มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ค้านราชทัณฑ์ โกนผมผู้ต้องหา ยันชัดขัดกฎหมาย ยกเทียบเคส สุเทพ-กปปส. ไม่โดนตัด แต่ชาวบ้านบางกลอย-กลุ่มราษฎร โดน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 22 มี.ค.64 นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ คัดค้านการโกนผมผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังในทัณฑสถาน ระบุละเมิดสิทธิมนุษยชน ขัดรัฐธรรมนูญและผิดระเบียบกรมราชทัณฑ์
ในหนังสือระบุว่า ตามที่มีข่าววิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมา ถึงการตัดผม/โกนผมผู้ต้องขังในทัณฑสถาน โดยเริ่มจากกรณีตัดผม/โกนผม นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก ผู้ต้องหาฝากขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 แต่ต่อมากรณีผู้ต้องหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ 7 อดีตแกนนำ กปปส.ที่ถูกฝากขัง กลับไม่ได้รับการตัดผม/โกนผม จนออกจากทัณฑสถานเมื่อได้รับการประกันตัว
- ลิดรอนสิทธิ? ชาวเน็ตตั้งคำถาม แอมมี่ สมควรถูกโกนผมหรือไม่
- กรมราชทัณฑ์ แจงหลังทนายโวย เพนกวิน โดนขังรวมนักโทษเด็ดขาด
- ”สุเทพ” เปิดใจหลังพ้นคุก ยันเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ น้ำตาคลอ หลังได้รับการปล่อยตัว
ล่าสุดกรณีผู้ต้องหาชาวกะเหรี่ยงบางกลอย 22 คน ที่ฝากขังตามความผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ปรากฏว่าผู้ต้องหาชาย 20 คนถูกตัดผม/โกนผม มีผู้นำทางจิตวิญญาณ 2 คน ที่ไม่ต้องถูกตัดผม/โกนศีรษะ ด้วยมีความเชื่อตามประเพณีที่จะไม่ตัดผม
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 29 ระบุรับรองสิทธิผู้ต้องหาคดีอาญา ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้น เสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้
ในระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการตัดผมผู้ต้องขัง พ.ศ.2557 ระบุชัดเจนว่า จะตัดผมสั้นเฉพาะนักโทษเด็ดขาดชาย คือบุคคลซึ่งถูกขังตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งศาลพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิด
แต่ในกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ 3 กรณีข้างต้น เป็นเพียง “ผู้ต้องหาที่ถูกฝากขัง” ไม่ใช่ “นักโทษเด็ดขาด” จึงไม่สามารถทำการตัดผม/โกนผมได้ ซึ่งระเบียบฯให้ผู้ต้องขังชายตัดผมแบบชนสามัญ ซึ่งหมายถึงสามารถไว้ผมได้ตามปกติสามัญ ไม่สามารถถูกบังคับให้ตัดผม/โกนผมได้
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เส้นผมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของมนุษย์ ผู้ใดจะมาตัดหรือโกนหรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดต่อเส้นผมไม่ได้ เมื่อผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังในทัณฑสถานยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่มีสิทธิและอำนาจในการโกนผมผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิในร่างกาย ทั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญและระเบียบกรมราชทัณฑ์ โดยเลือกปฏิบัติทำกับผู้ต้องหาชายตลอดมา จึงขอให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและไม่ละเมิดสิทธิของผู้ต้องขัง
