ช่อ พรรณิการ์ ลงพื้นที่ช่วยทีมงานหาเสียงชิง นายก อบจ.ภูเก็ต โดนกลุ่มคนไม่เห็นด้วยกว่า 10 คน ตะโกนไล่ ชูป้ายด่า กลางตลาด แต่ ช่อ ยังใจเย็น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 17 ธ.ค.63 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาลนครภูเก็ต 2 หรือ ตลาดเกษตร อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อช่วยหาเสียงในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.ภูเก็ต ให้กับ นายสรวุฒิ ปาลิมาพันธ์ ผู้สมัครหมายเลข 3 คณะก้าวหน้าภูเก็ต และผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต โดยมีการแจกเอกสารแผ่นพับนโยบายที่จะทำหากได้รับการเลือกตั้ง
- อ่านข่าว “ช่อ” พรรณิการ์ ลงพื้นที่โคราช ช่วยว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ. หาเสียง
- อ่านข่าว กลุ่มเสื้อเหลือง ป่วนปราศรัย เปิดหนักแผ่นดินสนั่น ขู่บุกเวทีถ้า ‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ’ ขึ้นพูด
- อ่านข่าว ภูเก็ต ระอุ! ฮือไล่ ‘ธนาธร’ หนักแผ่นดิน ลั่นเนรคุณ แผ่นดินย่าไม่ต้อนรับ (คลิป)
โดยมีทั้งผู้ให้การสนับสนุนรับเอกสารและขอถ่ายภาพ รวมทั้งให้กำลังใจกับทางกลุ่มของคณะก้าวหน้าด้วย ขณะเดียวกันได้มีผู้เห็นต่างประมาณ 10-15 คน มาตะโกนขับไล่ พร้อมตะโกนว่า หนักแผ่นดิน และยังมีแผ่นป้าย ข้อความว่า “ชาวภูเก็ต ไม่ต้อนรับ ทรราช คนขายชาติ” และ อย่าเนรคุณแผ่นดิน ซึ่ง น.ส.พรรณิการ์ ก็ไม่ได้มีการตอบโต้แต่อย่างใด มีเพียงทีมงานพยายามกันผู้เห็นต่าง เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหา
ด้าน นายสรวุฒิ ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต ได้พยายามกล่าวชี้แจงว่า เห็นต่างไม่เห็นไร แต่ต้องการขอโอกาสและอยากให้ฟังนโยบายของทางคณะก้าวหน้าภูเก็ตที่ต้องการสร้างการเมืองใหม่ และยืนยันว่า ทางคณะก้าวหน้าไม่ได้มีแนวคิดในเรื่องของการล้มล้างสถานบันแต่อย่างใด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเดินหาเสียงบริเวณดังกล่าว ซึ่งไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวภายหลังการเดินหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.ภูเก็ต ว่า ในพื้นที่ภาคใต้ มีข่าวคราวต่างๆ ที่หลายท่านมองแล้วไม่สบายใจ แต่ตนก็ยังยืนยันว่า ทุกครั้งที่มาภาคใต้ และสำหรับภูเก็ตในรอบสัปดาห์นี้ได้มาเป็นครั้งที่สอง ยังมีลักษณะเหมือนกันคือ เมื่อลงไปในพื้นที่หาเสียงแม้จะมีภาพออกมาในลักษณะเหมือนจะมีความวุ่นวาย แต่จะสังเกตว่าพ่อค้าแม่ค้า และผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ ก็ยังคงมีการรับแผ่นพับนโยบายที่ยื่นให้ไปซึ่งเป็นเรื่องปกติ
และหลายๆ คนก็ยังให้กำลังใจสู้ต่อไป ไม่ต้องสนใจ พร้อมจะเลือกอย่างแน่นอน ซึ่งคิดว่าด้วยนโยบายที่นำเสนอนั้น จะทำให้เราไปสู่ชัยชนะ ไม่ได้หมายความว่าผู้สมัครนายกฯ คือ คุณสรวุฒิ ได้เป็นนายกฯ เพียงอย่างเดียว แต่เป็นชัยชนะของการเมืองใหม่ ชัยชนะของการเมืองที่ใช้นโยบายใช้ความจริงใจสู้กับอำนาจเงิน
และขณะนี้ที่แรงกว่าเงิน คือ อำนาจความเกลียดชังที่สาดเข้าใส่กัน ไม่มีใครอยากอยู่ในประเทศที่คนเห็น ซึ่งเรื่องเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ชอบก็รับใบปลิว ซึ่งคนไม่รับก็มีและเขาก็เฉยๆ ไม่ได้มาตะโกนด่า นั่นคือความสวยงามของประชาธิปไตย และอยากบอกว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไร วันที่ 20 ธ.ค.นี้ ไปตัดสินกันที่คูหาเลือกตั้ง