‘ธีรัจชัย’ แฉพิรุธเจ้าหน้าที่เรือนจำ พูดขัดแย้งหลายจุด ปมคุมแกนนำม็อบตรวจโควิดยามวิกาล ทั้งที่เจ้าหน้าที่อยู่ใกล้ชิดผู้ต้องขัง ยังไม่เคยโดนตรวจ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.64 ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีผู้ต้องหาทางการเมือง 7 คน ที่ย้ายจากเรือนจำธนบุรี มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แล้วถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาพาไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตอนกลางคืน ถึง 4 ครั้ง ทำให้นายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร ผู้ต้องหาซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เขียนจดหมายเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เเละการกระทำเช่นนี้เป็นการประพฤติชอบในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มคลับเฮาส์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นายธีรัจชัย กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง 5 คน หลังจากเมื่อวันที่ 16 มี.ค. มีการพิจารณาคดีทางการเมืองผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ซึ่งนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ เเละนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ทั้ง 3 คนถูกแยกไปคุมขังที่เรือนจำธนบุรี เเละต่อมาได้ย้ายไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เวลา 18.46 น.

ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. มีการสั่งให้เเยกผู้ต้องขังทั้ง 3 รายออก โดยเเจ้งว่าสมควรนำมากักขังที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด เเต่เกิดข้อขัดข้องเพราะผู้ต้องขังไม่ยอม อ้างว่าได้ตรวจเชื้อเเล้ว ต่อมาเวลา 23.34 น. เเพทย์เเดนที่ 2 ได้ไปตรวจเชื้อเเต่ไม่ได้รับความยิมยอม เวลา 00.06 น. เเพทย์ไปที่เรือนจำรอบที่ 2 เเต่ยังไม่ได้รับความยินยอมอีก จนเวลา 02.11 น. เเพทย์พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษ เเละชุดปฏิบัติการพิเศษได้ไปที่เดิม เพื่อตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้ง

ซึ่งตนสอบถามว่ามีระเบียบอย่างไรถึงต้องทำเช่นนี้ ได้รับคำตอบว่าร่างกายต้องมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาขึ้นไป เเละเป็นบุคคลที่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ตนจึงถามว่าทั้ง 3 คน อุณหภูมิเกินหรือไม่ ไปอยู่พื้นที่เสี่ยงได้อย่างไร เพราะถูกควบคุมตัวตลอด 7 วันก่อนหน้านี้ เเละผู้ต้องหาได้ตรวจหาเชื้อมาจากเรือนจำธนบุรีหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบได้เเค่ว่า ผู้ต้องหาไปอยู่ในพื้นที่บางเเคที่มีการเเพร่เชื้อ ในขณะที่ผู้ต้องหาตอบว่า ไม่ได้ไปพื้นที่บางแค เพราะถูกควบคุมตัวอยู่ตลอด

ส่วนคำถามอื่นๆ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวขัดเเย้งกับเหตุผล เป็นคำตอบที่ไม่ชัดเจน จึงต้องหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยตนสอบถามเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษที่มาให้การวันนี้ ว่าเคยตรวจหาเชื้อโควิดหรือไม่ ได้คำตอบ 4 จาก 5 คนว่า ไม่เคยได้รับการตรวจ ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ควรได้รับการตรวจเป็นอันดับเเรกๆ เพราะต้องอยู่ใกล้ชิดผู้ต้องขัง เเต่กลับไม่เคร่งครัดในการตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่

ฉะนั้นการเร่งตรวจกับผู้ต้องหาทางการเมืองทั้ง 3 รายในยามวิกาล สมควรหรือไม่ เรื่องนี้ต้องหาความจริงว่าทำไมต้องทำในลักษณะนั้น โดยตนเสนอในที่ประชุมกรรมาธิการ ป.ป.ช. เพื่อเข้าพบผู้ต้องหาทั้ง 7 คน โดยจะเข้าไปที่เรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าตรงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ชี้เเจงหรือไม่ คาดว่าจะเข้าไปวันที่ 9 เม.ย.

“ควรทำเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่าง เพราะบุคคลที่เป็นผู้ต้องหาทางการเมือง ในรัฐธรรมนูญระบุว่าให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เเต่ในที่นี้กลับโดนคุมขังซึ่งเป็นการลงโทษไปแล้ว จึงเป็นเรื่องต้องทบทวนกันว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ ควรจะทำเช่นไรให้ได้มาตรฐาน” นายธีรัจชัย กล่าว

เมื่อถามว่าต้องเชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้เเจงหรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า ต้องดำเนินไปทีละขั้น ในที่นี้คือระดับปฏิบัติการเเละผู้เสียหาย ในวันนี้ได้คำชี้เเจงเเล้ว ส่วนถ้าเป็นระดับบริหาร คงต้องปรึกษากันอีกครั้ง ว่าจะหามาตรการเเก้ไขเเละป้องกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิผู้ต้องหาที่มีความเห็นต่างทางการเมืองอย่างไร เพราะผู้ต้องหาทางการเมืองไม่ใช่อาชญากรโดยเเท้ จะต้องสร้างบรรทัดฐานใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน