“พิธา” เตือนรัฐบาล ล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่เสี่ยง หวั่นพิษเศรษฐกิจร้ายแรงกว่าโควิด แนะปฏิรูประบบแรงงานข้ามชาติ ชี้เป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่ไทยขาดไม่ได้

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 22 ธ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า โควิด-19 ทำให้หลายคนกลับเข้าสู่ความวิตกอีกครั้ง ซึ่งนั่นดูจะเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่สำหรับปีหน้า ตนคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด สับสน และไม่ชัดเจนของรัฐบาล จนนำไปสู่ความกลัว แน่นอนว่า โควิด-19 ไม่ใช่เชื้อกระจอกหรือไวรัสธรรมดาดังที่รัฐมนตรีพูด แต่ไม่ได้หมายความว่าการกลับมาเจอตัวเลขผู้ติดเชื้อจะหมายถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายเสมอไป

นายพิธา ระบุว่า เพื่อให้ประเทศเดินหน้าควบคู่กับการควบคุมโควิด เราไม่ต้องวางเป้าผู้ติดเชื้อเป็น 0 ไปตลอด แต่ต้องมีเป้าหมายรุกตรวจได้เร็วขึ้น จัดการกับมันได้ดีขึ้นกว่าเดิม ตนเชื่อในความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข แม้ตัวเลขไม่เป็น 0 แต่เราสามารถรับมือได้ไปพร้อมๆ กับการดูแลความสมดุลของภาคเศรษฐกิจได้ เพราะพิษเศรษฐกิจที่ได้ทำร้ายหลายล้านคนตั้งแต่เมื่อต้นปี หลายครอบครัวยังไม่สามารถกลับมาฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องระวังอย่างยิ่ง และต้องตระหนักว่าพิษเศรษฐกิจที่เกิดจากการล็อกดาวน์ ถ้าหนักหนาและเข้มงวดเกินไป จะเป็นภัยร้ายแรงกว่าโควิด19 เสียอีก

ขณะที่เรื่องแรงงานข้ามชาติ นายพิธา ระบุว่า ตลอดปีที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งมั่นกับการควบคุมเชื้ออย่างเข้มงวดโดยไม่สนใจว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ส่งผลให้หลายธุรกิจทยอยล้มหายตายจาก กลุ่มแรกๆ คือบรรดาธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม นักดนตรี บาร์ ขณะที่ภาคเศรษฐกิจบางส่วน ยังคงต้องการแรงงานข้ามชาติเพื่อเข้ามาพยุงธุรกิจหลังการล็อคดาวน์ แต่เงื่อนไขหรือความช่วยเหลือของรัฐที่ไม่เอื้อนัก

“ผมอยากให้เรายอมรับความจริง ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ว่าในปัจจุบัน แรงงานข้ามชาติคือส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่เราขาดไม่ได้แล้วสำหรับสังคมไทยที่แก่ตัวลงไปทุกวัน ในขณะที่นโยบายรัฐบาลก็ไม่มีการปรับตัวอะไร ทำให้การนำเข้าแรงงานข้ามชาติอย่างถูกต้องและควบคุมได้มีต้นทุนที่สูงไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ผลักให้คนต้องไปนำเข้าแรงงานข้ามชาติด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย นี่ยังไม่นับรวมขบวนการหาประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ”

นายพิธา ระบุอีกว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้ เราควรใช้เป็นโอกาสในการปฏิรูปการจัดการแรงงานข้ามชาติใหม่โดยภาครัฐต้องมีนโยบายที่เหมาะสมสอดคล้องกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายที่เอื้อต่อการเข้ามาอย่างถูกต้อง ตรวจเชื้อ กักตัวและติดตามตัวได้ด้วยต้นทุนที่เหมาะสมกับนายจ้าง ให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมายเข้ามาอยู่ในระบบและเสียภาษีอย่างถูกต้อง

เรื่องสำคัญที่รัฐบาลไทยไม่ควรละเลยคือ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มแรงงานข้ามชาติหลายล้านคน โดยเฉพาะในจ.สมุทรสาคร ที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานมายาวนาน พวกเขาต้องอยู่ในที่อยู่อาศัยที่แออัดและเข้าไม่ถึงระบบสุขภาพ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุสำคัญของการระบาดของไวรัสในครั้งนี้

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุเพิ่มเติมว่า เรื่องสุดท้ายที่หลายคนเป็นกังวลกันคือมาตรการล็อกดาวน์ ว่าจะเกิดการล็อกดาวน์ขึ้นทั่วประเทศหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่ารัฐบาลควรให้ความชัดเจนโดยเร็ว โดยมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าการล็อกดาวน์นั้นจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ไหน ตนคิดว่าการล็อกดาวน์ทำได้ในลักษณะจำกัดวงหรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และควรมาพร้อมกับการเยียวยาที่ชัดเจน จะต้องไม่มีคำถามว่าทำไมไม่ได้ 5,000 อีก เพราะการล็อกดาวน์ทำร้ายเศรษฐกิจปากท้องมากมายเหลือเกิน และกิจกรรมช่วงปีใหม่ควรจะสามารถทำได้ หากมีการประเมินถึงความเสี่ยงน้อย มีมาตรการคัดกรองและการเว้นระยะห่างที่ชัดเจน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน