เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2563 นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญศึกษาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ก่อนลงมติรับหลักการ 6 ฉบับ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อนุกมธ.พิจารณาเสนอความเห็นประเด็นข้อกฎหมาย ในกมธ.วิสามัญศึกษาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ก่อนลงมติรับหลักการ 6 ฉบับ มีมติเสียงข้างมากให้ทำประชามติหลังผ่านการแก้ไขวาระที่ 3 ก่อนที่นายกฯจะนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ แต่เสียงส่วนน้อยที่เป็น ส.ว. เห็นควรทำประชามติ 2 ครั้งว่า มติของอนุกมธ.พิจารณาเสนอความเห็นประเด็นข้อกฎหมาย เป็นแค่เสียงข้างมาก ไม่ถือเป็นเสียงชี้ขาด เพราะไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญ

ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยสวนทางกับความเห็นของนักวิชาการอยู่บ่อยครั้ง เรื่องนี้ต้องนำไปหารือในที่ประชุมกมธ. อีกครั้งว่า จะมีความเห็นอย่างไร แต่เท่าที่ทราบกมธ.จะไม่ลงมติชี้ถูกชี้ผิดในประเด็นข้อกฎหมายอย่างชัดเจนลงไป แต่จะใช้การเสนอความเห็นระบุเป็นทางเลือกของทุกฝ่าย เพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภารับทราบเพื่อใช้ตัดสินใจในการลงมติ

การแก้รัฐธรรมนูญที่อนุกมธ.มีความเห็นว่า ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น ตนไม่ติดใจ แต่กรณีการแก้รัฐธรรมนูญโดยการตั้งส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับนั้น ยืนยันว่าต้องผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อนลงมติรับหลักการ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยปี 2555 ว่า การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับควรสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อน

ถ้าคิดว่าจะยกร่างใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่ต้องทำประชามติสอบถามประชาชนก่อน เชื่อว่า จะมีผู้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแน่ ถ้าเป็นเช่นนี้สมาชิกรัฐสภาคงต้องคิดให้ดีว่า จะลงมติรับหลักการหรือไม่ ถ้ารู้ว่าลงมติไปแล้วจะมีปัญหาตามมาแน่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน