เมื่อวันที่ 28 .ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษกตร.) กล่าวถึงการดำเนินคดีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน หรือ เฟกนิวส์ ซึ่งล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจังและรายงานผลให้ทราบอย่างต่อเนื่อง และให้นำข้อกำหนดข้อที่ 11 ในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) ว่าด้วยเรื่องการห้ามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารมาเป็นแนวปฏิบัติว่า

ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการคู่ขนานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าข่าวใดเป็นข่าวปลอม หรือข่าวบิดเบือน จากนั้น ต้องให้หน่วยงานที่เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ตำรวจก็จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในกรอบของกฎหมาย

ส่วนจะดำเนินคดีเฉพาะบุคคลมีชื่อเสียง หรือประชาชนทั่วไปด้วยนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการแบ่งกลุ่มในลักษณะดังกล่าว เพราะจะเป็นการสร้าง 2 มาตรฐาน ดังนั้น ไม่ว่าใครทำผิด ก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น โดยจะพิจารณาที่บริบท

อีกทั้ง เป็นเรื่องที่จะต้องตีความข้อกฎหมาย ตำรวจจะเน้นขยายผลสืบสวนหาต้นตอของผู้ที่สร้างหรือเผยแพร่ข่าวปลอม มีเจตนาสร้างความเสียหาย ให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ความวุ่นวายในบ้างเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่การใช้กฎหมายปิดปากประชาชน แต่การแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชี่ยล ต้องไม่กระทบสิทธิหรือสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน