูกนำมาเป็นข้ออ้างในการทุจริตคอรัปชั่นในอนาคต ข่าวการกลั่นแกล้งคนเห็นต่าง ถึงขนาดมีข่าวว่าคนไทยถูกหุ้มหาย

และหลายคนถูกฆ่าในประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดรัฐบาลสั่งปลดล็อกและยกเลิกเคอร์ฟิว แต่กลับยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยิ่งตอกย้ำที่สื่อหลักต่างประเทศวิจารณ์ว่ารวบอำนาจ เพราะน่าจะกลัวโดนประชาชนและนักศึกษาขับไล่

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน หากบริหารผิดทางเหมือนในอดีต ยิ่งทำให้ประเทศไทยย่ำแย่ลงไปอีกนาน จะไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะปรับเปลี่ยนประเทศเพราะรัฐบาลกู้เงินใช้เต็มวงเงินแล้ว จนหนี้สาธารณะของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.1 ล้านล้านบาทแล้ว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ศึกษาแนวทางที่ตนได้เสนอไว้แล้ว คือการปรับเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็น ระบบดิจิตัลทั้งหมด (Digitalization) เริ่มต้นจากปรับเปลี่ยนระบบราชการ เพิ่มประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ประเทศไทยพัฒนาตามโลกได้ทัน สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชนมากขึ้น ประเทศจะฟื้นกลับมาได้ดีกว่าเดิม

ในภาวะวิกฤตินี้ไม่มีโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์จะทำผิดซ้ำซากอีกแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเปิดใจกว้างรับฟังทุกเรื่องและนำไปศึกษาให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการ หรือแม้กระทั่งการสื่อสารให้ถูกต้อง จะพูดและจะทำผิดๆถูกๆ อีกไม่ได้แล้ว ถ้าหากรู้ตัวว่าไม่มีความสามารถเพียงพอก็ควรจะต้องลาออกไป อย่าทำให้ประเทศเสียหายยิ่งไปกว่านี้


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน