บิ๊กตู่ ย้ายถก ครม.ขึ้นตึกไทย หวั่นโควิดลาม – มอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมรับมอบ กรมธรรม์ประกันภัย คุ้มครอง จนท.ปฏิบัติงาน
เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 11 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ไปยังกระทรวงต่างๆ โดยเปลี่ยนสถานที่จากเดิมที่ใช้ตึกภักดีบดินทร์ เพื่อลดจำนวนคนที่เข้าร่วมประชุมให้เฉพาะเท่าที่จำเป็นตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ เนื่องจากพบบุคลากรที่ปฎิบัติงานในทำเนียบรัฐบาลหลายรายติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้
โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีในการมอบเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 24 ราย จากเงินบริจาค บัญชี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)โดยนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนรับมอบ
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เข้าร่วมด้วย พร้อมรับมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า จะให้การดูแลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ใครต้องติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสิ้น พร้อมขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจในการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ รัฐบาลและ ศบค. ได้เตรียมมาตรการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขอความร่วมมือประชาชนดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สำหรับการมอบเงินช่วยเหลือดังกล่าวสืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ปฏิบัติงาน ด้าน COVID-19 ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงาน ได้แก่ การช่วยเหลือกรณีป่วยหรือบาดเจ็บ และได้รับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน การช่วยเหลือกรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส และการช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตของทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุน การปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข ผ่านบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)”
โดยนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้ร่วมบริจาคเงินเป็นทุนประเดิม จำนวน 2,995,510 บาท รวมทั้งมีหน่วยงานภาคเอกชนและประชาชนผู้มีจิตสาธารณะร่วมบริจาคเงินสมทบในบัญชีดังกล่าว โดยมียอดเงินบริจาค ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 จำนวน 28,327,896.82 บาท ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคฯ ได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 แล้ว รวมทั้งสิ้น 102 ราย เป็นเงินจำนวน 3,800,000 บาท
สำหรับการระบาดระลอกปัจจุบัน รัฐยาลได้ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม จำนวน 24 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 730,000 บาท ประกอบด้วย 1. บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 21 ราย มอบเงินช่วยเหลือ รายละ 30,000 บาท จำนวนเงินทั้งสิ้น 630,000 บาท 2. เจ้าหน้าที่สนับสนุนทั้งด้านสาธารณสุข สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 3 ราย เป็นเงิน 100,000 บาท ประกอบด้วย 1) กรณีบาดเจ็บ (ผู้ป่วยใน) จำนวน 2 ราย มอบเงินช่วยเหลือรายละ 30,000 บาท และ 2) กรณีบาดเจ็บสาหัส 1 ราย มอบเงินช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท